กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--นิโอ ทาร์เก็ต
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามในสัญญาแต่งตั้งบริษัทที่ปรึกษาด้านการโฆษณาประชาสัมพันธ์กับบริษัท โลว์ ลินตาส แอนด์ พาร์ทเนอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท สตราทิจิค ลิงค์ จำกัด ว่า ภายหลังการแบ่งความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจของซีพีเอฟจากเครือเจริญโภคภัณฑ์แล้ว ในปี 2544 นี้ บริษัทฯ มีแผนขยายฐานการดำเนินธุรกิจอาหารครบวงจรให้มากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยตั้งเป้าอัตราการขยายตัวด้านยอดจำหน่ายทั้งสิ้นประมาณ 10-15%จากปี 2543 ที่มียอดจำหน่ายรวม 60,000 ล้านบาท
นายอดิเรกกล่าวว่า แนวโน้มการแข่งขันของธุรกิจอาหารในอนาคตจะทวีความรุนแรงขึ้น ถึงแม้ว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลกแต่ก็จะมีมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีออกมามากขึ้น เช่น ประเทศผู้นำเข้าหลักอย่างสหภาพยุโรปก็จะใช้มาตรการด้านความปลอดภัยของอาหาร (Food Safety) และลดความเสี่ยงจากการบริโภคที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพออกมาใช้กับผู้ประกอบการด้านการส่งออกอาหารมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการส่งออกอาหารของไทยก็ยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ นอกจากปริมาณความต้องการอาหารในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นแล้ว ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่ก็พยายามปรับตัวในด้านมาตรฐานการผลิตเพื่อให้เหมาะกับแต่ละตลาด ซึ่งนอกจากจะอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานแล้ว ในส่วนของการแข่งขันก็ต้องปรับไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่มในลักษณะการแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารให้มากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ และรองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความรวดเร็ว และสะดวกสบายมากขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนของซีพีเอฟ ก็ได้มีแผนการขยายตลาดด้านการส่งออกให้มากขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายและบทบาทของบริษัทฯให้เป็น "โรงอาหารของโลก" ทั้งในส่วนของการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อการส่งออกมากขึ้นจากเดิม 20-30% และการขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศลูกค้าใหม่ๆ
นายอดิเรกกล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการตลาด บริษัทฯจึงมุ่งเน้นสร้างภาพลักษณ์ในด้านการเป็นผู้นำธุรกิจอาหารที่มีเทคโนโลยีการผลิตได้มาตรฐานระดับโลก โดยแต่งตั้งบริษัท โลว์ ลินตาส แอนด์ พาร์ทเนอร์ส ซึ่งเป็นเอเยนซีโฆษณาอันดับหนึ่งของไทยทำหน้าที่ในการวางกลยุทธ์ด้านการโฆษณา และเสริมทัพกิจกรรมประชาสัมพันธ์กับบริษัท สตราทิจิค ลิงค์ จำกัด ให้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจต่อกลุ่มเป้าหมายที่มีทั้งผู้บริโภค พนักงาน นักลงทุน ตลอดจนผู้ถือหุ้น ซึ่งจะสามารถขยายฐานความเชื่อมั่นไปสู่ตลาดโลกในอนาคต
"การที่ซีพีเอฟ มอบความไว้วางใจให้ลินตาสเป็นผู้สร้างสรรค์ ก็เพราะเชื่อมั่นในแนวคิดและฝีมือ อีกทั้งเคยมีผลงานสร้างหนังโฆษณาให้แก่บริษัทในเครือของซีพีที่ประสบความสำเร็จมาก่อนหน้านี้แล้ว เช่น 7 Eleven, TA และ Chester's Grill" นายอดิเรกกล่าว
ด้านนางจารุวรรณ วนาสิน ประธานและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โลว์ ลินตาส แอนด์ พาร์ทเนอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงกลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์ให้กับซีพีเอฟในครั้งนี้ว่า แผนการโฆษณาบริษัทฯ นอกจากจะสร้างการรับรู้ว่าซีพีเอฟเป็นใครแล้ว ยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย
"ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ซีพีเอฟใช้กลยุทธ์ด้านการโฆษณา โดยมีแนวคิดที่จะสื่อให้เห็นภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ในฐานะเป็นผู้ผลิตอาหาร ที่เสมือนเป็นโรงอาหารของคนทั้งโลก (Kitchen of the World) บริษัทฯ จึงได้วางแนวคิดสร้างสรรค์และผลิตภาพยนตร์โฆษณาแนว Corporate Image ออกมา 7 เรื่อง ตลอดจนเป็นผู้วางแผนการใช้สื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ โดยใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท ผ่านสื่อโทรทัศน์เป็นหลักและเสริมด้วยสื่อสิ่งพิมพ์" นางจารุวรรณกล่าว
เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผลิตภัณฑ์ของซีพีเอฟที่ผลิตด้วยระบบคุณภาพเป็นเลิศ มีความปลอดภัยและปลอดสารพิษ จะนำเสนออกมาในภาพยนต์สี่ชุด ประกอบด้วย 1) ชุด "ห้องเย็น" 2) ชุด " ปรุงมากับมือ" 3) ชุด "ไก่แฮปปี้" 4) ชุด "เช็คแล้วเช็คอีก" นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังเน้นให้เห็นระบบการจัดการที่ดีโดยนำเสนอออกมาในภาพยนตร์โฆษณาชุดที่ 5) ชุด "เด็กใหม่" และ 6) ชุด "เพื่อ 1 คำ" และสุดท้ายต้องการเน้นให้เห็นถึงความรับผิดชอบของบริษัทฯ ที่มีต่อสภาพแวดล้อมของสังคม โดยนำเสนอออกมาในหนังชุดที่ 7) ชุด "เพื่อสิ่งแวดล้อม" ภาพยนตร์แต่ละชุดมีความยาว 30 วินาทีและกำหนดออกอากาศในเดือนมีนาคม 2544 เป็นต้นไป
ปัจจุบัน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตอาหารที่ใหญ่ที่สุดของไทย และอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลกด้วยมูลค่าการส่งออกปีละ 12,000 ล้านบาท โดยมีกระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์อาหารครบวงจรได้แก่ ธุรกิจอาหารสัตว์ที่มีการจัดหาวัตถุดิบและผลิตอาหารสัตว์ ธุรกิจสายพันธุ์สัตว์ที่ดำเนินการเพาะพันธุ์สัตว์ ธุรกิจเนื้อสัตว์ที่ดำเนินการทั้งการเลี้ยงเพื่อการค้าและแปรรูปเนื้อสัตว์ และ ธุรกิจเนื้อสัตว์เพื่อการส่งออกซึ่งผลิตอาหารสำเร็จรูป โดยแบ่งออกเป็นสายสัตว์บก ได้แก่ เนื้อไก่ ไก่ไข่ สุกรและ เป็ด สายสัตว์น้ำ ได้แก่กุ้งและปลา เป็นต้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
ลัคคณา ขวัญงาม
บ. นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
โทร. 861-0881-5 ต่อ 17-20 โทรสาร 438-4427--จบ--
-อน-