กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย)
เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทฯ จะเพิ่มปริมาณการผลิตรถยนต์ซาฟิราอีก 20,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 50 เพื่อตอบรับกับความต้องการรถยนต์ซาฟิราที่มีอย่างท่วมท้น
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธี โดยมี มร. จอห์น เอฟ. สมิธ ประธานกรรมการคณะกรรมการบริหาร เดินทางมาร่วมรับเสด็จฯ และประกาศถึงความก้าวหน้าล่าสุดดังกล่าวในงานเปิดศูนย์การผลิตรถยนต์เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่มีความทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่างเป็นทางการ
"การเพิ่มปริมาณการผลิตรถยนต์ซาฟิราอย่างรวดเร็วเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ในศักยภาพของประเทศไทยในการผลิตรถยนต์ซาฟิราที่ได้มาตรฐานสำหรับตลาดในประเทศต่างๆ" มร. สมิธ กล่าว "ทีมงานของเราที่ศูนย์การผลิตในประเทศไทย ปฏิบัติงานกันอย่างยอดเยี่ยม จนได้รับ ประกาศนียบัตร ISO 9002 อย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน หลังจากเริ่มดำเนินการผลิตไปได้เพียง ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น นอกจากนี้ ทีมงานที่ประเทศไทยยังสามารถผลิตรถยนต์ที่ได้คุณภาพและมาตรฐานระดับ นานาชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับศูนย์การผลิตรถยนต์ที่เน้นการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ดังเช่นศูนย์การผลิตรถยนต์ที่ประเทศไทยแห่งนี้"
การเพิ่มการผลิตรถยนต์เป็น 60,000 คันนี้ ได้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยนอกจากจะเป็นการเพิ่มการลงทุนแล้ว ยังช่วยก่อให้เกิดการจ้างงานเป็นจำนวนมากอีกด้วย นอกจากนี้ยังเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจต่อเนื่อง ทั้งกระบวนการ ตั้งแต่ซัพพลายเออร์ ถึงตัวแทนจำหน่าย ผู้แทนจำหน่ายรายย่อย และพนักงานส่วนการบริการ
ในการผลิตรถยนต์จากศูนย์การผลิตฯ ที่ประเทศไทยนี้ ได้ใช้ชิ้นส่วนประกอบภายในประเทศ ในสัดส่วน หนึ่งในสาม ดังนั้นการเพิ่มการผลิตรถยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่เน้นไปที่ตลาดส่งออก จึงเป็นการเพิ่มศักยภาพการ ส่งออกให้แก่ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของประเทศไทยเช่นกัน
มร. วิลเลี่ยม เอส. บอทวิค ประธาน บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ศูนย์การผลิตรถยนต์ของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย ประสบความสำเร็จเช่นนี้ ก็คือการรักษาคุณภาพและบุคลากร "เจนเนอรัล มอเตอร์ส ได้มีการเตรียมการล่วงหน้าอย่างดี โดยการเน้นคุณภาพทั้งในส่วนของ ขั้นตอนการผลิต การจ้างงาน และการฝึกอบรม เราได้นำโปรแกรมการจ้างงานและฝึกอบรมระดับโลกมาใช้ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยมีการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้อย่างมีคุณภาพ"
ศูนย์การผลิตรถยนต์แห่งใหม่ของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ใช้เงินลงทุนกว่า 25,000 ล้านบาท ได้รับการออกแบบตามศูนย์การผลิตรถยนต์ต้นแบบของจีเอ็มที่เมืองไอเซนนาร์ค ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้า ทันสมัยและนับเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ศูนย์การผลิตรถยนต์ที่ระยองแห่งนี้จึงเป็นศูนย์การผลิตรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทยและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค
ศูนย์การผลิตรถยนต์ฯ ในขณะนี้มีกำลังการผลิตรถยนต์ซาฟิราที่ 40,000 คันต่อปี และนับเป็นศูนย์การผลิตแห่งที่สองของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ที่ดำเนินการผลิตรถยนต์เอนกประสงค์ 7 ที่นั่งที่มีขนาดกระทัดรัด และได้รับรางวัลต่าง ๆ มาแล้วมากมาย นับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในตลาดยุโรปเมื่อเดือนเมษายน 2542
ร้อยละ 90 ของรถยนต์ซาฟิราที่ผลิตได้จะถูกส่งไปยังตลาดยุโรป อาฟริกา ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ และ เอเชียแปซิฟิค ภายใต้แบรนด์ต่างๆ คือ เชฟโรเลต โฮลเด้น โอเปิล และ วอกซ์ฮอลล์ การส่งออกรถยนต์จากประเทศไทยเที่ยวแรกได้เริ่มไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายน โดยเป็นการส่งรถยนต์เชฟโรเลต ซาฟิร่า จำนวน 25 คัน ไปยังประเทศชิลี
ปัจจุบัน เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย มีพนักงาน 700 คน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,200 คน ภายในสิ้นปี 2543 และเพิ่มอีก 200 คนในปี 2544
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อที่ คุณชาติชาย สุวรรณเสวก ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด หมายเลขโทรศัพท์ 937-0180 ต่อ 118 หมายเลขโทรสาร 937-0171--จบ--
-สส-
- พ.ย. ๒๕๖๗ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศให้แคตคอน โกลบอล ครองตำแหน่งซัพพลายเออร์ยอดเยี่ยมประจำปี 2565
- พ.ย. ๒๕๖๗ ทีเอ็มบี ชี้แจง ธนาคารธนชาตปล่อยสินเชื่อให้กับดีลเลอร์เชฟโรเลตในระดับต่ำ ประเมินกรณีจีเอ็มประกาศยุติการขายเชฟโรเลตในไทยมีผลกระทบน้อยและบริหารจัดการได้ สถานะทางการเงินยังแข็งแกร่ง
- พ.ย. ๒๕๖๗ “จีเอ็ม” เร่งเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจในตลาดต่างประเทศ