กทม.พร้อมรับมือน้ำฝนและน้ำทะเลหนุน

จันทร์ ๑๘ กันยายน ๒๐๐๐ ๐๙:๒๔
กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--กทม.
ที่สำนักการระบายน้ำ ศาลาว่าการกทม. 2 เขตดินแดง เมื่อวันที่ 15 ก.ย.43 เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา นายสหัส บัณฑิตกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ นำโดยนายธงชัย กลั่นกรอง ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ และหัวหน้าฝ่ายโยธารวมทั้งหัวหน้ากลุ่มงานระบายน้ำจาก 50 สำนักงานเขต เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเนื่องจากน้ำฝนและน้ำทะเลหนุน โดยมี นายมานะ นพพันธ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายธีระพล นพรัมภา ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ตัวแทนจากกรมราชทัณฑ์ ร่วมประชุม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีความห่วงใยเรื่องการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ถึงแม้ว่าขณะนี้กทม.จะมีความพร้อมอยู่แล้วก็ตาม แต่ก็ขอให้มีการตรวจสอบในระดับแนวดิ่งด้วย ตนจึงได้มาประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขตทุกเขตในวันนี้ ซึ่งก็ได้มีการหารือเรื่องการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แต่เน้นในระยะสั้นคือการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในปีนี้เป็นหลัก และจากรายงานการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในปีนี้ ในเรื่องการเปิดทางน้ำไหล ได้แก่ การขุดลอกคู คลอง เก็บผักตบชวา เก็บขยะ ส่วนใหญ่ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดีในส่วนของเขตชั้นนอกซึ่งคู คลองจะมีปัญหาเรื่องผักตบชวาขยายพันธ์เร็วนั้น ทางเขตที่มีปัญหาดังกล่าวได้มีการดำเนินการเก็บผักตบชวาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้มีปัญหากับการระบายน้ำ สำหรับการเตรียมความพร้อมเรื่องเครื่องสูบน้ำ นั้น ในส่วนเครื่องสูบน้ำที่ใช้ไฟฟ้าจะไม่ค่อยมีปัญหา ส่วนเครื่องสูบน้ำที่เป็นเครื่องดีเซลทุกเขตได้รายงานว่ามีความพร้อม 100% แต่ตนก็ให้นโยบายให้เขตหมั่นทดสอบเครื่องเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้มีปัญหาเวลาจะนำมาใช้งานจริง เมื่อเกิดน้ำท่วมต้องสามารถใช้งานได้ทันที
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องการลอกท่อระบายน้ำ จะพิจารณาใช้แรงงานจากกรมราชทัณฑ์เป็นหลัก แต่หากทางกรมราชทัฑ์มีแรงงานไม่เพียงพอที่จะดำเนินการได้ทั้ง 50 เขต ก็อาจจะใช้ทหารผ่านศึก หรือหน่วยงานอื่นๆ มาเสริมด้วย ซึ่งตนได้ให้ผู้เกี่ยวข้องประชุมกลุ่มย่อยหารือในรายละเอียด เพื่อประสานงานในทางปฏิบัติให้การลอกท่อรวดเร็วและทันเวลา โดยเฉพาะการการเตรียมการในปีหน้า รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า ขณะนี้กทม.มีความพร้อมรับมือกับปัญหาทั้งน้ำเหนือ น้ำฝน และน้ำทะเลหนุน โดยในส่วนของการรับมือน้ำฝน ได้เตรียมพร่องน้ำใน คู คลอง และบึงต่างๆ เพื่อเป็นแก้มลิง ซึ่งหากฝนตกในปริมาณ 60 มิลลิเมตร จะอยู่ในวิสัยที่กทม. รับมือได้ แต่หากฝนตกเกินกว่านี้ ก็อาจจะมีน้ำเจิ่งนองบนถนนบ้างโดยเฉพาะในพื้นที่ต่ำ แต่ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องสูบน้ำของกทม.ซึ่งพร้อมเต็มที่ คาดว่า ภายใน 2 ช.ม. จะสามารถสูบน้ำให้แห้งได้ สำหรับปัญหาน้ำทะเลหนุน ทางกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ ประเมินว่าในวันที่ 30 ต.ค.43 จะมีน้ำหนุนสูงสุดประมาณ 93 ซม. ที่บริเวณกรมอุทกศาสตร์ฯ แต่ปริมาณดังกล่าวยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยังไม่มีปัญหาสำหรับกทม. ส่วนในเรื่องน้ำเหนือ ปริมาณที่ไหลผ่านกรุงเทพมหานครที่จะก่อให้เกิดปัญหา คือ 2,500 ลบ.ม./วินาที แต่ในปัจจุบันน้ำเหนือที่ไหลผ่านกรุงเทพฯ ยังอยู่ในปริมาณ 1,800 ลบ.ม./วินาที อย่างไรก็ดี หากทั้งน้ำเหนือ น้ำฝน และน้ำทะเลหนุน มาพร้อมกันในปริมาณมากๆ อาทิ ฝนตกเกิน 70 มิลลิเมตร น้ำเหนือปริมาณ 2,500 ลบ.ม./วินาที ประกอบกับมีน้ำทะเลหนุนสูง ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหากับกรุงเทพมหานครได้--จบ--
-นศ-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