กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--คิธแอนด์คิน
"กัลฟ์" แนะภาครัฐทบทวนการใช้เชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ลดสัดส่วนก๊าซธรรมชาติ พิจารณาเชื้อเพลิงราคาต่ำและไม่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม เชื่อสามารถลดค่าไฟฟ้าได้ ทำให้ประชาชนใช้ไฟฟ้าในราคาถูกลงแน่นอน
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท กัลฟ์อิเล็คตริก จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่มีการปรับค่าไฟฟ้าสูงขึ้น ว่า เป็นผลมาจากการที่ประเทศไทยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าในสัดส่วนที่สูงเกินไป ทำให้เมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งอิงกับราคาน้ำมันก็ปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลให้ค่าไฟฟ้าต้องปรับสูงขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นรัฐบาลควรเพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่น ๆ ให้มากขึ้นเพื่อถ่วงดุลให้ค่าไฟฟ้าถูกลง
สำหรับเชื้อเพลิงที่จะเป็นทางเลือกนั้นจะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลัก ๆ คือ เป็นเชื้อเพลิงที่มีราคาต่ำและมีความมั่นคงด้านราคามากกว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ถ่านหินคุณภาพดีที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่มีปริมาณสำรองมาก ราคาต่ำและมีความมั่นคงด้านราคาสูง ทั้งนี้ประเทศที่ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงจากต่างประเทศนั้น ควรพิจารณาทางเลือกในการใช้เชื้อเพลิงให้มีความหลากหลายในสัดส่วนที่เหมาะสม ซึ่งหากมีการวางแผนในเรื่องการใช้พลังงานอย่างดีแล้วจะทำให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมของประเทศมีราคาที่ถูกลงได้
"ค่าเอฟทีที่เพิ่มขึ้นถึง 24.44 สตางค์ต่อหน่วยนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลจากการที่ก๊าซธรรมชาติปรับราคาสูงขึ้นถึงเกือบ 20% จุดนี้ทำให้เห็นว่าควรจะต้องพิจารณาทบทวนสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงของประเทศให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์จริง อย่างในปัจจุบันราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมากและมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ หากใช้ก๊าซธรรมชาติในสัดส่วนสูงเกินไปค่าไฟฟ้าก็มีราคาสูงขึ้นด้วย จึงควรที่จะพิจารณาเชื้อเพลิงตัวอื่น ๆ ที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันด้วย" นายสารัชถ์ กล่าว
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
กรุณาติดต่อ ศศิธร โฆษิตเกษม (01) 804-3061--จบ--
-อน-