กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--ปตท.
นายวิเศษ จูภิบาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ได้รับเงินจำนวน 3,900 ล้านบาทจาก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) โดยเป็นการชำระหนี้ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2542 จนถึง กันยายน 2544 นายวิเศษ กล่าวว่า การชำระหนี้ของขสมก.สะท้อนให้เห็นว่าทางภาครัฐได้ปฏิบัติตามคำมั่นที่ได้ให้ไว้กับนักลงทุนว่าจะดำเนินการให้ ขสมก.ชำระหนี้ค้างจ่ายทั้งหมดให้แก่ ปตท.รวมทั้งได้ดำเนินการตามนโยบายอย่างเคร่งครัดในการที่จะให้ ปตท. เป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานเชิงพาณิชย์ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติไว้อนึ่ง เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ปตท. ได้รับการประกาศให้ได้รับรางวัล การกระจายหุ้นยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ the Best IPO of the year โดยการสำรวจจากนิตยสารไฟแนนซ์เอเชีย ซึ่งเป็นนิตยสารการเงินและการลงทุนระหว่างประเทศ* เนื่องจาก ปตท.ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการกระจายหุ้น จำนวน 920 ล้านหุ้นเมื่อปลายเดือน พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมียอดผู้สนใจซื้อจากนักลงทุนต่างชาติสูงเกินกว่าหกเท่าจากจำนวนหุ้นที่สามารถจัดสรรให้ และมียอดความต้องการจากนักลงทุนสถาบันภายในประเทศสูงเกินกว่าสามเท่าตัว นิตยสารไฟแนนซ์เอเชีย อธิบายว่า จากมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเฉลี่ยต่อวันสูงสุดที่ระดับ 120 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น การกระจายหุ้น ปตท. ที่มีจำนวนมากถึง 920 ล้านหุ้น มูลค่า 726 ล้านเหรียญสหรัฐ นับว่าเป็นเรื่องยาก ดังนั้นความสำเร็จในการกระจายหุ้นในครั้งนี้ จึงเน้นให้เห็นถึงความสนใจในการลงทุนระยะยาวที่ได้กลับมาในประเทศไทย มากกว่าเพียงแค่น้ำหนักความสนใจที่ ปตท.ได้รับจากนักลงทุนรายย่อย
นิตยสารไฟแนนซ์เอเชีย กล่าวว่า ปตท.ได้ทำการจัดโครงสร้างการขายหุ้นเพื่อให้หุ้น ปตท.มีเสถียรภาพและมีอนาคต โดยมีประเด็นหลักที่ดึงความสนใจจากนักลงทุนสามประการ คือ ประการแรก ปตท.มีธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติที่มีความมั่นคง และสามารถสร้างรายได้ที่ดี ส่วนธุรกิจทางอุตสาหกรรมต้นน้ำ ปตท. ได้รับผลประโยชน์ที่ดีจาก บริษัท ปตท. สำรวจและผลิต (ปตท.สผ.) ซึ่งปตท.ถือหุ้นอยู่จำนวน 61% ทางด้านอุตสาหกรรมปลายน้ำนั้น ผลกระทบต่างๆได้ถูกจำกัดไว้ เนื่องจาก ปตท.ได้ทำการตัดผลขาดทุนออกจากบัญชีปตท.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งสิ่งที่เหลือไว้ก็คือผลประโยชน์ที่นักลงทุนจะได้รับในกรณีที่ธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้กลับดีขึ้นมานอกเหนือจากนี้ ความสำเร็จของ ปตท.หมายถึงความสำเร็จของรัฐบาลไทยในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ และถือเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งแรก (IPO) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ด้วยมูลค่าตลาดที่สูงถึง เก้าหมื่นแปดพันล้านบาท ทำให้หุ้นปตท.มีมูลค่าตลาดอยู่ในอันดับที่สามของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยมีมูลค่าตลาดถึง 8% ของมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด ซึ่งรองจาก ธนาคารกรุงไทย และ บริษัท เอไอเอส ไฟแนนซ์เอเชียกล่าวว่า ผู้ที่อยู่ในวงการและเฝ้าติดตามดูภาวะการลงทุนได้ให้ความเห็นว่า “รัฐบาลชุดทักษิณ ดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างยอดเยี่ยม รัฐบาลไม่โลภมากจนเกินไปในช่วงที่สภาวะตลาดเริ่มไปได้ดี และเมื่อรวมถึงการเสนอราคาที่ยากจะปฏิเสธ จึงคาดว่าทั้งนักลงทุนสถาบันและรายย่อยจะไล่ซื้อหุ้นในตลาดรองต่อไป”*หมายเหตุ - ไฟแนนซ์เอเชีย เป็น นิตยสารการเงินที่ตีพิมพ์เนื้อหา การวิเคราะห์และวิจารณ์แนวโน้มการลงทุนในเอเชียทั้งตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดการลงทุนอื่นๆ--จบ--
-สส-
- พ.ย. ๒๕๖๗ รฟท. ขสมก. และกรุงไทย ผนึกกำลัง ผลักดัน "บัตรเหมาจ่าย" ชำระค่าโดยสาร รถไฟฟ้าสายสีแดง และรถโดยสาร ขสมก. ยกระดับคุณภาพบริการเดินทางระบบราง ระบบล้อแบบไร้รอยต่อ
- พ.ย. ๒๕๖๗ ดร.เอ้ อธิการฯสจล.เชื่อแผนฟื้นฟู ขสมก.อัพเกรดชีวิตคนกรุง
- พ.ย. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: CARRO “พ่นน้ำยา ด้วยน้ำใจ สู้ภัยโควิด” อาสาดูแลรถตู้ขนส่งสาธารณะ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ลดความเสี่ยง COVID – 19