กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--กทม.
ที่สำนักรักษาความสะอาด ศาลาว่าการ กทม.2 ดินแดง เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.44) เวลา 10.00 น. นายพิชัย ไชยพจน์พานิช ผู้อำนวยการสำนักรักษาความสะอาด กทม.เปิดเผยถึงผลสรุปการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ในโครงการจัดทำแผนแม่บทการจัดเก็บมูลฝอยของกรุงเทพมหานครว่า สำนักรักษาความสะอาดได้ทำการเก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 10,000 คนจากเขตต่างๆทั้ง 50 เขต ซึ่งกลุ่มตัวอย่างเป็นชาย 60.9 % เป็นหญิง 39.1 % ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 21-40 ปี การศึกษาในระดับประถม อาชีพค้าขาย มีจำนวนสมาชิก ในครอบครัว 1-5 คน และมีรายได้ระหว่าง 10,000-20,000 บาท จากการสัมภาษณ์ พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจกับการให้บริการเก็บขนขยะของกรุงเทพมหานครคิดเป็น 78.6 % ไม่พึงพอใจ 20.6 % และไม่ออกความเห็น 0.8 % โดยความไม่พึงพอใจมีสาเหตุมาจากพาหนะของกรุงเทพมหานครที่ใช้ในการเก็บขนฯ ไม่เหมาะสม จำนวนครั้งในการเก็บน้อยเกินไป ความถี่ในการเก็บไม่แน่นอน และเวลาในการเก็บไม่เหมาะสม ตามลำดับ
ส่วนภาชนะที่กลุ่มตัวอย่างใช้ในการรองรับขยะอันดับหนึ่ง คือ ถุงพลาสติก รองลงมาคือ ถังพลาสติก/ถังเหล็กมีฝาปิด และถังไม่มีฝา กลุ่มตัวอย่างมีส่วนร่วมในการแยกขยะ เรียงลำดับ ดังนี้ อันดับหนึ่ง การบริจาคเสื้อผ้าหรือสิ่งของเก่า รองลงมาคือการใช้ซ้ำ แยกทิ้งขยะตามถังที่จัดไว้ การใช้สินค้าจากวัสดุรีไซเคิล และการขายสินค้าให้ซาเล้งตามลำดับ
นายพิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับความรู้เรื่องโครงการแยกขยะก่อนทิ้งเพื่อลดปริมาณขยะของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า 90.3% ทราบว่า มีการประชาสัมพันธ์โครงการฯ นอกจากนั้นส่วนใหญ่ (71.6 % ) มีส่วนร่วมกับโครงการฯ โดยการแยกขยะใส่ถุงพลาสติก ส่วนผู้ที่ไม่มีส่วนร่วม คิดเป็น 27.8 % เนื่องจากเห็นว่าการแยกขยะทำให้เกิดความยุ่งยากเสียเวลา และคนงานของกรุงเทพมหานครมีการเก็บขยะรวมไม่ได้แยกเก็บ ความเข้าใจเกี่ยวกับสีของถังขยะของกรุงเทพมหานคร ส่วนใหญ่ (90.1 %) มีความเข้าใจดี และยินดีที่จะให้ความร่วมมือแยกทิ้งขยะตามสีถัง 88-91 % การจัดการขยะของเมืองใหญ่ กลุ่มตัวอย่าง 23.5 % เห็นด้วยกับการดำเนินการจัดการขยะในพื้นที่ของตนเอง และอีก 65.6 % เห็นด้วยโดยมีเงื่อนไขให้มีมาตรการป้องกันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วยในการจัดการขยะในพื้นที่ของตนเองมีอยู่ 10.9 %
การปรับปรุงการจัดเก็บค่าธรรมเนียม 72.9 % เห็นด้วยที่จะให้มีการขึ้นค่าธรรมเนียม โดยให้มีการปรับปรุงระบบการเก็บขยะ และระบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียม ส่วนอีก 26.3 % ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าธรรมเนียม ทั้งนี้ยังพบว่าอัตราค่าธรรมเนียมที่กลุ่มตัวอย่างยินดีจะจ่ายมากที่สุดคือ 20-40 บาท/เดือน รองลงมาคือ 41-60 บาท/เดือน และ 61-80 บาท/เดือน ตามลำดับ ส่วนวิธีการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม กลุ่มตัวอย่างเห็นว่า ควรเก็บจากย่านธุรกิจให้มากกว่าบ้านพักอาศัย และเก็บค่าธรรมเนียมตามปริมาณขยะ--จบ--
-นศ-