กทม.จัดมหกรรมกีฬาลานกีฬาต้านยาเสพติด เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

พฤหัส ๑๕ พฤศจิกายน ๒๐๐๑ ๐๙:๓๐
กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--กทม.
เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.44) เวลา 10.30 น. ที่บริเวณหน้าองค์พระ ศาลาว่าการกทม. ดร.ธารินทร์ สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายศิริ เปรมปรีดิ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นางสาวอุษา มาศสถิตย์ รักษาการผู้อำนวยการกองการกีฬา สำนักสวัสดิการสังคม ร่วมแถลงข่าว “มหกรรมกีฬาลานกีฬาต้านยาเสพติด เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” โดยกำหนดการแข่งขันรอบสุดท้าย ในวันที่ 2 ธ.ค. 44 ที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดนับว่าเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการแพร่ระบาดของยาเสพติดเข้าไปสู่สถานศึกษาและเยาวชน กรุงเทพมหานครได้ใช้กิจกรรมกีฬาเป็นยุทธศาสตร์ในการ ป้องกัน แก้ไขปัญหานี้ โดยการเพิ่มงบประมาณส่งเสริมการกีฬา โดยเฉพาะลานกีฬาในชุมชนต่าง ๆ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,115 ลาน และได้กำหนดมาตรฐานไว้ 4 ด้านคือ ด้านกายภาพ ด้านบริหารจัดการ ด้านการจัดกิจกรรม และด้านการประสานความร่วมมือ อีกทั้งยังสนับสนุนการจัดตั้งชมรมกีฬาเขตพื้นที่ขึ้นตามความสนใจของผู้ใช้บริการลานกีฬา ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายด้านการกีฬาและเพื่อสนับสนุนการกีฬาอย่างต่อเนื่อง จึงได้กำหนดให้จัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น โดยใช้กีฬาซึ่งผู้ใช้บริการลานกีฬานิยม เล่นกันมากที่สุด 7 ประเภท คือ ฟุตซอลชาย , สตรีทบาสเก็ตบอล , วอลเล่ย์บอลชาย , เซปัคตะกร้อ , เปตอง , แชร์บอลหญิง และหมากรุก
รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า มหกรรมกีฬาครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงพระปรีชาสามารถทางการกีฬาเป็นอย่างยิ่ง และทรงเป็นแบบอย่างในการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนสนใจการเล่นกีฬายิ่งขึ้น อีกทั้งพระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรในเรื่องยาเสพติดที่กำลังระบาดอย่างหนัก นอกจากนี้กิจกรรมดังกล่าวยังมีส่วนเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างลานกีฬาต่าง ๆ และเป็นการพัฒนาทักษะการเล่นกีฬาให้ถูกต้องตามกฎ กติกาของกีฬาประเภทนั้นๆ ด้วย
สำหรับการจัดการแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ 1. ระดับเขต เป็นการคัดเลือกช้างเผือก แต่ละลานกีฬาในพื้นที่ 50 เขต เพื่อเป็นตัวแทนเขตเข้าร่วมการแข่งขันในระดับกลุ่มเขตต่อไป 2.ระดับกลุ่มเขต เป็นการแข่งขันเพื่อคัดเลือกนักกีฬาตัวแทนกลุ่มเขตทั้ง 6 กลุ่มเขต ได้แก่ กลุ่มกรุงธนเหนือ กลุ่มกรุงธนใต้ กลุ่มรัตนโกสินทร์ กลุ่มเจ้าพระยา กลุ่มบูรพา และกลุ่มศรีนครินทร์ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในระดับกทม. โดยกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-30 พ.ย.44 ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง 3. ระดับกรุงเทพมหานคร เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของกีฬาทุกประเภท ซึ่งมีการประกวดกองเชียร์และการแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน พร้อมชมนิทรรศการ การแสดงผลการดำเนินงานด้านการจัดกิจกรรมกีฬาในปีงบประมาณ 2544 และนิทรรศการแสดงการป้องกันพิษภัยของยาเสพติด โดยกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 2 ธ.ค.44 ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง
การจัดการแข่งขันครั้งนี้ ได้กำหนดประเภทกีฬาไว้ 7 ประเภท ได้แก่ ฟุตซอล (ชาย) รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี และรุ่นประชาชน ทั่วไป สตรีทบาสเก็ตบอล (ชาย) รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และประชาชนทั่วไป วอลเล่ย์บอล (ชาย) รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี เซปัคตะกร้อ (ชาย) รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี และรุ่นประชาชนทั่วไป เปตองทีม 3 คน (ชาย-หญิง) รุ่นอายุ 50 ปีขึ้นไป และประชาชนทั่วไป แชร์บอล (หญิง) รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี และประชาชนทั่วไป หมากรุก ไม่จำกัดเพศ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี และประชาชนทั่วไป สำหรับผู้ชนะเลิศ แต่ละประเภทกีฬาจะได้รับถ้วยรางวัลของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมเหรียญที่ระลึก--จบ--
-นห-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