กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--พีอาร์ เน็ตเวิร์ต์
โครงการ "พลังครอบครัว" โดย ดร.สิริกร มณีรินทร์ และคุณพรรณประภา อินทรวิทย-นันท์ ได้จัดงาน "ค่ายครอบครัว" และงาน "มหกรรมวันครอบครัวสุขสันต์" ขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งาน "ค่ายครอบครัว" จะจัดขึ้นในวันที่ 19 - 20 พฤษภาคม 2543 ระหว่างเวลา 9.00 - 19.00 น. ณ ห้องโลตัส ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีคุณสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ในการนี้มีครอบครัวตัวแทน 40 ครอบครัว จากครอบครัวตัวแทนสภาเยาวชนไทย ปี 2000 จำนวน 20 ครอบครัว จาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ภูมิภาคละ 4 ครอบครัว และครอบครัวตัวแทนสาขาอาชีพต่างๆ ทั่วประเทศที่เป็นที่ยอมรับของสาธารณชนอีก 20 ครอบครัว มาร่วมกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ และระดมความคิดต่อผลการสำรวจความคิดเห็นของสาธารณชน รวมถึงนำผลจากการเสวนาวิชาการในหัวข้อ "พลังครอบครัว สร้างภูมิคุ้มภัยให้สังคมไทยยุคใหม่" มาร่วมสรุปเพื่อเป็นทางออกของการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัวไทยปัจจุบัน
สำหรับงาน "มหกรรมวันครอบครัวสุขสันต์" จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 20 - 21 พฤษภาคม 2543 ณ ห้อง PLENARY HALL และลาน ATRIUM ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยจะมีกิจกรรมที่สนับสนุนและส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวทุกวัยหลากหลายรูปแบบอาทิ ซุ้มกิจกรรมต่างๆ จำนวน 20 ซุ้ม อาทิ
มุมไอที…"ครอบครัวยุค 2000 ก้าวทันโลกไอที"
เตะบอล- สานใบไม้…
"ตาทำให้ดูหนูก็ทำได้"
เดินกะลา…"เดินกะลาม้าโกกเกก"-
ตุ๊กตุ๊กชมเมือง-
บ้านนี้มีคำถาม-
ทำขนม…"ยายทำให้ดูหนูก็ทำได้"-
เพ้นท์หน้า…"หน้าใครเอ่ย?"-
CROSSWORD …"ครอบครัวพิชิตศัพท์สนุก"-
ร้านค้าผลิตภัณฑ์ในครอบครัว ฯลฯ
กิจกรรมบนเวทีที่แทรกทั้งสาระและบันเทิงต่างๆ มากมาย เช่น
การสัมภาษณ์ครอบครัวดารา ในหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิ-
สนทนากับครอบครัวคุณดวงตา ตุงคะมณี,คุณฐิติ พุ่มอ่อน ,คุณทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา, คุณชลิตรัตน์ จันทรุ-เบกษา ในหัวข้อ "ครอบครัวเป็นสุข ถ้าไม่คิดว่าตัวเองเป็นม่าย!"
