เรื่องย่อ รายการ "ก้าวนำโลกกับ 9sci (ไนน์ซาย)" ออกอากาศทุกวันที่ 10 - 11 ก. ค. 43 เวลา 19.00-19.30 น. ช่อง 9 อ.ส.ม.ท.

อังคาร ๐๔ กรกฎาคม ๒๐๐๐ ๑๖:๒๗
กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--เนกซ์สเตป
วันจันทร์ที่ 10 และวันอังคารที่ 11 กรกฎาคม 2543 ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. เวลา 19.00-19.30 น.
"Aliens From Mars" มนุษย์ต่างดาวอยู่ที่ไหน ?
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 1994 ภาพยนตร์แนวไซ-ไฟ เรื่อง Independence Day ทำรายได้อย่างถล่มทลายในสหรัฐด้วยเรื่องราวของประธานาธิบดี ผู้เป็นวีรบุรุษสามารถช่วยโลกให้พ้นจากการรุกรานของมนุษย์ต่างดาว เป็นจังหวะเดียวกับที่ประธานาธิบดีคลินตันกำลังหาเสียงเพื่อการเลือกตั้งครั้งที่สองชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ด้วยรากฐานจากภาพพจน์การเป็นผู้นำแบบกระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวา ในขณะที่ทั้งประเทศพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ความเป็นจริงที่เป็นเรื่องราวซับซ้อนเฉกเช่นนวนิยาย เมื่อนักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซ่าอ้างว่า ได้ค้นพบหลักฐานที่แน่ชัดยืนยันถึงสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นนอกโลก
แต่มนุษย์ต่างดาวที่ทำให้ประธานาธิบดีคลินตันได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่สอง กลับไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะหนืด เหลว เช่นที่เคยพบเห็นจากภาพยนตร์ กลับเป็นเพียงซากที่หลงเหลืออยู่ในฟอสซิลในรูปของแบคทีเรียจากดาวอังคารที่พบได้บนก้อนหินจากบริเวณพื้นที่อันเวิ้งว้างห่างไกลไปในแถบขั้วโลกใต้
ก้าวนำโลกกับ 9 sci ในตอน Aliens from Mars บอกเล่าถึงการสืบค้นเรื่องราวของสะเก็ดดาว ALH84001 โดยการตามรอยเหตุการณ์ต่างๆ ที่เชื่อมโยงเข้ากับความเป็นไปได้ ของการก่อกำเนิดชีวิตขึ้นบนพื้นผิวดาวอังคารเมื่อ 3.5 ล้านปีก่อน หินที่เชื่อกันว่ามาจากดาวอังคารนั้นได้รับการยืนยันจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ และการที่วัตถุรูปร่างคล้ายหนอนที่ถูกตรวจพบโดยนักวิทยาศาสตร์จากองค์การนาซ่า เดวิด แมคเคย์ และทีมงานค้นพบนั้น เคยมีชีวิตอยู่หรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่เราไม่ทราบได้อย่างแน่ชัด
ก้าวนำโลกกับ 9sci ในตอน Aliens From Mars ได้เข้าไปพูดคุยกับนักวิทยาศาสตร์จากทั้งสองด้านของความคิด เป็นเวลายี่สิบปีพอดีหลังจากวันที่ยานไวกิ้งส์ได้ทำลายความหวังว่าจะพบสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารลงอย่างสิ้นเชิง นักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐและรัสเซียต่างพากันส่งยานสำรวจไปเพื่อตรวจสอบหาฟอสซิลอีกครั้ง
1. ฟอสซิลขนาดเล็กในก้อนหินจากดาวอังคาร ; ภาพโดย องค์การ NASA
2. สะเก็ดดาว ; ภาพโดย องค์การ NASA
*หมายเหตุ เป็นภาพลิขสิทธิ์ กรุณาลง Credit ให้ด้วย
วันพุธที่ 12 และวันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2543 ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. เวลา 19.00-19.30 น.
"The Last Mammoth" ช้างแมมมอธตัวสุดท้าย
ในฤดูใบไม้ผลิปี 1993 นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียสามคนได้ประกาศให้สาธารชนได้ทราบถึงการค้นพบที่น่าประลาดใจที่สุดเกี่ยวกับยุคโบราณ ซากของช้างแมมมอธที่ยังคงสภาพมาจนถึงปัจจุบัน การค้นพบครั้งนี้เกิดขึ้นในที่สูงขึ้นไปทางขั้วโลกเหนือในบริเวณไซบีเรีย การค้นพบครั้งนี้ก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่า เหตุใดสัตว์หลายชนิดบนโลกจึงหายสาบสูญไปเมื่อช่วงปลายยุคน้ำแข็ง ? และยังก่อให้เกิดคำถามว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้พวกมันมีชีวิตอยู่ ?
ในภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ นักสำรวจซากแมมมอธได้นำหลักฐานมารวมกันเพื่อค้นหาว่าอะไรที่เป็นตัวการฆ่าเจ้าแมมมอธ การค้นพบครั้งล่าสุดในด้านการวิจัยสภาพอากาศจากบริเวณขั้วน้ำแข็งในกรีนแลนด์ ได้เปิดเผยถึงสภาพอากาศที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาโลกร้อนขึ้น ในประเทศญี่ปุ่น การวิจัยดีเอ็นเอของเนื้อเยื่อจากแมมมอธตัวเล็กที่ถูกพบแช่แข็งอยู่ในไซบีเรีย ซึ่งกำลังทำการตรวจสอบว่าแมมมอธสามารถทนกับยุคน้ำแข็งและการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ แมมมอธที่กลายเป็นฟอสซิลที่ถูกขุดขึ้นมาจากถ้ำแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่าสัตว์ขนาดใหญ่ชนิดนี้กินอะไรเป็นอาหาร และได้นำไปสู่ความสงสัยที่ว่าอาหารที่เริ่มขาดแคลนอาจเป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์ของพวกมัน
ทีละชิ้น ทีละชิ้น - หลักฐานที่สร้างขึ้นแสดงให้เห็นว่าในช่วงที่แมมมอธส่วนใหญ่สูญพันธุ์ไปแล้ว พวกมันต้องทนกับการที่ที่อยู่อาศัยของพวกมันสูญหายไป และยังต้องต่อสู้กับมนุษย์ผู้เป็นนักล่าแมมมอธอีกด้วย นักธรณีวิทยา พอล มาร์ติน ได้เปรียบเทียบช่วงอายุของฟอสซิลแมมมอธตัวสุดท้ายกับฟอสซิลของมนุษย์ยุคแรก และพบการเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองเผ่าพันธุ์ หากแต่หลักฐานที่ขัดแย้งทางด้านโบราณคดีกลับชี้ให้เห็นว่ามนุษย์สามารถอาศัยอยู่ในช่วงระยะเวลาเดียวกับแมมมอธได้ ผู้บุกเบิกถาวรพวกแรกในยูเครนใช้กระดูกแมมมอธในการสร้างบ้านเรือน และต้องพึ่งพาการมีชีวิตอยู่ของแมมมอธเพื่อจรรโลงศิลปวัฒนธรรมและเพื่อใช้เป็นอาหาร
ที่ปลายเส้นทางทอดยาวจากแอฟริกา ผ่านสหรัฐอเมริกา ยูเครน และไซบีเรีย กลับไม่ได้มีปัจจัยที่เด่นชัดข้อใดอธิบายถึงการสูญพันธุ์ของแมมมอธได้ การผสมผสานของเหตุที่กล่าวมาทั้งสองข้อข้างต้นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มันสูญพันธุ์ และยังเป็นสาเหตุที่กำลังเป็นภัยคุกคามต่อญาติที่เหลืออยู่ของเจ้าแมมมอธ นั่นก็คือ ช้างในยุคปัจจุบัน
สารคดีตอนนี้จบลงที่ไซบีเรีย สถานที่ซึ่งแมมมอธเดินบนโลกเป็นครั้งสุดท้าย เกาะแรงเกิ้ล ที่อาร์คติค เซอเคิล ถูกตัดออกจากแผ่นดินใหญ่เมื่อระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ที่นี่คือที่ที่แมมมอธเกือบจะหนีจากการสูญพันธุ์ได้สำเร็จ คือที่ที่พวกมันได้รับการปกป้องจากการคุกคามของมนุษย์ และยังเป็นที่ที่พวกมันอาศัยอยู่ได้นานที่สุด แต่ก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่าเมื่อนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียได้พิจารณาฟอสซิลที่พบอย่างถี่ถ้วน แมมมอธที่สามารถรอดชีวิตอยู่ได้บนเกาะแรงเกิ้ล ได้เดินทางข้ามกาลเวลากลายมาเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ - เจ้าแมมมอธแคระ
3. โครงกระดูกแมมมอธ พบในสุสานช้างที่ประเทศซิมบับเว โครงกระดูกเหล่านี้อาจเป็นเบาะแสที่ทำให้รู้ว่าเหตุใดแมมมอธจึงสูญพันธุ์ ; ภาพโดย Kate O' Sullivan
*หมายเหตุ เป็นภาพลิขสิทธิ์ กรุณาลง Credit ให้ด้วย--จบ--
-อน-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