กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--เอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์
วอชิงตัน ดีซี - รถยนต์ประหยัดน้ำมัน ฮอนด้า อินไซท์ เครื่องยนต์ระบบขุมพลังแบบไฮบริดที่มีจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับรางวัลพิทักษ์ชั้นบรรยากาศยอดเยี่ยมประจำปี 2543 จากสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา (US. Environmental Protection Agency - อีพีเอ) เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2543 นี้ ทั้งนี้ฮอนด้าเป็นหนึ่งในผู้รับรางวัล 15 ราย ที่ได้รับการยกย่องในฐานะผู้นำในการรักษาสิ่งแวดล้อม และยังเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียวที่ได้รับรางวัลครั้งนี้
แถลงการณ์ของสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกากล่าวว่า "ผู้ที่ได้รับรางวัลรางวัลพิทักษ์ชั้นบรรยากาศยอดเยี่ยมนั้นถือเป็นแบบอย่างที่ดีต่อบุคคลทั่วไปและองค์กรต่างๆ เนื่องจากความตั้งใจจริงและความทุ่มเทในการพิทักษ์สภาพแวดล้อมของผู้ได้รับรางวัลได้ก่อให้เกิดแรงผลักดันอันสำคัญให้บุคคลและองค์กรอื่น ๆ หันมาสนใจและเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนขึ้น"
นายทอม เอลเลียต รองประธานบริหารบริษัทอเมริกัน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า "นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับฮอนด้าในฐานะผู้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรักษาสภาพแวดล้อม ที่รถยนต์ อินไซท์ ของเราได้รับรางวัลจากอีพีเอ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ชาวอเมริกันให้การต้อนรับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฮบริดและให้ความสนใจในรถยนต์ อินไซท์ ทั้งในด้านความประหยัดน้ำมันและการปล่อยค่าไอเสียในระดับต่ำ ซึ่งเป็นปัจจัยในการตัดสินใจซื้อรถใหม่ที่มีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบันนี้"
ฮอนด้า อินไซท์ ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2542 ทั้งนี้ รถยนต์ อินไซท์ รุ่นปี 2543 (เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ) เคยได้รับรางวัลประหยัดน้ำมันสูงสุดจากอีพีเอ โดยสามารถวิ่งได้ระยะทาง 61 ไมล์ต่อน้ำมันหนึ่งแกลลอนเมื่อขับขี่ภายในเมืองและ 70 ไมล์ต่อน้ำมันหนึ่งแกลลอนเมื่อขับขี่บนทางหลวง ซึ่งนับเป็นอัตราประหยัดน้ำมันเกือบ 2 เท่าของรถยนต์ทั่วไป โดยเฉลี่ยแล้วฮอนด้า อินไซท์ มีอัตราการวิ่งโดยเฉลี่ยอยู่ที่ระยะทาง 600-700 ไมล์ต่อการใช้น้ำมันไร้สารตะกั่ว 10.6 แกลลอน
รถยนต์ อินไซท์โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ IMA (Integrated Motor Assist) ขนาด 1.0 ลิตร 3 สูบ ซึ่งเป็นการผสมผสานเครื่องยนต์ซึ่งใช้น้ำมันกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 144 โวลต์ ที่มีน้ำหนักเบาโดยมีแหล่งกำเนิดไฟฟ้าคือแบตเตอรี่แบบนิกเกิล-เมทัล ไฮไดรท์ ซึ่งสามารถชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตเตอรี่ได้เองโดยอาศัยพลังงานจากเครื่องยนต์ซึ่งใช้น้ำมันในขณะขับเคลื่อนและการสร้างพลังงานในขณะที่รถมีการเบรค โดยไม่ต้องอาศัยแหล่งพลังงานไฟฟ้าจากนอกตัวรถ
ฮอนด้า อินไซท์ ซึ่งมีราคาจำหน่ายต่ำกว่า 20,000 เหรียญสหรัฐ ผ่านมาตรฐานการควบคุมค่าไอเสียระดับต่ำสุดอันเข้มงวดของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยสามารถลดการเกิดก๊าซไฮโดรคาร์บอนได้มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ และมีระดับการเกิดก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ น้อยกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 50 เปอร์เซ็นต์
"ในอนาคตอันใกล้นี้ ฮอนด้ามีแผนที่จะนำเทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบไฮบริดไปใช้กับรถตระกูลซีวิค ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่ได้รับความนิยมของฮอนด้า เพื่อแสดงถึงพันธะสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมของฮอนด้าและแสดงให้เห็นว่าลูกค้าของฮอนด้าพร้อมแล้วสำหรับเทคโนโลยีใหม่นี้" นายเอลเลียตกล่าว รางวัลจากอีพีเอในครั้งนี้ถือเป็นรางวัลล่าสุดซึ่งแสดงถึงการยอมรับฮอนด้าในฐานะองค์กรที่มีจุดยืนในพันธะสัญญาด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมมาเป็นเวลายาวนาน โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 เป็นต้นมา ฮอนด้าไม่หยุดยั้งที่จะนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ที่มีอัตราการประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้นและมีค่าไอเสียลดลง โดยเพียบพร้อมทั้งสมรรถนะและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ ตลอดจนได้รับการยอมรับถึงคุณภาพ ความไว้วางใจ สมดังที่ผู้ขับขี่ชาวอเมริกันคาดหวัง
