ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ลดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวและโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--ธนาคารอาคารสงเคราะห์
นายสมศักดิ์ อัศวโภคี รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ แถลงข่าวเนื่องในวันครบรอบ 47 ปี
ของการดำเนินงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทลอยตัว เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนเงินของธนาคาร
ได้มีการปรับตัวลดลงจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และพันธบัตรเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงได้ครบกำหนดอายุไถ่ถอนไปบางส่วนแล้ว ธนาคาร
จึงได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภทลอยตัวทุกวงเงินลงระหว่างร้อยละ 0.25 - 0.50 ต่อปี โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน
2543 นี้ เป็นต้นไป
ไม่เกิน 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยใหม่ 7.00%
ไม่เกิน 1 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยใหม่ 7.75 %
ไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยใหม่ 8.25%
เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยใหม่ 8.50 %
สำหรับโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เนื่องจากปัจจุบันได้เกิดน้ำท่วมในหลาย ๆพื้นที่ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และภาคใต้ รวมถึงพื้นที่อื่น ๆอีกหลายจังหวัด ทำให้ลูกค้าและประชาชนได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทำกิน ทรัพย์สิน และที่อยู่อาศัย
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งได้รับมอบหมายนโยบายจากรัฐบาลให้เร่งดำเนินการ จัดหาแนวทางช่วยเหลือ
ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าว เป็นการเฉพาะกิจเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างทันท่วงที ธนาคารจึง
จัดให้มีโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีร้อยละ 4.25 ต่อปี โดยจะให้กู้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง
รายละไม่เกิน100,000 บาท สำหรับระยะเวลาให้กู้สูงสุดไม่เกิน 30 ปี เช่นเดียวกับเงินกู้ประเภทอื่นของธนาคาร โดยเปิดให้บริการสำหรับ
ประชาชนทั่วไป ทั้งลูกค้ารายใหม่ ลูกค้าเดิมและผู้ที่กู้กับสถาบันการเงินอื่น ก็สามารถยื่นกู้เงินตามโครงการนี้พร้อมกับการกู้เพื่อไถ่ถอนจำนองได้
ซึ่งลูกค้าสามารถมายื่นขอรับบริการได้ ณ ที่ทำการสาขาของธนาคารหรือที่สำนักงานใหญ่ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ส่วนผลการให้สินเชื่อในรอบ 8 เดือนแรกที่ผ่านมา ธนาคารสามารถให้สินเชื่อแก่ลูกค้าได้จำนวนทั้งสิ้น 53,820 ราย
เป็นเงิน 20,353 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับผลการให้สินเชื่อในระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งให้สินเชื่อได้จำนวน 32,859 ราย
เป็นเงิน 15,409 ล้านบาท จะเห็นได้ว่า จำนวนรายเพิ่มขึ้นถึง 64 % ส่วนจำนวนเงินเพิ่มขึ้น 32 % ซึ่งธนาคารคาดว่าจะสามารถให้สินเชื่อ
ทั้งปีได้ประมาณ 32,000 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมา สินเชื่อของธนาคารมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
สามารถให้สินเชื่อได้เกือบ 3,000 ล้านบาท