กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--กทม.
เมื่อวานนี้ (26 พ.ย.44) เวลา 11.00 น. ณ ห้องรับรองกรุงเทพมหานคร ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายพิชัย ไชยพจน์พานิช ผู้อำนวยการสำนักรักษาความสะอาด และนายสุประพันธ์ วงษ์กะพันธุ์ ผู้อำนวยการเขตบางเขนในฐานะประธานกลุ่มเขตบูรพา ได้แถลงถึงกิจกรรมที่หน่วยงานต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร ร่วมกับ ภาคเอกชนและประชาชนทุกหมู่เหล่าพร้อมใจกันจัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช
ธันวาคม: เดือนแห่งการรักษาความสะอาด
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช กรุงเทพมหานครจึงกำหนดให้เดือนธันวาคม 2544 เป็น “เดือนแห่งการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย” เพื่อเทิดพระเกียรติและถวายเป็นราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการเชิญชวนหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร หน่วยราชการต่าง ๆ ตลอดจนภาคเอกชน และประชาชน ร่วมมือร่วมใจกันจัดกิจกรรมที่เกี่ยวกับการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบ เรียบร้อยตลอดเดือนธันวาคม 2544
สำหรับกิจกรรมรักษาความสะอาดที่กรุงเทพมหานครจะจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมนั้น เป็นกิจกรรมสาธารณประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง เช่น 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ นัดเก็บสิ่งของเหลือใช้ เพื่อให้ประชาชนได้สะสางสิ่งของที่ไม่ได้ใช้แล้ว อาทิ ซากพัดลม ซากตู้เย็น โต๊ะ เก้าอี้ ที่นอน ฯลฯ การรวบรวมขยะรีไซเคิลเพื่อร่วมบริจาคตามโครงการทอดผ้าป่าขยะมีค่าในวันที่ 2 ธันวาคม 2544 เวลา 13.09 น. ณ บริเวณท้องสนามหลวง นอกจากนี้ 50 เขต ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชนในพื้นที่ เก็บกวาด ทำความสะอาดอาคาร บ้านเรือน สถานที่ทำงาน ศาสนสถาน สาธารณสมบัติ กวาด ล้างทางเท้าและถนนหนทางสายต่างๆรวมทั้งพัฒนาที่ว่างริมทางซึ่งรกร้างและกลายเป็นที่ทิ้งขยะ ให้มีความสะอาดสวยงาม และเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยทุกกิจกรรมกรุงเทพมหานครต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมให้มากที่สุด เพื่อร่วมกันเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้ชาวกรุงเทพฯมีส่วนร่วมช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อมของบ้านเมือง ทำให้กรุงเทพฯ สะอาด สดใส เป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นเมืองที่น่าอยู่
2 ธ.ค.นี้ เชิญร่วมทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิลที่ท้องสนามหลวง
ผู้อำนวยการสำนักรักษาความสะอาด กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมไทย วันที่ 4 ธันวาคมของทุกปี กรุงเทพมหานคร โดยสำนักรักษาความสะอาดได้ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จัดกิจกรรมเพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นประจำทุกปี สำหรับพิธีทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิลในปีนี้ จัดขึ้นในวันที่ 2 ธ.ค.44 เวลา 13.09 น. โดย ฯพณฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานทอดผ้าป่าขยะ ถวายแด่วัดสวนแก้ว ซึ่งพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วจะเป็นประธานรับผ้าป่า ในส่วนของสำนักรักษาความสะอาดจะตั้งกองผ้าป่าอยู่ ณ ท้องสนามหลวง ตั้งแต่ 12.00 น. ของวันที่ 1 ธ.