โรงเรียนกทม. 58 แห่ง พร้อมขยายโอกาสการศึกษาถึงภาคบังคับม.3 ให้เด็กได้เรียนต่ออย่างทั่วถึง

อังคาร ๒๙ พฤษภาคม ๒๐๐๑ ๑๔:๔๕
กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.44) เวลา 11.00 น. ที่ห้องอเนกประสงค์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายวันชัย อมรพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา พร้อมด้วย นายไพรัช อรรถกามานนท์ นายพูลพันธ์ ไกรเสริม รองผู้อำนวยการสำนักการศึกษา นายวิทย์ สงวนเชื้อ ผู้อำนวยการกองโรงเรียน น.ส.ประนอม เอี่ยมประยูร ผู้อำนวยการหน่วยศึกษานิเทศก์ และนายประมุข เจริญพร ผู้อำนวยกองการเจ้าหน้าที่ สำนักการศึกษา ได้ร่วมกันแถลงข่าว เรื่องนโยบายการจัดการศึกษาของกรุงเทพมหานคร โดยมีประเด็นสำคัญในการแถลงข่าว 3 ประเด็น คือ การเพิ่มศักยภาพในการรับนักเรียนเข้าโรงเรียนสังกัดกทม. เพื่อให้นักเรียนได้รับการศึกษาภาคบังคับอย่างทั่วถึง นโยบายสนับสนุนการศึกษาฟรี 5 อย่าง และโครงการขยายการศึกษาของโรงเรียนกทม. จากประถมศึกษาสู่มัธยมศึกษา
ร.ร.กทม.ได้รับความนิยม เตรียมหาแนวทางรับนักเรียนเพิ่มให้ได้เรียนทั่วถึงทุกคน
ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กล่าวว่า ปัจจุบันโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร 432 โรงเรียน มีนักเรียนจำนวน 330,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ประมาณ 20,000 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ผู้ปกครองนิยมนำบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครมากขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และกรุงเทพมหานครจัดบริการสนับสนุนด้านการศึกษาฟรี 5 อย่าง นอกจากนี้โรงเรียนในสังกัดกทม.ยังมีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสูงขึ้น และมีนโยบายจะขยายโอกาสทางการศึกษาให้มีทั้งระดับอนุบาลและระดับมัธยมศึกษา เมื่อโรงเรียนสังกัดกทม.ได้รับความนิยมด้วยปัจจัยดังกล่าว จึงจำเป็นต้องมีมาตรการรองรับจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกรุงเทพมหานครได้กำหนดแนวทางการรับนักเรียนเข้าเรียน โดยจำกัดการเปิดรับระดับอนุบาลศึกษา เนื่องจากเป็นภารกิจรองมิใช่การศึกษาภาคบังคับ หากเปิดรับไม่จำกัดจะกระทบต่อระดับประถมศึกษาซึ่งเป็นการศึกษาภาคบังคับ กรณีโรงเรียนกทม.บางแห่งได้รับความนิยมจนไม่สามารถรับนักเรียนที่มาสมัครได้ทั้งหมดนั้น กทม.ก็ได้พยายามกระจายเด็กไปยังโรงเรียนใกล้เคียงที่ยังรับนักเรียนได้ มีการดำเนินการขยายห้องเรียน โดยการสร้างอาคารใหม่ หรือการจัดตั้งโรงเรียนใหม่ เช่น โรงเรียนบางยี่ขัน ซึ่งรับโอนมาจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม มีการจัดคูปองการศึกษาให้นักเรียนที่ผู้ปกครองมีรายได้น้อยไปเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชน โดยนักเรียนต้องมีภูมิลำเนาใกล้โรงเรียนแต่เข้าเรียนไม่ได้และโรงเรียนใกล้เคียงก็ไม่สามารถจะรับได้ ทั้งนี้ต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการการศึกษาระดับสำนักงานเขต นอกจากนี้ยังมีนโยบายให้ผู้ปกครองที่สามารถช่วยตนเองได้มีส่วนร่วมในการรับภาระค่าใช้จ่าย เพื่อให้กทม.สามารถนำเงินงบประมาณไปใช้แก้ปัญหาเรื่องอื่นต่อไป
นโยบายสนับสนุนการศึกษาฟรี 5 อย่าง: อาหารกลางวัน เครื่องแบบ แบบเรียน อุปกรณ์การเรียน และอาหารเสริม (นม)
ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กล่าวต่อว่า กรุงเทพมหานครมีนโยบายเรียนฟรี ดังนั้นจึงไม่มีการเก็บค่าเล่าเรียน แต่ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนตัวเอง เช่น ค่าพาหนะเดินทาง ค่าขนม ค่าชุดลูกเสือ/ยุวกาชาด ชุดกีฬา รองเท้ากระเป๋า เข็มขัด และค่าอุปกรณ์การเรียนอื่น ๆ นอกจากนี้อาจมีค่าใช้จ่ายพิเศษตามที่คณะกรรมการโรงเรียนได้พิจารณาเห็นสมควร เช่น ค่าประกันชีวิตและสุขภาพ ค่าเรียนพิเศษ อาทิ คอมพิวเตอร์ ว่ายน้ำ ภาษาต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมกิจกรรมอยู่ค่าย ทัศนศึกษา เป็นต้น ซึ่งโดยเฉลี่ยผู้ปกครองจะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ปีละ 3,000-4,000 บาท สำหรับนโยบายสนับสนุนการศึกษาฟรี 5 อย่าง ประกอบด้วย อาหารกลางวัน เครื่องแบบ แบบเรียน อุปกรณ์การเรียนและอาหารเสริม (นม) นั้น คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร มีแนวคิดว่าต่อไปอาจไม่จำเป็นต้องจัดบริการให้ฟรีทั้ง 100 % โดยงบประมาณที่เหลือจะนำไปก่อสร้างและซ่อมแซมอาคารเรียน ซึ่งหลายแห่งอยู่ในสภาพทรุดโทรมอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่นักเรียนได้ ทั้งนี้เนื่องจากในความเป็นจริงมีผู้ปกครองนักเรียนส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือตนเองได้ ไม่จำเป็นต้องรับความช่วยเหลือจากกทม.ทั้งหมด เช่น มีเงินค่าอาหารกลางวันให้บุตรหลานซื้อรับประทานเอง สามารถจัดอาหารกลางวันให้บุตรหลานนำมารับประทานที่โรงเรียนหรือสามารถซื้อเครื่องแบบให้บุตรหลานเองได้ ประกอบกับมาตรา 58 (2) ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ได้กำหนดแนวทางในการระดมทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา โดยให้ครอบครัวมีส่วนร่วมรับภาระค่าใช้จ่ายด้วย อย่างไรก็ดี กทม.จะยังคงสนับสนุนการศึกษาฟรี 5 อย่างให้แก่นักเรียนที่ผู้ปกครองมีความจำเป็น หรือประสบความเดือดร้อนต่อไป โดยขณะนี้สำนักการศึกษาได้จัดทำแบบสอบถามสถานภาพผู้ปกครองของเด็กนักเรียนทั้ง 432 โรงเรียนแล้ว คาดว่าจะสามารถรวบรวมข้อมูลทั้งหมดได้ในเร็ววันนี้ หลังจากนั้นทางสำนักการศึกษาจะทำการประเมิน คัดเลือก ครอบครัวที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ เพื่อนำเสนอคณะผู้บริหาร กทม.พิจารณาต่อไป
ขยายโอกาสถึง ม.3 เพิ่มจำนวนเด็กเรียนต่อ
ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กทม.มีความพยายามที่จะขยายโอกาสการศึกษาให้สูงขึ้น ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ที่กำหนดให้มีการศึกษาภาคบังคับจำนวน 9 ปี (ป.1 — ม.3) โดยตั้งแต่มีพระราชบัญญัติดังกล่าว รัฐบาลได้ใช้ยุทธศาสตร์เปิดสอนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในโรงเรียนประถมศึกษา เพื่อเร่งรัดให้เกิดกระแสการเรียนต่อเพิ่มขึ้น สำหรับโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ดำเนินการตามแนวทางนี้ได้ตั้งแต่ปี 2535 แต่ปัจจุบันยังมีโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครเพียง 58 โรงเรียนที่เป็นโรงเรียนขยายโอกาสการศึกษาถึงภาคบังคับ (ม.3) และมีเพียงโรงเรียนเดียวคือ โรงเรียนประชานิเวศน์ที่ขยายการศึกษาถึงระดับ ม.6
ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กล่าวในตอนท้ายว่า นักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร มีสถิติการเรียนต่อในปีการศึกษา 2543 ดังนี้ นักเรียนชั้น ป.6 มีจำนวนทั้งสิ้น 32,591 คน มีนักเรียนที่เรียนต่อจำนวน 30,940 คน (94.93 %) นักเรียนที่ไม่เรียนต่อ จำนวน 737 คน (2.26 % ) และมีนักเรียนที่ติดตามไม่ได้ 914 คน (2.81 %) จากสถิติดังกล่าวจะเห็นว่าเหลือนักเรียนที่ไม่เรียนต่ออยู่เป็นเปอร์เซ็นต์น้อย หากขยายการศึกษาภาคบังคับเป็น 9 ปี ก็อาจจะทำให้นักเรียนเหล่านี้ได้เข้าเรียนครบทุกคน--จบ--
-นห-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version