กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--ทูเดย์อินไทยแลนด์
นายสมควร บรูมินเหนทร์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เอซีทีโมบายล์ จำกัด ผู้รับผิดชอบดำเนิน โครงการบริการโทรศัพท์มือถือ ในย่านความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์
เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะกรรมการที่มี นายสุธรรม มลิลา ผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์ แห่งประเทศไทย (ทศท.) เป็นประธาน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมได้ตัดสิน เลือกกลุ่มบริษัท อีริคสัน มิตซุย และซีเมนส์ เป็นผู้ชนะการประมูล ได้รับการคัดเลือก ให้เป็นผู้ติดตั้งอุปกรณ์ โทรศัพท์มือถือ (ซัพพลายเออร์) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัท ที่เสนอราคาต่ำสุดคือ 3,000 ล้านบาท รองรับผู้ใช้บริการได้ 3 แสนเลขหมาย ต่ำกว่ากลุ่มผู้ผลิต ที่เสนอราคาเป็นอันดับ 2 คือ กลุ่มลูเซ่น เสนอราคา 3,400 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 บริษัทเสนอราคาต่ำกว่า งบประมาณที่ตั้งไว้ 4,200 ล้านบาท
สำหรับระบบที่กลุ่มอีริคสันเสนอคือ ระบบจีเอสเอ็ม และโรมมิ่งหรือเชื่อมโยงเครือข่ายกับระบบของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือระบบ 900 และจีเอสเอ็ม คาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จและให้บริการได้ในเดือนสิงหาคม 2544 ส่วนข้อ เสนออื่นนั้นอีริคสันเสนอแผนการพัฒนาระบบโทรศัพท์ในยุคที่ 3 ด้วยงบลง ทุน 2,400 ล้านบาท ส่วนลูเซ่นเสนอว่าต้องใช้งบ 5,000 ล้านบาท
นายสมควรกล่าวว่า โครงการนี้มีผู้ยื่นเสนอประมูลทั้งหมด 5 ราย อีก 3 รายไม่ได้รับการเปิดซองข้อเสนอด้านราคา เพราะไม่ผ่านการ พิจารณาคุณสมบัติ คือ บริษัท โนเกีย ซึ่งไม่ได้เสนอราคาในการเตรียม สถานที่สำหรับติดตั้งชุมสายโทรศัพท์อีก 2 ราย คือ บริษัท อัลคาเทล และกลุ่มไออีซีกับนอร์เทลเสนอเงื่อนไขไม่ครบตามทีโออาร์ โดยเสนอติดตั้ง ชุมสายเพียง 1 ชุมสายสำหรับรองรับ 3 แสนเลขหมาย ขณะที่เอซีทีกำหนด ให้ติดตั้ง 1 แสนเลขหมายต้องมี 1 ชุมสาย หากขยายเป็น 2-3 แสนต้องเพิ่ม ชุมสาย
ทั้งนี้ ในวันที่ 3 มกราคม 2544 คณะกรรมการบริษัทจะเรียก กลุ่มอีริคสันมาต่อรองราคา และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนเดียวกัน--จบ--
-สส-