โรงพยาบาลทั่วกทม.ลงมติเริ่มนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรคก่อนเม.ย.45

พุธ ๐๒ พฤษภาคม ๒๐๐๑ ๑๐:๕๐
กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--กทม.
โรงพยาบาลทั่วกทม.ลงมติเริ่มนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรคก่อนเม.ย.45 เตรียมความพร้อมขณะรอ 75 จังหวัดลงทะเบียนคนไข้ลงตัว
ที่โรงแรมรอยัลซิตี้ เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.44) กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการแพทย์ ได้จัดประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการสร้างหลักประกันสุขภาพแก่ประชาชนถ้วนหน้า หรือนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรค ร่วมกับผู้ประกอบการและผู้บริหารโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วกรุงเทพฯ โดยมี นพ.ประพันธ์ กิติสิน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน
นพ.ประพันธ์ กิติสิน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้ประกอบการด้านการรักษาพยาบาลทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วกรุงเทพฯ ได้ข้อสรุปที่ตรงกันว่า เห็นด้วยกับการสนองนโยบายของรัฐบาลในการสร้างหลักประกันสุขภาพแก่ประชาชน ซึ่งทุกโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ จะต้องดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ดีเนื่องจากในกรุงเทพฯ ยังมีปัญหายุ่งยากซับซ้อนในการดำเนินการ โดยเฉพาะโครงสร้างด้านสาธารณสุขที่แตกต่างจากจังหวัดอื่น มีโรงพยาบาลหลายสังกัด เช่น โรงพยาบาลของกทม. โรงพยาบาลทบวงมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลกลาโหม โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งให้บริการในระดับ 3 หรือตติยภูมิ เช่น การผ่าตัดที่ต้องมีค่าใช้จ่ายสูง เป็นต้น ดังนั้นก่อนที่จะบริการตามนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรคได้นั้น จึงต้องมีความชัดเจนในการแบ่งสรรคนไข้เพื่อให้ได้รับการดูแลได้อย่างทั่วถึง ยุติธรรม และมีคุณภาพอยู่ในมาตรฐานการรักษา นอกจากนี้การบริการดังกล่าวยังต้องครอบคลุมประชากรจากต่างจังหวัดที่มาอาศัยและทำงานในกทม. กว่า 3 ล้านคน นอกเหนือจากประชากรตามทะเบียนราษฎร์ของกทม.ด้วย แต่ในเบื้องต้นยังไม่สามารถแยกแยะหรือตรวจสอบได้ว่าคนไข้มีต้นสังกัดลงทะเบียน สถานรักษาพยาบาลซ้ำซ้อนหรือไม่ ที่ประชุมจึงมีมติว่าเพื่อขจัดปัญหาเรื่องทะเบียนของผู้ที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาในกรุงเทพฯ เห็นควรให้รอ 75 จังหวัดทั่วประเทศ มีการขึ้นทะเบียนคนไข้ในความดูแล และดำเนินการไปก่อน จากนั้นผู้ให้บริการในกรุงเทพฯ ก็พร้อมที่จะดำเนินการภายใน 3-6 เดือน (1 ม.ค. - 1 เม.ย.45)
รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมฯ ยังได้พิจารณาเห็นว่า เงินที่รัฐบาลจัดสรรให้ปีละจำนวน 1,197 บาท/คน นั้น ยังไม่เพียงพอที่จะให้บริการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบันจึงคาดว่าจะสามารถดำเนินการตามนโยบายได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งในอนาคตอาจจะต้องขอจัดสรรเพิ่มเติมตามความจำเป็น ทั้งนี้ที่ประชุมฯ เห็นพ้องที่จะจัดตั้งองค์กรกลางขึ้นมาดูแลจัดสรรงบประมาณคนไข้ รวมทั้งกำหนดแนวทางการดำเนินงานของผู้ให้บริการในกทม. อย่างไรก็ดีระหว่างที่ยังไม่มีองค์กรที่แต่งตั้งขึ้นตามกฎหมาย ก็จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมารองรับ เพื่อพิจารณาด้านการบริการสุขภาพระดับพื้นที่ (กสพ.) ให้สามารถดำเนินการตามนโยบายฯต่อไปได้ ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนจาก กทม. รพ.ทบวงมหาวิทยาลัย รพ.กลาโหม รพ.มหาดไทย รพ.สาธารณสุข รพ.เอกชน สภากาชาดไทย และสำนักงานประกันสังคม ร่วมเป็นคณะทำงาน จากนั้นจะมีการประทำประชาพิจารณ์สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนผู้ใช้บริการต่อไป--จบ--
-นห-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