กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--กทม.
เมื่อวานนี้ (2 เม.ย.44 เวลา 09.00 น.) ณ ห้องราชเทวี โรงแรมเอเซีย เขตราชเทวี ดร.ธารินทร์ สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “โครงการกรุงเทพฯ เมืองเพื่อนเด็ก” (Child - Friendly City) โดยมี นางณฐนนท ทวีสิน รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม ดร.กิติยา พรสัจจา ผู้ประสานงานองค์การยูนิเซฟประจำประเทศไทย เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการกรุงเทพฯ เมืองเพื่อนเด็ก ประกอบด้วย บุคลากรจากโรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข สถานีตำรวจ ประชาคม ผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่เขต จากเขตนำร่องโครงการ 6 เขต เขตละ 100 คน รวม 600 คน
โอกาสนี้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความพร้อมเพื่อเป็นประชากรที่มีคุณภาพในสังคมนั้น ครอบครัวและสถาบันสังคมต่าง ๆ จะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เติบโตเป็นบุคคลที่สังคมต้องการ ซึ่งการพัฒนาจะเป็นการบูรณาการระหว่างพัฒนาการด้านต่าง ๆ ทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และจริยธรรม อันสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันในการเสริมสร้างสังคมเข็มแข็ง ที่ระบุว่า “รัฐบาลจะพัฒนาคนให้สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา รวมทั้งเสริมสร้างสังคมให้เข็มแข็งและยั่งยืนเพื่อให้ประเทศไทยเป็นสังคมคุณภาพ สังคมคุณธรรม และสังคมที่สมดุล
กรุงเทพมหานครได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับ “ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเอื้ออาทร ประชากรสมานฉันท์” กล่าวคือ ครอบครัวเป็นสถาบันหลักและเป็นพื้นฐานแรกในการพัฒนาคน ปัญหาสังคมส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดประสิทธิภาพและคุณภาพของการดำเนินชีวิตในครอบครัว ถ้าครอบครัวมีศักยภาพในการเสริมสร้างคุณภาพคน และคุณภาพชีวิตได้อย่างเต็มที่แล้ว สังคมก็จะพัฒนาได้อย่างยั่งยืนในที่สุด
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า องค์การยูนิเซฟ ได้ประชุมหารือร่วมกับตน และเจ้าหน้าที่สำนักสวัสดิการสังคม เรื่องการพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองเพื่อนเด็ก เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าในเขตกรุงเทพมหานครยังมีปัญหาและความรุนแรงที่เกิดกับเด็กหลายกลุ่ม อาทิ เด็กยากจนในชุมชนแออัด เด็กเร่ร่อน แรงงานเด็ก และเด็กที่ถูกกระทำทารุณ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ กรุงเทพมหานคร ตระหนักว่าเป็นภารกิจสำคัญและจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการ ประกอบกับก่อนหน้านี้ กทม.ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองค์การยูนิเซฟ และองค์การแรงงานระหว่างประเทศในการจัดทำแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการด้านแรงงานเด็ก พ.ศ.2545-2549 ซึ่งในทางปฏิบัติตามแผนดังกล่าวโครงการเมืองเพื่อนเด็กจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายตามแผนนี้ โดยพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่มีการรณรงค์พิทักษ์ปกป้องสิทธิเด็ก ไม่มีการละเมิดสิทธิเด็ก มีการพัฒนาเด็กและช่วยเหลือเด็กให้เหมาะสมตามวัย ซึ่งการดำเนินการต่าง ๆ จำเป็นต้องเน้นการประสานความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งองค์กรภาครัฐ องค์กรเอกชน และประชาชนในสังคมต่าง ๆ เพื่อพัฒนาให้เกิดชุมชนเพื่อนเด็ก โรงเรียนเพื่อนเด็ก เขตเพื่อนเด็ก และพัฒนากรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองเพื่อนเด็กในที่สุด ในการนี้กทม.ได้กำหนดเขตนำร่อง 6 เขตเป็นเขตเป้าหมายในการดำเนินโครงการ ได้แก่ เขตปทุมวัน เขตดินแดง เขตประเวศ เขตจตุจักร เขตบางพลัด และเขตคลองเตย
ด้านผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการสังคม กล่าวว่า สำนักสวัสดิการสังคมได้จัดโครงการและกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการครอบครัวอบอุ่น (Parent Zone) กิจกรรมนันทนาการสัญจรเพื่อครอบครัว โครงการครอบครัวสัมพันธ์ เป็นต้น สำหรับกิจกรรมในโครงการกรุงเทพฯ เมืองเพื่อนเด็ก แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ ในวันนี้เป็นการสร้างความตระหนัก โดยจัดประชุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจาก 6 เขตนำร่อง สำหรับกิจกรรมต่อไปซึ่งจะจัดในวันที่ 29 เม.ย.44คือ การสร้างทักษะครอบครัว ด้วยกิจกรรม “Child - Friendly Family ” เป็นการจัดอบรมครอบครัว 80 ครอบครัว เพื่อเสริมสร้างทักษะในการเลี้ยงดูบุตรและการนำครอบครัวให้อบอุ่น จากนั้นในวันที่ 25-27 พ.ค.44 จะเป็นขั้นตอน รวมตัวตั้งชมรม โดยการคัดเลือกครอบครัวที่เข็มแข็ง 18 ครอบครัว เพื่อตั้งเป็น “ชมรมครอบครัวอบอุ่น” ซึ่งชมรมดังกล่าวจะร่วมหารือกันว่าจะทำอย่างไรให้ทั้งชุมชนมีส่วนร่วมกับชมรมในการเลี้ยงดูเด็ก พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ คำแนะนำในการเลี้ยงดูลูก และขั้นตอนสุดท้ายคือการ ระดมแกนนำตั้งศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก โดยคัดเลือกครอบครัวที่มีความพร้อม 6 ครอบครัว ร่วมกันตั้งศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก เพื่อช่วยดูแลชุมชนและรับเรื่องราวปัญหาการทำทารุณกรรม หรือละเมิดสิทธิเด็ก ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาต่อไป--จบ--
-นห-