ค.44 จึงขอเชิญชวนประชาชนนำสิ่งของที่ไม่ใช้แล้ว เช่น เฟอร์นิเจอร์เก่า เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ชำรุดเสียหาย ตลอดจนขยะประเภท แก้ว กระดาษ พลาสติก ฯลฯ มาบริจาคที่ท้องสนามหลวง ซึ่งทางวัดสวนแก้วจะนำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าไปซ่อมแซมจนใช้ได้ และขายให้แก่ประชาชนในราคาถูก ส่วนขยะรีไซเคิลก็จะแยกขายนำเงินไปใช้ในการพัฒนาเพื่อสาธารณประโยชน์ต่อไป
เก็บกวาดป้ายรุงรัง-ป้ายผิดระเบียบ สร้างทัศนียภาพงามตา
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า ในวโรกาสมหามงคลนี้นับเป็นโอกาสดีที่กรุงเทพมหานคร จะดำเนินการจัดเก็บป้ายประกาศโฆษณาต่าง ๆ ที่รกรุงรัง ไม่เป็นระเบียบ ป้ายที่กีดขวาง บดบังทัศนียภาพ ป้ายที่อยู่ในสถานที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งป้ายโฆษณาหาเสียงที่ผิดระเบียบกฎหมาย และป้ายที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้งอย่างถูกต้อง เพื่อให้กรุงเทพมหานครมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีทัศนียภาพที่น่ามอง รวมทั้งง่ายต่อการจัดระเบียบและควบคุมป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ในอนาคตด้วยในการนี้ ตนได้สั่งการไปยังทุกสำนักงานเขตให้ควบคุมดูแลไม่ให้มีการติดตั้งป้ายในที่สาธารณะ โดยเฉพาะป้ายโฆษณา หาเสียง ป้ายอวยพรปีใหม่ของพรรคการเมือง เป็นต้น หากพบว่าติดตั้งในที่สาธารณะ เขตจะแจ้งให้เจ้าของป้ายทราบและมาดำเนินการรื้อถอน หากภายใน 3 วัน เจ้าของป้ายไม่มาดำเนินการ เขตฯก็จะรื้อถอนมาเก็บรักษาไว้ที่ สำนักงานเขต ซึ่งเจ้าของสามารถมาติดต่อขอรับคืนได้ในภายหลัง สำหรับป้ายที่ติดตั้งอยู่ในที่ส่วนบุคคล จะต้องติดตั้งอย่างเป็นระเบียบ ไม่ขัดต่อพระราช-บัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ส่วนป้ายที่ติดอยู่ตามสถานที่ที่อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของกทม. เช่น ตามตอม่อของรถไฟฟ้า BTS ที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นต้น ก็ขอให้เขตดูแลว่าป้ายต่าง ๆ ดังกล่าวติดตั้งเป็นระเบียบเรียบร้อยหรือไม่ เป็นป้ายที่หมดอายุหรือไม่ (เช่นป้ายประชาสัมพันธ์งานที่จบไปแล้ว) และประสานงานกับหน่วยงานเจ้าของสถานที่ติดตั้งป้ายให้ดำเนินการรื้อถอน หรือย้ายป้ายออกเพื่อร่วมกันสร้างทัศนียภาพที่ดีให้แก่กรุงเทพมหานคร ในช่วงวโรกาสอันเป็นมหามงคลนี้ รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกรุงเทพมหานครในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในกรุงเทพฯ จำนวนมากด้วย
เนรมิตเมืองให้สวยสดชื่นด้วยไม้ประดับกว่า 1.3 แสนต้น
เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดี กรุงเทพมหานครโดยสำนักงานสวนสาธารณะ สำนักสวัสดิการสังคม จะดำเนินการตั้งประดับต้นไม้ตกแต่งเมืองในบริเวณที่สำคัญ และถนนสายต่าง ๆ ได้แก่ รอบพระราชวังสวนจิตรลดา รอบวังหลวง ซุ้มถวายพระพรตามจุดต่าง ๆ ศาลหลักเมือง สนามเสือป่า ถนนราชดำเนินตลอดสาย อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เสาชิงช้า วงเวียนใหญ่ ฯลฯ ต้นไม้ที่นำมาตกแต่งประกอบด้วย ดาวเรือง 117,000 ต้น พิทูเนีย 2,400 ต้น ผักเสี้ยนฝรั่ง 3,000 ต้น คริสมาสต์ 1,700 ต้น ไทรทอง 6,200 ต้น และชาฮกเกี้ยน 1,400 ต้น รวมทั้งสิ้นจำนวน 131,700 ต้น ซึ่งสำนักงานสวนสาธารณะได้ดำเนินการเพาะพันธุ์ไม้เองทั้งหมด การประดับต้นไม้ตกแต่งเมืองจะทำให้กรุงเทพมหานครงดงามตระการตา ด้วยไม้ดอกที่บานสะพรั่งสวยงามอย่างสมพระเกียรติแห่งวันอันเป็นมหามงคลยิ่งในครั้งนี้
ซุ้มเฉลิมพระเกียรติเด่นสง่ากลางเมือง
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการโยธา ยังได้ดำเนินการตกแต่งซุ้มเฉลิมพระเกียรติตามเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินและสถานที่สำคัญ ได้แก่ บริเวณถนนราชดำเนินใน 1 ซุ้ม ถนนราชดำเนินกลาง 8 ซุ้ม ถนนราชดำเนินนอก 6 ซุ้ม และบริเวณมุมรอบพระราชวังสวนจิตรลดา 5 ซุ้ม รวมจำนวน 20 ซุ้ม ซึ่งมีลักษณะเป็นซุ้มหน้า-หลัง และซุ้ม 3 ด้าน กรอบซุ้มเป็นรูปทรงต่าง ๆ ทั้งวงรี ทรงสี่เหลี่ยม และซุ้มเรือนแก้ว ภายในซุ้มประดับตกแต่งด้วยตราสัญลักษณ์ และพระบรมฉายาลักษณ์ฯ ในพระอิริยาบทต่าง ๆ ตามพระราชกรณียกิจ ซึ่งได้รับการตกแต่งประดาด้วยฉัตร ต้นไม้เงิน-ทอง ไม้ดอกไม้ประดับ และผ้า 2 สี อย่างงดงามสมพระเกียรติ
สำหรับการประดับไฟเฉลิมพระเกียรติตามสถานที่สำคัญ ๆ และซุ้มต่าง ๆ นั้น จะเริ่มเปิดไฟตั้งแต่วันที่ 1 |10 ธันวาคม 2544 โดยเปิดตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. สำหรับวันที่ 4 และ 5 ธ.ค.44 จะเปิดไฟประดับตลอดคืน ตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น
ทำบุญตักบาตรและถวายพระพรที่ท้องสนามหลวง
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราชในปีนี้ ยังคงยิ่งใหญ่เช่นทุกครั้ง ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ร่วมกับคณะกรรมการจัดงาน 5 ธันวามหาราช โดยใน ช่วงเช้าของวันที่ 5 ธันวาคม 2544 เวลา 06.00 น. ณ ท้องสนามหลวง จัดพิธีทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ 975 รูป เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญถวายเป็นพระราชกุศล จากนั้น ในช่วงค่ำ ร่วมกันถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และจุดเทียนชัยถวายพระพรต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ เวลา 19.29 น. โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี จะมาเป็นประธานในพิธี จากนั้นมีการจุดพลุดอกไม้ไฟเฉลิมพระเกียรติ การแข่งขันกีฬามวยไทย และการแสดงมหรสพต่าง ๆ จนถึง 24.00 น. ในการนี้จะมีการถ่ายทอดสดพิธีดังกล่าวให้ชมทั่วประเทศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ด้วย
ทั้งนี้ คณะกรรมการจัดงาน 5 ธันวามหาราช ได้กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตั้งแต่วันที่ 2-6 ธันวาคม 2544 โดยในวันที่ 2-3 ธ.ค. จะประกอบพิธีอุปสมบทหมู่นักเรียนนายร้อยตำรวจถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งพระพยอม กัลยาโณ จะเป็นผู้แสดงธรรมสอนนาค วันที่ 4 ธ.ค. เวลา 08.30 น.ประกอบพิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราช และสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า จากนั้นเป็นการแสดงกลางแจ้งและการแสดงบนเวทีของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ รวมทั้งการแข่งขันกีฬาตะกร้อลอดบ่วง ในช่วงบ่าย เวลา 15.30 น. จะเป็นพิธีเปิดงาน 5 ธันวามหาราช พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ปฏิบัติธรรม และสวดมนต์ถวายพระพรของศาสนาต่าง ๆ โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา จะเสด็จเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย คุณพลอยไพลิน เจนเซน คุณพุ่ม เจนเซน และคุณสิริกิติยา เจนเซน ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ
โดยในช่วงเย็น วันที่ 4 ธ.ค.44 ตั้งแต่ 17.00-20.00 น. จะมีกิจกรรมการแสดงมากมายบนเวที อาทิ ดนตรีย้อนยุค “จารุกนก” โดยสุเทพ วงศ์กำแหง ศิลปินแห่งชาติ , สุวัจชัย สุทธิมา, โฉมฉาย อรุณฉาน ฯลฯ รวมทั้งนักร้องยอดนิยมในปัจจุบัน ศิลปิน ดารา และนางงาม มาร่วมในงาน การแสดงท่าประกอบอาวุธประกอบดนตรีของนักเรียนนายร้อยตำรวจ การแสดงของคณะสิงโตจากชมรมรวมใจชาวจีนทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียว 74 คณะ พร้อมทั้งการแสดงกลางแจ้ง และมหรสพต่าง ๆ เฉลิมฉลองบริเวณท้องสนามหลวง ส่วนในวันที่ 5 ธ.ค.44 นอกจากพิธีที่ท้องสนามหลวงแล้ว ยังมีพิธีเฉลิมฉลองที่เยาวราช โดยกรุงเทพมหานคร ร่วมกับชมรมคนไทยเชื้อสายจีน ผู้ประกอบการค้า ประชาคมในพื้นที่ และหน่วยงานต่าง ๆ อีกด้วย
ในวโรกาสอันเป็นมหามงคลนี้ ขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมกันแสดงความจงรักภักดี และร่วมกิจกรรมเทิด พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยพร้อมเพรียงกัน
ตามรอยเบื้องพระยุคลบาทด้านกีฬาและเปิดสอนทักษะการเล่นกีฬาเรือใบมด
ด้านผู้อำนวยการเขตบางเขน กทม. เปิดเผยว่า สำนักงานเขตกลุ่มบูรพา ร่วมกับ สำนักสวัสดิการสังคม และพิพิธภัณฑ์ เรือจิ๋ว-อู่เรือจิ๋ว ตามรอยเบื้องพระยุคลบาทได้จัดโครงการอบรมแล่นเรือใบซูเปอร์มดขั้นพื้นฐานแก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าวได้จัดขึ้นเพื่อเป็นการแสดงถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นการ เทิดพระเกียรติในพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่าน ในงานช่างและการกีฬา โดยเฉพาะการต่อเรือและแล่นเรือใบ นอกจากนี้ยังเป็นการถวายพระพรเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ โดยให้เด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้รวมกลุ่มทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์เพื่อให้ห่างไกลยาเสพติด
ผู้อำนวยการเขตบางเขน กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้แก่ เด็กอายุไม่ต่ำกว่า 12 ปี เยาวชนและประชาชนทั่วไป โดยเปิดให้บริการฟรี ทุกวันระหว่างวันที่ 1-20 ธ.ค.44 เวลา 09.00-17.00 น. ณ บึงพังพวย ถนนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร โดยมีพิธีเปิดในวันที่ 1 ธ.ค.44 เวลา 14.00 น. โดย นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้ 1.นิทรรศการเกี่ยวกับพระปรีชาสามารถด้านงานช่างและการกีฬาเรือใบมด ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพิพิธภัณฑ์เรือจำลองจากพิพิธภัณฑ์เรือจิ๋ว-อู่เรือจิ๋ว 2. การเรียนภาคทฤษฎี เรื่อง ประวัติเรือใบมด , ส่วนประกอบต่าง ๆ ของเรือใบมด , การตั้งเสาใบ , การนั่งในท่าที่ถูกต้อง , การจอดเรือ , การเทียบเรือ ฯลฯ 3. การเรียนภาคปฏิบัติ โดยฝึกการแล่นเรือใบพร้อมครูฝึก , การแล่นเรือใบคนเดียว, การแล่นเรือตามลม, การแล่นเรืออ้อมทุ่น, การกู้เรือ , การจอดเรือ, การเทียบท่า ฯลฯ
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการตามวันและเวลาดังกล่าว หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางโทรศัพท์ หมายเลข 0-2517-2080 , 0-2917-4108 , 0-2986-0751 , 0-2552-8062--จบ--
-นห-