ILCT: ข้อควรระวังในการจดทะเบียนชื่อโดเมน

พฤหัส ๑๖ สิงหาคม ๒๐๐๑ ๐๙:๐๙
กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--ที่ปรึกษากฎหมายสากล
โดยไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ
บริษัท ที่ปรึกษากฎหมายสากล จำกัด
[email protected]
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้รับคำถามจากท่านผู้อ่านท่านหนึ่งเกี่ยวกับปัญหาการโอนชื่อโดเมน (Domain Name) ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า บริษัทไทยบริษัทหนึ่งได้ว่าจ้างนาย ก. ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทให้ดูแลเกี่ยวกับเว็บไซท์และการจดทะเบียนชื่อโดเมนของบริษัท ปรากฏว่าภายหลังนาย ก. ได้ลาออกจากบริษัทไป โดยที่มิได้เปลี่ยนชื่อที่อยู่ที่ระบุไว้ในการจดทะเบียนชื่อโดเมนกับนายทะเบียนที่รับจดทะเบียนชื่อโดเมน (Accredited Domain Name Registrar) หลังจากนั้น 3 เดือนปรากฏว่า ชื่อโดเมนของบริษัทถูกขายให้กับบริษัทอื่น ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ บริษัทจะเรียกร้องชื่อโดเมนดังกล่าวคืนได้หรือไม่ ผมคิดว่าเป็นปัญหาที่น่าสนใจและเกิดขึ้นบ่อย จึงขอหยิบยกมาคุยกันในวันนี้ครับ
การจดทะเบียนชื่อโดเมน ปัจจุบันมีการจดทะเบียนชื่อโดเมนอยู่ 3 ประเภทครับ คือ 1) การจดทะเบียนชื่อโดเมนระดับสากล (.com .org .net) 2) การจดทะเบียนชื่อโดเมนระดับประเทศ (.co.th ในส่วนของประเทศไทย) และ 3) การจดทะเบียนชื่อโดเมนเป็นภาษาท้องถิ่น (.คอม) ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการจดชื่อโดเมนประเภทใด ก็จะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่ 4 ฝ่ายคือ
1) ผู้จดทะเบียนชื่อโดเมน (Registrant) ในทางกฎหมายก็คือเจ้าของสิทธิในชื่อโดเมนซึ่งโดยปกติก็คือ เจ้าของชื่อทางการค้าหรือบริษัท นั่นเองครับ เช่น บริษัทไมโครซอฟท์ก็จะจดชื่อโดเมนว่า microsoft.com บริษัทไมโครซอฟท์ก็จะเป็น Registrant เป็นต้น
2) ผู้ติดต่อประสานงานด้านการบริหารจัดการ (Administrative Contact) บุคคลนี้จะติดต่อกับนายทะเบียนที่รับจดทะเบียนชื่อโดเมนซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงาน ICANN ที่ดูแลเรื่องการจัดสรรชื่อโดเมน อาทิเช่น Network Solutions, Inc. Tucows, Inc. เป็นต้น
Administrative Contact เป็นบุคคลที่มีความสำคัญมากที่สุดในการจดทะเบียนชื่อโดเมนครับ เพราะการโอนสิทธิในชื่อโดเมน การแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่อยู่ของเจ้าของ (Address) หรือที่อยู่บนอินเตอร์เน็ต (IP Address) หรือรายละเอียดอื่นๆ ทั้งหมด จะต้องทำโดย Administrative Contact เท่านั้น ซึ่งโดยปกติคอมพิวเตอร์ของนายทะเบียนผู้รับจดทะเบียนชื่อโดเมนจะดำเนินการโอนชื่อโดเมน หรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อโดเมนโดยอัตโนมัติทันทีที่คำสั่งโอนหรือเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมาจาก E-mail Address ที่ Administrative Contact ให้ไว้กับนายทะเบียนผู้รับจดทะเบียนตั้งแต่ต้น ตัวอย่างเช่น หากนาย ข. จดทะเบียนชื่อโดเมนคำว่า "Thailand.com" กับบริษัทเน็ตเวิคโซลูชั่น (NSI) โดย Administrative Contact คือ นาย ข. และ E-mail Address ของนาย ข. ที่ใช้ในการติดต่อคือ [email protected] หากคำสั่งโอนชื่อโดเมนหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดดังกล่าวส่งมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของ NSI และ เครื่องคอมพิวเตอร์ของ NSI ตรวจสอบแล้วพบว่า คำสั่งดังกล่าวมาจาก E-mail address คือ [email protected] เครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะทำการโอนชื่อโดเมนรายนั้นโดยทันทีแม้ว่าคนที่ป้อนคำสั่งจะไม่ใช่ นาย ก. เจ้าของผู้จดทะเบียนชื่อโดเมน "thailand.com" ก็ตาม
