กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--กทม.
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายมุตตาฝ้า หมันงะ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลทะเบียนกลางของกรมการปกครองเพื่อใช้กับงานของกทม.โดยมี ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายอนุชา โมกขะเวส รองอธิบดีกรมการปกครอง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการปกครอง เป็นผู้ลงนามฯ และนางณฐนนท ทวีสิน รองปลัดกรุเทพมหานคร นายพงษ์ศักดิ์ เสมสันต์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน ว่าที่ร้อยตรีโอภาส แก้วขาว ผู้อำนวยการสำนักบริหารการทะเบียน นายสุรชัย ศรีสารคาม ผู้อำนวยการศูนย์ประมวลผลการประมวลผลการทะเบียน ร่วมเป็นสักขีพยาน
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การลงนามข้อตกลงดังกล่าวในวันนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของหน่วยงานภาครัฐที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหารงานของหน่วยงานและการให้บริการประชาชนโดยนำระบบสารสนเทศและทรัพยากรข้อมูลที่มีค่ามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารงานของกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ฐานข้อมูลทะเบียนกลางยังเอื้อประโยชน์ทางข้อมูลด้านที่ดินของเอกชน และขณะนี้สำนักงานเขตบางรักก็กำลังวางแผนข้อมูลเกี่ยวกับห้างสรรพสินค้าเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนซึ่งจะเอื้อประโยชน์แก่ประชาชนอีกด้วย ซึ่งนับป็นนิมิตหมายอันดีที่หน่วยงานของรัฐได้ร่วมกันพัฒนาการให้บริการแก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพและหวังว่าจะมีความร่วมมือลักษณะเช่นนี้ในโอกาสต่อๆไป
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า นับเป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่กรุงเทพมหานครและกระทรวงมหาดไทย ร่วมมือกันเพื่อปรับปรุงการบริหารงานและการให้บริการประชาชน โดยนำระบบสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ หลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วจากโครงการให้บริการด้านการทะเบียนและจัดทำบัตรประจำตัวประชาชน และโครงการแก้ไขปัญหาสูติบัตรตกค้างและแจ้งเกิดซ้ำซ้อนที่จะติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ ณ โรงพยาบาล 7 แห่งของกรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ
กรุงเทพมหานครขอขอบคุณกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่ให้กทม.ได้ใช้ประโยชน์ข้อมูลบุคคลและข้อมูลบ้านจากฐานข้อมูลทะเบียนกลาง ของกรมการปกครอง ซึ่งได้จัดเก็บข้อมูลทะเบียนประวัติบุคคลและทะเบียนบ้านทั่วประเทศ โดยการกำหนดเลขรหัสประจำตัวประชาชน (เลข 13 หลัก) เลขรหัสประจำบ้าน (เลข 11 หลัก) พร้อมทั้งตารางรหัสกลางต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในฐานข้อมูลทะเบียนกลาง โดยถือว่าเป็นรหัสมาตรฐานกลางไว้ตรวจสอบอ้างอิง และพิสูจน์ตัวบุคคลในการติดต่อกับทางราชการ ข้อมูลดังกล่าวนั้น กรุงเทพมหานครเล็งเห็นถึงความสำคัญ และเป็นประโยชน์ต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อการพัฒนาระบบสารสนเทศการบริหารงานของสำนักงานเขต 50 เขต ระบบสารสนเทศกลางเพื่อการบริหารงานของกรุงเทพมหานคร (ระบบ MIS) และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อจัดทำแผนที่ภาษี รวมทั้งระบบสารสนเทศอื่น ๆ ที่กรุงเทพมหานครจะพัฒนาในโอกาสต่อไป ซึ่งในอนาคตหน่วยงานทั้งสองจะได้ร่วมพัฒนาระบบให้มีความก้าวหน้า เพื่อเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้มากยิ่งขึ้น
ทางด้านรองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวด้วยว่า ศูนย์ประเมินผลของกรมการปกครองได้รวบรวมข้อมูลประชากรของประเทศทั้ง 60 ล้านกว่าคนไว้เป็นระบบอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมามีหน่วยราชการขอเชื่อมโยงฐานข้อมูลกลางแล้วจำนวน 34 หน่วยงาน และในวันนี้ กทม.ได้ขอเชื่อมโยงข้อมูลอีกเป็นหน่วยงานที่ 35 เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการบริการประชาชนด้วยความสะดวก รวดเร็วมากขึ้น เช่น กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น แต่เดิมในส่วนของสำนักงานเขตทั้ง 50 เขตในสังกัดของกทม.ได้เชื่อมโยงข้อมูลด้านงานทะเบียนราษฎรอยู่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นสำนักทะเบียนท้องถิ่นที่อยู่ในเครือข่ายที่ทำงานร่วมกัน และต่อไปจะนำข้อมูลส่วนอื่นๆ มาเชื่อมโยงระบบอีก--จบ--
-นห-