กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--คิธแอนด์คิน
กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ได้ให้มูลนิธิสถาบันประสิทธิภาพพลังงาน ดำเนินโครงการปรับแต่งเครื่องยนต์เพื่อประหยัดพลังงานให้เจ้าของรถฟรี ซึ่งจากผลการวิจัยของมูลนิธิฯ อย่างต่อเนื่องทำให้ทราบว่าการปรับแต่งเครื่องยนตร์สามารถประหยัดน้ำมันได้ ถึง 10-30% ซึ่งท่านเจ้าของรถ โดยเฉพาะรถเก่าเกิน 7 ปี ควรที่จะดูแลเอาใจใส่เครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ
ดร.พงษ์พิสิฏฐ์ วิเศษกุล ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) กล่าวว่า โครงการประหยัดพลังงานและลดมลภาวะที่เกิดจากการใช้รถยนต์ ซึ่งดำเนินงานโดยมูลนิธิสถาบันประสิทธิภาพพลังงาน (ประเทศไทย) ได้เปิดบริการตรวจวัดสภาพและปรับเครื่องยนต์ (Tune up) ฟรี ให้กับรถยนต์เบนซิน ที่มีอายุใช้งานอย่างน้อย 7 ปี จำนวน 200 คัน ซึ่งเป็นโครงการนำร่อง โดยจัดให้มีสถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ฟรีแก่ผู้ที่สนใจทั่วไป คือที่สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพระนครเหนือ โดยให้เจ้าของรถติดตามบันทึกผลสภาพการทำงานทั่วไปของเครื่องยนต์ ความสิ้นเปลืองน้ำมัน และไอเสียที่ออกมา ทั้งก่อนและหลังการตรวจสภาพ และจากการดำเนินงานมาระยะหนึ่งทำให้เชื่อมั่นได้ว่า การปรับแต่งเครื่องยนต์สามารถประหยัดน้ำมันได้ไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งหากในหนึ่งปี ใช้น้ำมัน 2,500 ลิตร หลังการตรวจสภาพและปรับแต่งเครื่องแล้ว ก็จะสามารถประหยัดน้ำมันได้ 250 ลิตร คิดเป็นประหยัดเงินได้ประมาณ 3,500 บาท/ปี
"กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ได้สนับสนุนทุกมาตรการที่จะมีส่วนทำให้คนไทยใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด ซึ่ง สพช. ได้ให้การสนับสนุนกับทุกหน่วยงานเพื่อร่วมกันประหยัดน้ำมัน ในส่วนของ "โครงการปรับแต่งเครื่องยนต์เพื่อประหยัดพลังงาน" มีกิจกรรมปรับแต่งรถยนต์เครื่องยนต์ก๊าซโซลีน การล้างห้องเผาไหม้และหัวฉีดในเครื่องยนต์ดีเซล การตรวจเช็คลมยางและการเป่าไส้กรองอากาศ วิธีการปรับแต่งเครื่องยนต์ (Tune up) เป็นวิธีการที่ยอมรับกันในทางวิศวกรรมยานยนต์ ว่าการปรับแต่งเครื่องยนต์แล้วทำให้ระบบเผาไหม้ของเครื่องยนต์สะอาดขึ้น ไม่มีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ทั้งในห้องเผาไหม้ในลูกสูบ และที่หัวฉีด สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และทำให้ประหยัดน้ำมัน 10-30% ซึ่งวิธีการนี้นิยมใช้กันในประเทศสหรัฐอเมริกา และนอกจากนี้แล้วการปรับแต่งเครื่องยนต์ยังสามารถลดมลภาวะที่เกิดจากการใช้รถยนต์ได้อีกด้วย" ดร.พงษ์พิสิฏฐ์ กล่าว
ด้านนายอธิคม นิลอุบล ผู้จัดการโครงการประหยัดพลังงานและลดมลภาวะที่เกิดจากการใช้รถยนต์ มูลนิธิสถาบันประสิทธิภาพพลังงาน (ประเทศไทย) กล่าวว่า เมื่อรถยนต์ที่เข้ามารับการตรวจวัดสภาพและปรับแต่งระบบควบคุมเครื่องให้ถูกต้องตามมาตรฐานของรถนั้นแล้ว การทำงานของเครื่องยนต์ ย่อมดีขึ้น ความสิ้นเปลืองน้ำมันย่อมน้อยลง และจากผลการดำเนินการปรับแต่งเครื่องยนต์ในระหว่างช่วง 6 เดือนแรกของโครงการฯ สรุปผลในเบื้องต้นได้ว่า การปรับแต่งเครื่องยนต์เบนซินสามารถทำให้เกิดการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงลงได้ประมาณ 8-38% และสามารถลดคาร์บอนมอนอกไซด์ได้ 18-98% ลดไฮโดรคาร์บอนได้ 21-74% สำหรับเจ้าของรถที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อได้ที่มูลนิธิสถาบันประสิทธิภาพพลังงาน (ประเทศไทย) เลขที่ 108 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ ชั้น 9 ถ.รางน้ำ พญาไท กทม. โทร.642-7090-6 ต่อ 211
ศูนย์ประชาสัมพันธ์รวมพลังหาร 2 โทรศัพท์ 6121555 ต่อ 201-5 โทรสาร 6121368 121/1-2 ถ.เพชรบุรี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 www.nepo.go.th-- จบ--
-อน-