เชิญร่วมกิจกรรมสัปดาห์ต่อต้านวัณโรคและโรคระบบการหายใจ ณ ฟิวเจอร์พาร์ค บางแค 16-22 ส.ค.นี้

กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (15 ส.ค.43) เวลา 11.00 น. ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายประพันธ์ กิติสิน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานแถลงข่าวการจัดกิจกรรมเนื่องในสัปดาห์ต่อต้านวัณโรคและโรคระบบการหายใจ ระหว่างวันที่ 16-22 ส.ค.43 โดยมี นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการกองวัณโรค กระทรวงสาธารณสุข นพ.นัดดา ศรียาภัย ประธานกรรมการกลาง สมาคมปราบวัณโรคแห่งประเทศไทย พญ.สุวณี รักธรรม ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และผู้แทนจากศูนย์การค้าฟิวเจอร์ พาร์ค บางแค ร่วมแถลงข่าว
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากรายงานการเฝ้าระวังโรคของสำนักอนามัย พบว่า ผู้ป่วยวัณโรคในเขตกรุงเทพมหานคร มีแนวโน้มสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา แม้ว่ากรุงเทพมหานครจะให้บริการรักษาผู้ป่วยวัณโรคทุกรายโดยไม่คิดค่ายา แต่ยังคงมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนรักษาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นที่คาดหมายว่าวัณโรคจะแพร่กระจายมากขึ้น และคาดหมายว่าทั่วประเทศจะมีผู้ป่วยวัณโรคเกิดขึ้นใหม่ประมาณปีละ 1 แสนคน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ป่วยกว่า 4 หมื่นคน ที่สามารถแพร่เชื้อวัณโรคสู่ชุมชนได้ ดังนั้นการควบคุมวัณโรคในเขตเมืองให้ได้ผลจึงต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประชาชนกับบุคลากรสาธารณสุข ทั้งในการป้องกันและรักษาโรค
ผู้อำนวยการกองวัณโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า วัณโรคสามารถติดต่อได้จากการหายใจ ไอ จามรดกัน เมื่อจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น การสัมผัสและการแพร่มีมากขึ้น จำนวนผู้ป่วยวัณโรคในเขตเมืองจึงขยับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเป็นปัญหาสาธารณสุขในเขตเมืองมากกว่าในเขตชนบท แนวโน้มการดื้อยาก็อยู่ในสถานะที่ไม่น่าไว้วางใจ และเป็นปัญหาต่อการควบคุมวัณโรคของประเทศ อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยการใช้การรักษาวัณโรคด้วยระบบระยะสั้น (6 เดือน) ภายใต้การสังเกตโดยตรง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างผู้ป่วยกับพี่เลี้ยงผู้ควบคุมดูแลการกินยาของผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นสำคัญ
สำหรับโรคหวัดและโรคปอดบวมก็เป็นโรคระบบการหายใจที่เป็นปัญหา ปอดบวมเป็นสาเหตุการตายเกือบครึ่งหนึ่งของโรคติดเชื้อในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ อันเนื่องจากได้รับการรักษาช้าหรือไม่ถูกต้องเป็นสำคัญ ขณะที่โรคหวัดเป็นโรคที่มีอัตราสูงมากและมีปัญหาการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม ทำให้เกิดปัญหาการดื้อยาและการสูญเสียทางเศรษฐกิจ ดังนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครอง จึงต้องตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวด้วย
ด้านประธานกรรมการกลาง สมาคมปราบวัณโรคฯ กล่าวด้วยว่า ทางสมาคมฯได้ดำเนินงานเพื่อป้องกัน รักษาและควบคุมวัณโรคมาเกือบ 30 ปีแล้ว แต่ยังคงมีความจำเป็นที่จะเตือนให้ประชาชนทราบว่า วัณโรคยังคงเป็นปัญหาคุกคามสุขภาพของคนไทยอยู่ จึงต้องช่วยกันป้องกันและรักษาสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมสัปดาห์ต่อต้านวัณโรคและระบบการหายใจ รวมทั้งเอกซเรย์ปอดเพื่อเฝ้าระวังวัณโรค ตลอดจนชมนิทรรศการและสาระความรู้ที่น่าสนใจได้ ณ แกรนด์ฮอลล์ ฟิวเจอร์พาร์ค บางแค และนิทรรศการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทุกแห่งของสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 16-22 ส.ค.43 เวลา 12.00-20.00 น.--จบ--
-นศ-