ในปี พ.ศ. 2544 ประมาณ 88 เปอร์เซ็นต์ ของยานยนต์รุ่นใหม่จากฮอนด้า และแอคคิวร่า รวมทั้งรถบรรทุกขนาดเล็กที่ผลิตขึ้นมาจะใช้เครื่องยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีค่าไอเสียต่ำ (LEV) โดยมีอัตราการเกิดก๊าซไฮโดรคาร์บอนต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 70 เปอร์เซ็นต์
ในปี 2544 ฮอนด้าพร้อมที่จะนำเสนอ
- ฮอนด้า อินไซท์รุ่นปี 2544 จะเพิ่มรุ่นเกียร์อัตโนมัติ (CVT) ในกลางปี 2544 ฮอนด้าหวังว่ารถยนต์อินไซท์รุ่นเกียร์อัตโนมัตินี้จะได้รับการรับรองในฐานะที่เป็นรถยนต์ที่มีค่าไอเสียในระดับที่ต่ำที่สุด (SULEV) และบรรลุอัตราการประหยัดน้ำมันของอีพีเอ โดยสามารถวิ่งได้มากกว่า 50 ไมล์ต่อแกลลอนเมื่อขับขี่ในเมืองและบนทางหลวง และมีอัตราการขับขี่โดยเฉลี่ยมากกว่า 500 ไมล์ต่อการใช้น้ำมัน10 แกลลอน
- ฮอนด้า ซีวิครุ่นปี 2544 ได้รับการรับรองจากทั้ง 50 มลรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกาว่าเป็นรถยนต์ที่มีค่าไอเสียในระดับต่ำเป็นพิเศษ (ULEV) โดยมีค่าไฮโดรคาร์บอนน้อยกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 84 เปอร์เซ็นต์ และเป็นรถโดยสารขนาดเล็กที่ได้รับการรับรองว่ามีค่าไอเสียต่ำเป็นพิเศษรุ่นแรกที่มีจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาและได้รับความนิยมสูงสุด
- ฮอนด้า ซีวิค GX รุ่นปี 2544 ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ ได้รับการรับรองให้เป็นรถยนต์ที่มีค่าไอเสียในระดับที่ต่ำที่สุด (SULEV) ไอเสียที่ออกมามีค่าไฮโดรคาร์บอนต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 96 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้สำนักคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกายังยกย่องให้เป็น "รถยนต์ที่สะอาดที่สุดในโลก" เครื่องยนต์ของรถยนต์ซีวิค GX มีระบบการเผาผลาญเชื้อเพลิงภายในที่สมบูรณ์ อีกทั้งเป็นรถยนต์นั่งที่มีค่าไอเสียในระดับต่ำที่สุดเพียงรุ่นเดียวที่มีจำหน่ายทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา
สำนักคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกาได้จัดตั้งรางวัล "พิทักษ์ชั้นบรรยากาศ" ขึ้นในปี 2541 เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณแก่บริษัท องค์กร และบุคคลผู้ใดก็ตามที่ได้ทุ่มเท อุทิศตนในเรื่องการลดระดับมลภาวะที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกไม่ว่าจะเป็นการสร้างกิจกรรมที่ช่วยปกป้องสภาวะบรรยากาศ การคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ การมีบทบาทในการรณรงค์การรักษาสภาพแวดล้อม การนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ผู้ที่ได้รับรางวัลจะได้รับการเสนอชื่อโดยกลุ่มบุคคลในภาคธุรกิจเดียวกัน โดยพิจารณาจากผลงานอันโดดเด่นในการปกป้องสภาวะแวดล้อมของโลก ทั้งนี้กรรมการในการตรวจสอบผลงานจะมาจากทั้งภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และภาคเอกชน จากนั้นสำนักคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา จะเป็นผู้คัดเลือกในรอบสุดท้าย
การคัดเลือกผู้ที่ได้รับรางวัลจะพิจารณาจาก ความคิดริเริ่มสร้างสรรและจุดมุ่งหมายเพื่อสาธารณะ มีแรงจูงใจในตัวกิจกรรมให้ปฏิบัติตามและ/หรือมีการรณรงค์โดยองค์กร มีภาพรวมอันเป็นสากลที่เด่นชัดและโดยนัยยะ สุดท้ายคือมีความสามารถในการลดมลภาวะที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกได้จริงหรือเทียบเท่า
เผยแพร่ในนาม บริษัท เอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด สำนักงานใหญ่ฮอนด้าประจำภูมิภาคอาเซียน โดย บริษัท สปินเลอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ มิสเตอร์ ฮิโรชิ มิคาจิริ หรือ คุณพิมพร ศิริวรรณ ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด โทรศัพท์ 236-0256 โทรสาร 635-1052--จบ--
-อน-
- พ.ย. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: ฮอนด้า ยกระดับมาตรฐานพรีเมียมเอสยูวีไทย เปิดตัว ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 5 ครั้งแรกกับขุมพลัง 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO
- พ.ย. ๒๕๖๗ ยอดส่งออกยานยนต์ฮอนด้าเพิ่มขึ้น 27% ในรอบ 10 เดือน ตรงตามเป้าส่งออกที่ตั้งไว้ 15,500 ล้านบาทในปีนี้
- พ.ย. ๒๕๖๗ การเตรียมพร้อมก่อนถึงโมนาโค กรังด์ปรีซ์, 27 พฤษภาคม 2544