สนทนากับคุณสิริยากร พุกกะเวสและคุณยาย , คุณสามารถ พยัคฆ์อรุณและลูกชาย , คุณสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ พร้อมสามีและลูก ในหัวข้อ "ครอบครัว กับความสำเร็จในอาชีพต่างๆ"
สนทนากับครอบครัวติดยาเสพติด คุณโจ้ จักรกฤษณ์ คชรัตน์ ในหัวข้อ "กำลังใจจากครอบครัว"
สนทนากับคุณนุสบา วานิชอังกูร ในหัวข้อ "ความพร้อมก่อนมีครอบครัว"
การแสดงและคอนเสิร์ต เช่น - การแสดงของครอบครัวกลองยาว ชุด "รวมพลังครอบครัว…สร้างภูมิคุ้มภัยให้สังคม"
การประกวดร้องเพลง "ครอบครัวเสียงดี"
การแสดงในชุดบายศรีสู่ขวัญ , เซิ้งโปงลางจากคณะแสดงเด็ก และขิมหมู่จากบ้านตราโมท รวมถึงการแสดงในชุด ระบำลพบุรี รำแพรวากฬสินธุ์ จากนักเรียนโรงเรียนทิวไผ่งาม
108 มงกุฎ Interactive โฮมโชว์ หัวข้อ "บ้าน"
การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินค่ายอาร์เอส โปรโมชั่น เช่น ราฟฟี่-แนนซี่,เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ , ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง หรือ อู๋ ธรรณธรพ์
ละครเวที Interactive เรื่อง "ครอบครัวตัวดี" โดย รุ้งทอง ร่วมทอง , น้องมาตา วังมะนาวพิทักษ์ , กาญจน์ ศรีภักดี ฯลฯ
ทั้งนี้งานดังกล่าวเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยในวันที่ 21 พฤษภาคม 2543 เวลา 10.00 น. พ.ต.ท ดร.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมครอบครัวจะให้เกียรติร่วมกิจกรรมบริเวณซุ้มต่างๆ ที่จัดให้มีขึ้น และร่วมกับตัวแทนครอบครัวต่างๆ เสนอ "วาระแห่งชาติเพื่อพลังครอบครัว" เพื่อจะนำมาแก้ไขปัญหาครอบครัวและสังคมต่อไป
บทสัมภาษณ์จากงาน "โครงการพลังครอบครัว สร้างภูมิคุ้มภัยให้สังคมไทยยุคใหม่"
----------------------------------------------------------
พิมล ศรีวิกรม์…กับบทบาทของคุณพ่อยุคใหม่
"ผมเป็นพ่อคนมา 11 เดือน เพิ่งมีลูกเป็นคนแรก ตอนนี้ก็ยังไม่เป็นห่วงเขามากนัก แต่เมื่อเขาเข้าโรงเรียนผมคงต้องเป็นห่วงเขามากขึ้น เพราะผมมองว่าสภาพสังคมในตอนนี้วิกฤติ ซึ่งก็หมายความว่าสถาบันครอบครัวนั้นวิกฤต ต้นเหตุของความวิกฤติมาจากหลายๆ อย่างด้วยกัน อาทิเช่น ปัญหายาเสพติดซึ่งแทรกซึมไปในทุกชุมชน ความแตกแยกของครอบครัวในต่างจังหวัด เกิดมาจากการที่พ่อบ้านในครอบครัวต้องมาหางานทำในตัวเมือง ครอบครัวก็แตกแยก ผมจึงให้ความสำคัญกับครอบครัวมากและมองเห็นว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนนั้น จะพัฒนาไปแต่เศรษฐกิจไม่ได้ ต้องพัฒนาสังคมควบคู่ไปด้วย ซึ่งแม้แต่องค์กรระดับโลกก็ยังยอมรับความสำคัญของครอบครัว
…ผมอ่านหนังสือที่เขียนโดยพระธรรมปิฎก ท่านเขียนว่าเสาหลักหนึ่งของการพัฒนาที่ยั่งยืนคือการพัฒนาสังคม ซึ่งก็หมายถึงการพัฒนาครอบครัวนั่นเอง สังคมจะดีได้ มั่นคงได้ สถาบันครอบครัวก็ต้องมั่นคง จะเห็นได้ว่าสิ่งเหล่านี้มันผูกกันไป
