บีโอไอ จับมือ 4 ค่ายใหญ่ ISP หนุนธุรกิจ SMEs ไทยสู่ตลาดโลก

ศุกร์ ๐๒ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๑ ๑๓:๒๕
กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--บีโอไอ
บีโอไอ จับมือ 4 ค่ายใหญ่ ISP
หนุนธุรกิจ SMEs ไทยสู่ตลาดโลก
บีโอไอดึงผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต 4 ค่ายใหญ่ในเครือ ล็อกซ์เล่ย์,ชินวัตร,จัสมิน และกลุ่ม AR ร่วมพัฒนาการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ประกอบการ SMEs ไทย และบรรจุเข้าฐานข้อมูลอุตสาหกรรมสนับสนุนอาเซียน "ASID" เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลและเพิ่มช่องทางการตลาดแก่ธุรกิจไทย เตรียมจัดสัมมนาใหญ่ใน 4 ภาครวม 12 จังหวัด ด้าน ISP เตรียมขนบริการอินเตอร์เน็ตมากมายเสนอ SMEs ไทย
นางชุตาภรณ์ สัมพสาระ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงโครงการ "บีโอไอร่วม ISP พัฒนาธุรกิจไทยสู่ E-Business " ว่า บีโอไอเล็งเห็นถึงความสำคัญของการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่จะช่วยเพิ่มช่องทางการทำธุรกิจแก่ผู้ประกอบการของไทยสู่ตลาดโลก ดังนั้น บีโอไอจึงแผนเดินสายจัดสัมมนาให้ความรู้ในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ประกอบการไทยในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยจะนำผู้ให้บริการทางอินเตอร์เน็ตหรือ Internet Service Provider (ISP ) ร่วมในการสัมมนาด้วย เพื่อให้กิจกรรมนี้มีบริการแบบครบวงจรที่ให้ทั้งความรู้ในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และนำผู้ให้บริการทางอินเตอร์เน็ตพบปะกับผู้ประกอบการ
บีโอไอ ต้องการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการไทยนำธุรกิจแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาใช้เป็นสื่อเพิ่มช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลด้านอุตสาหกรรมของผู้ประกอบการไทยผ่านระบบอินเตอร์เน็ต และอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลทางธุรกิจในประเทศไทยของนักธุรกิจจากต่างชาติ บีโอไอจึงเชิญผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP) จาก 4 บริษัทใหญ่ ประกอบด้วย LOXINFO บริษัทในเครือล็อกซ์เล่ย์ , CS INTERNET บริษัทในเครือ ชินวัตร ,JI-NET บริษัทในเครือจัสมิน และ ANET INTERNET บริษัทในกลุ่มแอดวานซ์ รีเสิร์ช (AR) เข้าร่วมโครงการนี้
โดย ISP ทั้ง 4 บริษัทนี้ จะช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยสนใจกับทำธุรกิจแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ด้วยการสำเสนอบริการอินเตอร์เน็ต่าง ๆ แก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมการสัมมนา อาทิ บริการติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ต , บริการออกแบบและสร้างเว็บไซต์ , การจัดอบรมและนำวิทยากรมาให้ความรู้ การจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอณืในราคาพิเศษ และการให้ส่วนลดต่าง ๆ สำหรับบริการอินเตอร์เน็ต ฯลฯ ทั้งนี้ บริษัทหรือผู้ประกอบการที่มีเว็บไซต์หรือโฮมเพจของตัวเอง จะได้รับการบรรจุเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลอุตสาหกรรมสนับสนุนอาเซียน (ASEAN Supporting Industry Database:ASID) ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบีโอไอ ในการรวบรวมข้อมูลอุตสาหกรรมของบริษัทต่าง ๆ ใน อาเซียนขึ้นเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตที่เว็บไซต์ (htttp://www.asidnet.org) ซึ่งจะทำให้นักลงทุนและผู้ประกอบการจากทุกภูมิภาคทั่วโลกสามารถเข้ามาติดต่อหาผู้ร่วมทุนหรือสั่งซื้อ สั่งผลิตสินค้า ค้นหาและตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และชิ้นส่วนซึ่งผลิตโดยผู้ประกอบการ SMEs ไทยได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ปัจจุบันฐานข้อมูล ASID ได้รวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการในภูมิภาคอาเซียน ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักคือ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ปิโตรเคมีกระดาษและพลาสติก แม่พิมพ์ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น อาหาร สิ่งทอ บรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีข้อมูลของบริษัทในอาเซียนรวมทั้งสิ้น 15,426 ราย เป็นบริษัทของไทยมากที่สุด จำนวน 6,857 บริษัท รองลงมาคือ เวียนนาม 2,798 บริษัท ฟิลิปปินส์ 1,981 บริษัท มาเลเซีย 1,282 บริษัท สิงคโปร์ 727 บริษัท กัมพูชา 700 บริษัท อินโดนีเซีย 362 บริษัท พม่า 339 บริษัท ลาว 316 บริษัท และบรูไน 64 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2543)
นอกเหนือจากการจัดกิจกรรมเดินสายสัมมนาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แล้ว ในส่วนของนโยบายส่งเสริมการลงทุนใหม่ของบีโอไอ ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2543 ที่ผ่านมา ก็ได้ให้ความสำคัญต่อกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยให้ส่งเสริมการลงทุนในกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 2 ประเภท คือ ผู้ให้บริการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce Application Service Provider) และการดำเนินพาณิชย์กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce User)
สำหรับการจัดสัมมนาที่บีโอไอจะจัดขึ้นทั้งหมด 12 ครั้ง ใน 4 ภาค ประกอบด้วย ภาคตะวันออกที่จังหวัด ชลบุรี (12 ก.พ.) ระยอง (14 ก.พ.)ปราจีนบุรี (16 ก.พ.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัด นครราชสีมา (5 มี.ค.) ขอนแก่น (7 มี.ค.) อุบลราชธานี (9 มี.ค.) ภาคเหนือที่จังหวัด พิษณุโลก (21 พ.ค.) เชียงใหม่ (23 พ.ค.) เชียงราย (25 พ.ค.) ภาคใต้ที่จังหวัดภูเก็ต (11 มิ.ย.) สุราษฎร์ธานี (13 มิ.ย.) และสงขลา (15 มิ.ย.)
การสัมมนาครั้งที่ 1 จะเริ่มขึ้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ ที่ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคตะวันออก นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ตั้งแต่เวลา 8.30 น.-12.30 น. ผู้สนใจสมารถเข้าร่วมการสัมมนาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ โดยแจ้งยืนยันเข้าร่วมที่คุณอโนชา ชื่นสมจิตร์ หรือ คุณเบญจมาศ สุขสิงห์ โทรศัพท์ (038)491-820-30 ต่อ 113,114 โทรสาร (038)490-8479 E-mail:[email protected] จบ--
-อน-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