กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--กรมทะเบียนการค้า
นายอดุลย์ วินัยแพทย์ อธิบดีกรมทะเบียนการค้า เปิดเผยว่า กรมทะเบียนการค้าได้ออกหนังสือคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจเข้าข่ายตามมาตรา ๔๕ ตามกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวปี ๒๕๔๒ ที่กำหนดให้คนต่างด้าวที่ประกอบธุรกิจที่ไม่อยู่ในบัญชีท้ายประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๘๑ (ปว.๒๘๑) แต่เข้าข่ายเป็นธุรกิจตามบัญชีกฎหมายอยู่แล้ว หากประสงค์จะประกอบธุรกิจต่อไปต้องแจ้งต่ออธิบดีกรมทะเบียนการค้าเพื่อขอหนังสือรับรองภายใน ๑ ปี นับตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๔๓ ถึงวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๔๔ หากคนต่างด้าวยังไม่มารับหนังสือรับรองให้ถือว่าคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุ- ญาต หากพ้นกำหนดดังกล่าวจะเสียสิทธิและจะต้องเลิกประกอบธุรกิจในทันที ทั้งนี้ ธุรกิจที่ต้องแจ้งต่ออธิบดีกรมทะเบียนการค้าเพื่อขอรับหนังสือรับรอง ได้แก่ ธุรกิจการสกัดสมุนไพรไทย การผลิตอาวุธปืน เครื่องกระสุน ดินปืน วัตถุระเบิด และส่วนประกอบ อาวุธยุทโธปกรณ์ เรืออากาศยาน หรือยานพาหนะทางการทหาร และอุปกรณ์ หรือส่วนประกอบของอุปกรณ์สงครามการผลิตเครื่องดนตรีไทย ธุรกิจอื่นบางประเภทที่แต่เดิมไม่ได้ถือว่าเป็นธุรกิจบริการตามบัญชีท้ายประกาศของ ปว.๒๘๑ แต่ตามกฎหมายประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวปี ๒๕๔๒ ให้ถือว่าเป็นธุรกิจบริการ เช่น ธุรกิจการให้เช่าทรัพย์สิน ธุรกิจลิสซิ่ง ธุรกิจให้กู้ยืมเงิน ธุรกิจโรงรับจำนำ ธุรกิจรับฝากสินค้า ธุรกิจคลังสินค้า ธุรกิจโรงเรียน ธุรกิจโรงมหรสพ และธุรกิจอื่น ๆ ที่จะต้องติดต่อขอรับหนังสือรับรองสิทธิจากกรมทะเบียน การค้าโดยด่วน นายอดุลย์ กล่าวว่า ส่วนผลการหารือร่วมกับคณะผู้บริหารของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและขอทราบนโยบายในการส่งเสริมการลงทุนให้กับผู้ประ- กอบการคนต่างด้าวของบีโอไอแล้ว ทั้งนี้ เพื่อจะทำให้การทำงานของคณะกรรมการควบคุมการประกอบธุรกิจคนต่างด้าวเกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะขั้นตอนการออกใบอนุญาตส่งเสริมธุรกิจค้าปลีก และการออกใบอนุญาตส่งเสริมอู่บริการรถยนต์ ซึ่งนโยบายทั้ง ๒ ฝ่ายตรงกัน สิ่งไหนที่จะส่งผลกระทบผู้ค้าปลีกและธุรกิจของคนไทยจะมีการหารือกันใกล้ชิดให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้ผู้ค้าปลีกไทยและธุรกิจคนไทยถูกธุรกิจคนต่างด้าวเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดมากเกินไป--จบ--
-สส-