…หลักการเลี้ยงลูกของผม ผมมองว่าต้องเป็นเพื่อนกับลูกให้ได้ ต้องไม่มีความลับต่อกัน เพราะว่าผมเองก็โดนเลี้ยงมาแบบนี้ ผมกับคุณพ่อคุณแม่ตอนเด็กๆ ก็คุยกันได้ทุกเรื่อง ถึงแม้ว่าเด็กจะได้รับอิทธิพลจากเพื่อนฝูง แต่พ่อแม่ต้องเป็นเพื่อนที่ดีกับลูกให้ได้ยิ่งกว่า เขาไปฟังอะไรมาก็ต้องมาถามเราอีกครั้ง (หัวเราะ) ตอนนี้ก็เตรียมจะเป็นเพื่อนกับลูกเต็มที่
…ผมมองว่าในอดีตบทบาทของพ่อกับแม่แบ่งกันชัดเจน พ่อเล่นฟุตบอลกับลูก แต่การเปลี่ยนผ้าอ้อม การป้อนนมลูก เป็นหน้าที่ของแม่ สมัยนี้การแบ่งแยกของบทบาทไม่มี พ่อก็ต้องเล่นบทบาทของแม่ได้ เปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อมนมลูกได้ ผมเอง ก็ช่วยภรรยาเปลี่ยนผ้าอ้อม และป้อนนมลูก อาบน้ำ สระผมให้ลูกบ้าง ในอดีตคนมักมองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ชาย แต่ผมก็ทำ ที่สำคัญผมสนุกที่ได้ทำ เพราะเวลาที่ผมมีให้ลูกก็ไม่มาก ก็ต้องป้อนข้าว อาบน้ำให้ลูกบ้าง เวลาอาบน้ำให้เขา ทำเขาเกือบจมไปบ้างก็มี (หัวเราะ) เพราะว่าผมยังไม่ค่อยเก่ง (หัวเราะ)"
นับว่าเป็นบทบาทของคุณพ่อยุคใหม่ที่น่าชื่นชม และใครต่อใครที่เป็นคุณพ่อยุคใหม่ควรนำมาเป็นแบบอย่างทีเดียว
ดร.สิริกร มณีรินทร์…ผู้หญิงที่ทำทุกสิ่งด้วยหัวใจ
"ดิฉันมีลูก 2 คน พวกเขาเป็นสิ่งที่ดีในชีวิต เป็นความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกที่ไม่เหมือนสมัยที่เราโตเป็นสาว เพราะสังคมยุคนี้มีมลภาวะ ระบบการศึกษาทำให้พวกเขาไม่มีชีวิตของมนุษย์ที่ควรจะเป็น ภายใน 1 อาทิตย์ เขาต้องใช้ชีวิตหมดไปกับการเรียน…ปัญหาที่ดิฉันค้นพบจากการทำวิจัยกว่าแสนฉบับ ปัญหาอันดับต้นๆ ก็คือพฤติกรรมชิงสุกก่อนห่าม สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากเด็กขาดความรักความอบอุ่นในครอบครัว ดิฉันคิดว่าเราโชคดีกว่าคนอื่นเพราะเราเข้าใจลูก เนื่องจากอ่านหนังสือจิตวิทยาเยอะมาก ดิฉันจึงริเริ่มโครงการพลังครอบครัวฯ ขึ้นมา เพราะอยากช่วยลูกคนอื่นด้วยแรงบันดาลใจที่ริเริ่มโครงการนี้ เพราะอยากให้ลูกตัวเองมีความสุข และลูกของครอบครัวอื่นๆ มีความสุขดิฉันกับลูก ได้พยายามพบกันครึ่งทาง เราสัญญากันว่าจะไม่มีความลับต่อกัน ความสัมพันธ์กับลูกจึงเป็นแรงบันดาลใจ ดิฉันคิดว่า เมื่อลูกกับแม่ได้ฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกัน เมื่อลูกบอกแม่ได้ทุกอย่าง สิ่งนี้จะเป็นเกราะคุ้มกันลูกได้ถ้าหากวันไหนลูกมีความลับที่ไม่บอกเรา…นั่นเป็นจุดวิกฤติและเป็นสิ่งที่น่ากลัว ดิฉันจึงหวังว่า ความรักที่ดิฉันมีให้ลูก จะเป็นเกราะคุ้มภัยให้เขา และอยากให้สิ่งนี้ไปถึงแม่กับลูกคู่อื่นๆ ด้วย
โครงการพลังครอบครัว จึงเป็นโครงการที่ดิฉันทำด้วยใจ เพราะอยากให้ครอบครัวของตัวเองและทุกๆ ครอบครัวเข้มแข็ง และสร้างภูมิคุ้มภัยให้กับสังคมได้"
พรรณประภา อินทรวิทยนันท์
ผู้หญิงที่เชื่อว่า…โลกทั้งใบหมุนได้ด้วย "ความรัก"และ "พลังครอบครัว"
