ธ.ไทยพาณิชย์รุกตลาดการค้าต่างประเทศ สิ้นปี 43 ตั้งเป้าขยายศูนย์การค้าต่างประเทศ 30 แห่งทั่วประเทศ

พุธ ๑๙ กรกฎาคม ๒๐๐๐ ๑๑:๑๐
กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--ธ.ไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) รุกตลาดการค้าต่างประเทศเปิดศูนย์การค้า ต่างประเทศแห่งที่ 21 ณ สาขาย่อยนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อส่งเสริม ธุรกรรมการค้าต่างประเทศ และอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าธนาคารมากยิ่งขึ้น โดยเปิดให้บริการ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้กล่าวถึงนโยบายด้านการค้าต่างประเทศว่า ธนาคารได้ให้การสนับสนุนธุรกิจ และบริการด้านต่างประเทศอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยได้เล็งเห็นว่าการค้าต่างประเทศ เป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มเสถียรภาพทางการเงิน และเป็นการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งเป็นการกระจายรายได้ไปสู่กลุ่มผู้นำเข้าและส่งออก โรงงานอุตสาหกรรม ตลอดจนผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรม โดยขณะนี้ธนาคารได้มีบริการทางด้านธุรกรรมทางการค้าต่างประเทศ แบบครบวงจรผ่านเครือข่ายศูนย์การค้าต่างประเทศของธนาคาร 21 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ธนาคารได้พัฒนาบริการโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาโดยการพัฒนา บริการด้านการค้าต่างประเทศ (SCB Trade) ด้วยการเปิด L/C และโอนเงิน รวมทั้งสอบถาม ข้อมูลด้านการค้าต่างประเทศผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ของลูกค้า มายังศูนย์คอมพิวเตอร์ของธนาคารซึ่งมีหลักการเดียวกับ Internet เพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
สำหรับการดำเนินงานด้านการค้าต่างประเทศของธนาคาร ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2543 มีปริมาณการส่งออกผ่านธนาคารรวม 1,939.3 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าที่ส่งออกมากขึ้นในปีนี้ได้แก่ผลิตภัณฑ์โลหะ,เครื่องใช้ไฟฟ้า,เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ส่วนการนำเข้าผ่านธนาคารนั้นมีปริมาณการนำเข้าผ่านธนาคารรวม 1,865.6 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าที่นำเข้าเพิ่มขึ้นมากจากปีก่อนได้แก่ น้ำมันดิบ ยานพาหนะและชิ้นส่วนเครื่องไฟฟ้า
ในส่วนของศูนย์บริการการค้าต่างประเทศแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปูนั้น นางมาลีรัตน์ ปลื้มจิตรชม ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายงานต่างประเทศ ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการเปิดศูนย์การค้าต่างประเทศแห่งใหม่นี้ว่า เพื่อเป็นการรองรับปริมาณธุรกิจส่งออกและนำเข้าของ ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมกว่า 350 โรงงาน รวมทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกในการได้รับบริการที่รวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและเพื่อนำเสนอบริการต่างๆแก่ ลูกค้าอย่างใกล้ชิดโดยได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการภายในนิคมฯ เป็นอย่างดี
สำหรับบริการในศูนย์การค้าต่างประเทศนั้นประกอบด้วย บริการด้านนำเข้าและส่งออก เช่น บริการสำหรับผู้นำเข้าสินค้าที่ธนาคารเป็นผู้ออกคำสั่งโดยแจ้งไปยังธนาคารของผู้ขายสินค้า (Letter of Credit) ด้วยระบบปกติหรือเลือกผ่านระบบ SCB Trade บริการให้สินเชื่อผู้นำเข้าสินค้าที่ยังไม่สามารถชำระเงินให้ผู้ขายได้ (Trust Receipt) บริการสินเชื่อเพื่อการส่งออก (Packing Credit) บริการรับซื้อตั๋วเงินที่เกิดจากการส่งออก (Export Bill Under L/C) บริการออกหนังสือค้ำประกันให้แก่บริษัทเรือ (Shipping Guarantee) ซึ่งปัจจุบันธนาคารได้ออกบริการนี้ในรูปแบบหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ (Shipping Guarantee on-line) เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น การให้บริการ Mobile Service รับส่งเอกสารเร่งด่วนที่ทำการของผู้ประกอบการ ให้บริการแนะนำวิธีการใช้และติดตั้ง SCB Trade เป็นต้น
นอกจากนี้ภายในปี 2543 ธนาคารตั้งเป้าขยายบริการโดยเปิดศูนย์การค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 9 แห่งเพื่อให้ครบ 30 แห่งครอบคลุมทุกพื้นที่ของประเทศ เพื่อรองรับกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ที่กำลังฟื้นตัวในขณะนี้ รวมทั้งเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าของธนาคาร ในทุกภาคของประเทศ ให้ได้รับความสะดวกในการใช้บริการด้านการค้าต่างประเทศของธนาคารมากยิ่งขึ้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (SCB Call Center) โทร 544-5000--จบ--
-นศ-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