กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (14 มี.ค. 44 ) เวลา 09.30 น.ที่ห้องรางเงิน โรงแรมบางกอกพาเลซ นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการสร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหามูลฝอยของประชาชนในกทม. โดยมี นายโยธิน ทองคำ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายพิชัย ไชยพจน์พานิช ผู้อำนวยการสำนักรักษาความสะอาด ผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกว่า 150 คน ร่วมในการสัมมนา
ผู้อำนวยการสำนักรักษาความสะอาด กล่าวว่า ปัญหาขยะมูลฝอยส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกระดับ หากไม่มีการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ก็จะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยของประชาชน รวมทั้งสูญเสียงบประมาณอย่างไม่คุ้มค่ากับการแก้ปัญหาดังกล่าว จากผลการวิจัยการเก็บขนมูลฝอยของกทม.พบว่า ประชาชน 1 คนผลิตมูลฝอยโดยเฉลี่ย 0.8 —1.0 กก./วัน และจากการวิเคราะห์องค์ประกอบของมูลฝอยพบว่า มีมูลฝอยประเภทที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่ถึงร้อยละ 42 ฉะนั้นหากสามารถส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจและเกิดความตระหนักในการมีส่วนร่วมทางด้านการักษาความสะอาด ด้วยการช่วยลดและแยกมูลฝอยก่อนทิ้งก็จะสามารถลดปริมาณมูลฝอยจากแหล่งกำเนิดได้ร้อยละ 42 แต่ในเบื้องต้นสำนักรักษาความสะอาดได้ตั้งเป้าหมายที่จะสามารถลดปริมาณมูลฝอยจากแหล่งกำเนิดลงได้ ร้อยละ 20 ภายในปี 2544 ตามแผนพัฒนากทม.ฉบับที่ 5 เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวสำนักรักษาความสะอาดจึงได้จัดทำโครงการ สร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหามูลฝอยของประชาชนในกทม.ขึ้น การดำเนินการโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนด้านวิชาการและงบประมาณบางส่วนจากสถาบันดีนันแห่งเอเซีย โดยว่าจ้างบริษัทคอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด (COT) ให้เป็นบริษัทที่ปรึกษาดำเนินการจัดทำโครงการนี้ ซึ่ง THE ELLINGTON GROUP (TEG) บริษัทที่ปรึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกาได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาเป็นที่ปรึกษาในโครงการนี้ด้วย เพื่อศึกษาข้อมูลพร้อมทั้งวางแผนในการดำเนินโครงการและกำหนดกิจกรรมที่มุ่งเน้นวิธีการที่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริงและมีความเป็นไปได้ เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองในพื้นที่ ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้าใจและจิตสำนึกของประชาชน เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านความคิดและพฤติกรรมในการทิ้งมูลฝอย การลดและแยกปริมาณมูลฝอย โดยเริ่มดำเนินการในเขตนำร่อง 4 เขต คือ เขตคลองเตย เขตบางซื่อ เขตราษฏร์บูรณะและเขตหลักสี่ และได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 6 กลุ่มคือ กลุ่มสถาบันการศึกษา กลุ่มชุมชน กลุ่มห้างสรรพสินค้า กลุ่มสถานพยาบาล กลุ่มสถานประกอบการ และกลุ่มองค์กรต่างๆ ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกลุ่มเป้าหมาย ในการนี้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ พร้อมทั้งเสริมทักษะแก่ผู้ปฏิบัติงาน จึงได้จัดอบรมครั้งนี้ขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับได้แก่ 1.ระดับผู้บริหารซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ 2.ระดับการจัดการจะมีการอบรมในวันที่ 16 มี.ค.44 3.ระดับผู้ปฏิบัติงานอบรมในวันที่ 12,13,15 มี.ค. 44
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.มีนโยบายชัดเจนที่จะลดปัญหาปริมาณมูลฝอย ณ จุดกำเนิด โดยตั้งเป้าหมายการลดปริมาณมูลฝอยให้ได้ร้อยละ 20 ในปี 2544 ซึ่งหากสามารถลดปริมาณมูลฝอยลงได้ จะช่วยประหยัดงบประมาณของกทม.ถึงปีละหลายร้อยล้านบาท ซึ่งตนเห็นว่าการจะขอความร่วมมือประชาชนในเรื่องดังกล่าวนั้น เจ้าหน้าที่สำนักรักษาความสะอาดควรเข้าไปพบปะทำความเข้าใจกับประชาชนกลุ่มต่างๆ เช่น ชาวแฟลต หัวหน้าชุมชน นักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ เป็นต้น โดยอาจใช้เวลาหลังเลิกงาน ทั้งนี้เพื่อขอความร่วมมือ รวมทั้งสนทนาเกี่ยวกับเรื่องที่กทม.จะมีการเก็บขยะแบบใหม่ คือ ให้แต่ละบ้านมีถังขยะและถุงขยะเป็นของตนเองและเมื่อจะทิ้งขยะให้มัดปากถุงให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงนำมาวางตามเวลาและสถานที่ที่กำหนด เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้มาจัดเก็บให้เรียบร้อยต่อไปซึ่งวิธีนี้จะทำให้การจัดเก็บมีความสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น--จบ--
-นห-