"ความรักระหว่างพ่อแม่กับลูก ไม่ใช่เป็นเพียงแต่คำพูดว่า "แม่รักลูก" "พ่อรักลูก" แต่การกระทำและปฏิบัติต่อลูก เช่น การเปลี่ยนผ้าอ้อม การป้อนอาหาร การเข็นรถให้เขานั่ง รวมทั้งการสัมผัสที่ไม่ต้องใช้วาจาต่างหากที่สื่อและรู้สึกรับรู้ได้ถึงความรักในครอบครัว ดังนั้น…รักจึงมีมากกว่าคำพูด
ความรักจึงเป็นเรื่องของการปฏิบัติโดยการแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นแววตา และการสัมผัส การสัมผัสเป็นสิ่งที่สำคัญ และจะมีผลต่อเนื่องไปเมื่อเขามีชีวิตคู่ของเขาเอง ที่เขาจะนำไปปฏิบัติต่อลูกของเขาด้วย
…ที่คนโบราณเคยสอนว่าเวลาสามีภรรยาทะเลาะกัน นอนหันหลังให้กันได้ แต่ห้ามแยกเตียง และแยกห้องกันแต่ถ้าแยกเตียงและแยกห้องกันแล้วก็อย่าให้เกิน 3 วัน ให้รีบกลับไปง้อกัน อย่ามัวแต่ถือทิฐิ แล้วต่างฝ่ายต่างก็จะได้ เพราะถ้ามัวแต่ถือทิฐิ ต่างฝ่ายต่างก็จะเสีย คือ เสียใจ และอาจเสียคนรักไปดิฉันโตมาในครอบครัวไทย-จีน ซึ่งให้ความสำคัญกับครอบครัวสูงกว่าครอบครัวชาวตะวันตก ดิฉันคิดว่าครอบครัวเดิมสำคัญกว่าครอบครัวใหม่ เนื่องจากถ้าเด็กได้รับการเลี้ยงดูในครอบครัวที่อบอุ่น เขาก็จะมีความรักที่พร้อมจะให้และปฏิบัติกับผู้อื่น และนำไปสู่ครอบครัวของตนเองเมื่อแยกครอบครัวออกไปในสังคมชนบทไทยแต่เดิมที่ด้อยโอกาสทางด้านการศึกษา ผู้ชายทำนา ผู้หญิงทอผ้า พี่ไกวเปลเลี้ยงน้อง เป็นการแจกแจงหน้าที่กันในตัว แต่ในปัจจุบัน สังคมชนบทล่มสลาย คนเข้าสู่สังคมเมือง สังคมเมืองกลายเป็นมหานคร จึงมีปัญหาทั้งความซับซ้อนและความโดดเดี่ยวแต่ต้องแข่งขันกันสูงเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุในการดำรงชีวิต ดิฉันจึงมองว่าปัญหาทางเศรษฐกิจแก้ง่ายกว่าแก้วิกฤติทางสังคมและครอบครัวสังคมจึงต้องมีแก่น คือ ความรัก ถ้าหากว่าคนไม่มีแก่น ไม่มีความเชื่อว่าเขาถูกรักเสมอและมีคนรักเขา จุดนี้เป็นจุดที่น่ากลัว ทำอย่างไรถึงจะทำให้คนหนึ่งคนรู้สึกว่าเขาถูกรักและมีคนรักเขา พลังตรงนี้จะมหาศาลในฐานะคนมีครอบครัว ถ้าจะให้ข้อแนะนำแก่ผู้ที่คิดจะมีครอบครัวแล้ว ขอให้หาคู่ครองที่ในเวลา 5 ปีแรก เขาสามารถจะเลี้ยงดูลูกได้ โดยที่ผู้เป็นแม่ให้นมลูกด้วยตัวเองโดยไม่ต้องออกไปทำงาน เพราะช่วงเวลาตั้งแต่แรกเกิดถึง 5 ปีแรกของชีวิตเด็ก จะเป็นช่วงที่สำคัญในการที่จะพัฒนาทั้งอารมณ์และสมองซึ่งมีผลฝังไปในจิตใต้สำนึกของเขา เป็นช่วงเวลาที่หวนกลับไปไม่ได้พลังครอบครัว "เล็ก" แต่ "ยิ่งใหญ่" มหาศาล…โลกทั้งใบหมุนได้ด้วย "ความรัก"และ "พลังครอบครัว"
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คุณ เกษราภรณ์ อึ่งสกุล ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ กัญญารัตน์ อึ่งสกุลฝ่ายประชาสัมพันธ์
ชัชรี หิรัญโร ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร.641-2871-8 , (01)344-9149 FAX.641-2890--จบ--
-สส-