3) ผู้ติดต่อประสานงานด้านการเงิน (Billing Contact) จะทำหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องการชำระเงินค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนชื่อโดเมน หรือต่ออายุชื่อโดเมน
4) ผู้ที่ติดต่อประสานงานทางด้านเทคนิค (Technical Contact) จะทำหน้าที่รับผิดชอบทางด้านเทคนิค เช่น ที่อยู่บนอินเตอร์เน็ต ปัญหาทางด้านเทคนิคต่างๆ
จากที่กล่าวมาข้างต้นท่านผู้อ่านก็จะเห็นได้ว่า บุคคลที่มีความสำคัญมากที่สุดก็คือ Administrative Contact นั่นเอง เพราะเป็นผู้ที่กำหนดได้ว่า บุคคลใดจะเป็นเจ้าของชื่อโดเมน รวมถึงกำหนดรายละเอียดต่างๆ ของชื่อโดเมน
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ผู้ประกอบการในธุรกิจดอทคอมส่วนใหญ่ มักเชื่อใจให้ Web Master หรือลูกจ้างในองค์กรของตนเป็น Administrative Contact และเมื่อบุคคลดังกล่าวลาออกไปก็มิได้มีการทำโอนชื่อโดเมนกลับคืนมา หรือในบางกรณีไม่มีการทำสัญญากันไว้อย่างชัดเจนแน่นอน ลูกจ้างจึงอ้างว่าชื่อโดเมนดังกล่าวเป็นของตน และขายให้แก่บุคคลภายนอก หรือบางบริษัทอาจจะว่าจ้างนายหน้าหรือ Broker ที่รับจดทะเบียนชื่อโดเมน ซึ่งไม่ใช่นายทะเบียนที่แท้จริงไปจดทะเบียนชื่อโดเมนดังกล่าวไว้ ภายหลังพอชื่อโดเมนดังกล่าวมีชื่อเสียงแพร่หลายและมีมูลค่ามากขึ้น นายหน้าดังกล่าวก็จะนำมาขายคืนแก่เจ้าของกิจการที่ว่าจ้างให้จดทะเบียน
วิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ผมจะแนะนำในที่นี้มี 4 วิธีคือ
1. ท่านผู้ประกอบการ E-Commerce ทุกท่าน ควรตรวจสอบรายละเอียดการจดทะเบียนชื่อโดเมนว่า ชื่อโดเมนของท่านในปัจจุบันบุคคลใดมีชื่อเป็น Registrant และ Administrative Contact หากบุคคลนั้นเป็นลูกจ้าง Web Master ในองค์กรท่านหรือนายหน้าที่รับจดทะเบียนก็ควรเปลี่ยนแปลงมาเป็นตัวท่านเอง หรือให้บุคคลที่เชื่อถือให้เป็นผู้ดูแล หรืออาจมีการเซ็นสัญญาจ้างแรงงานหรือสัญญาโอนชื่อโดเมนกับลูกจ้างดังกล่าวไว้เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง (โดยท่านสามารถเช็ครายละเอียดของการจดทะเบียนชื่อโดเมนของท่านได้ผ่านทางเว็บไซท์ www.register.com หรือ www.betterwhois.com)
2. หากจำเป็นต้องใช้ บุคคลภายนอกเป็น Administrative Contact ท่านควรส่งจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรไปที่นายทะเบียนที่รับจดทะเบียนชื่อโดเมนของท่านว่า ท่านเป็นเจ้าของที่ถูกต้องแท้จริง ดังนั้น หากมีการโอนชื่อโดเมนหรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดใดๆ ในชื่อโดเมน ท่านจะยืนยันการเปลี่ยนแปลงโดยการส่งจดหมายที่มีลายมือชื่อของท่านเป็นลายลักษณ์อักษรทุกครั้งจึงจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้
3. อาจใช้มาตรการทางเทคนิคเข้าช่วย คือ ใช้ระบบรักษาความปลอดภัย โดยใช้การเข้ารหัสลายมือชื่อแบบ Encryption หรือ PGP ซึ่งตอนจดทะเบียนชื่อโดเมนนั้นจะมีให้เลือกอยู่แล้วในเว็บไซท์ โดยท่านเป็นผู้เก็บรักษารหัสดังกล่าวไว้แต่เพียงผู้เดียว หากไม่มีรหัสก็ไม่สามารถโอนหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ หรือ 4. ในกรณีที่ Administrative Contact นำชื่อโดเมนของท่านไปขาย หรือโอนโดยไม่ได้รับอนุญาต ท่านก็อาจแจ้งความดำเนินคดีในทางแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย หรือขอชื่อโดเมนคืนได้ ในส่วนคดีอาญานั้น ท่านอาจดำเนินคดีในความผิดฐานยักยอกทรัพย์กับ Administrative Contact ดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องพิจารณาข้อเท็จจริงเป็นกรณีๆ ไปหรือปรึกษาทนายความผู้เชี่ยวชาญครับ ว่าการดำเนินคดีในรูปแบบใด จึงจะดีที่สุด
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันธุรกิจของท่านจากปัญหาดังกล่าว ผมแนะนำว่า ท่านผู้ประกอบการทุกท่านควรรีบดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดของการจดทะเบียนชื่อโดเมนขององค์กรท่านโดยเร็วครับ ก่อนที่ปัญหาดังกล่าวจะสายเกินแก้ครับ--จบ--
-อน-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก