กรุงเทพฯ--5 ต.ค.--เอ็มเอ็มซี สิทธิผล
เหนือทุกแนวคิดของยานยนต์เอนกประสงค์ รูปโฉมใหม่ดีไซน์สปอร์ต
โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยมขนาดใหญ่ ที่เป็นผลดีต่อการไหลเวียนของอากาศเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์ ช่วยระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
ปลอดภัยสูงสุดด้วยกระจกบังลมหน้าแบบอัดซ้อนนิรภัย 2 ชั้น (Laminated Safely Glass) ไฟหน้าแบบฟรีฟอร์ม มัลติริเฟล็กเตอร์ (Free-form multireflector) หลอดไฟหน้าแบบฮาโลเจน (Halogen) วัสดุโคมไฟผลิตจากโพลีคาร์บอเนต (Poly carbonate) ขยายสัดส่วนเต็มพิกัดให้รัศมีส่องสว่างกว้างไกลกว่า เพิ่มทัศนวิสัยที่ดีสำหรับการขับขี่ยามค่ำคืนโดยไม่ส่องแสงรบกวนผู้ขับขี่รถยนต์คันอื่นๆ พร้อมเคลือบสารเคลือบแข็ง (Hard coat) เพิ่มความใสสว่าง ป้องกันการกะเทาะและการขีดข่วนได้ดีกว่ากระจกแก้ว สวยแกร่งด้วยชุดกระจกมองข้างโครเมี่ยมปรับด้วยไฟฟ้าแบบเมกะวายเลนส์ (Mega wide lens) ช่วยสะท้อนความมั่นใจที่เหนือกว่าทุกสภาวะขับเคลื่อน พร้อมกันชนหน้าขนาดใหญ่แบบ Big Bumper ภายในยังเสริมโครงเหล็กเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น บึกบึนด้วย โอเวอร์ เฟนเดอร์ (Over Fender) หรือโป่งข้างซุ้มล้อแบบ 6 ชิ้น ที่พ่นสีเดียวกับตัวรถ สะดวกสบายในการ ขึ้น-ลง ด้วยบันไดข้างแบบอลูมีเนียมปลอดสนิม มาดเข้มเกินใครด้วยดีไซน์ด้านท้ายใช้พื้นฐานการออกแบบตัวถังร่วมกับรถมิตซูบิชิ ชาเลนเจอร์ (Challenger) รถเอนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมจากประเทศญี่ปุ่น ด้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่สาม เพิ่มทัศนวิสัยด้านหลังขณะฝนตกด้วยที่ปัดน้ำฝนและแผงไล่ฝ้ากระจกหลัง เสริมความรู้สึกสไตล์ออฟโรดกับที่ยึดยางอะไหล่ท้ายรถพร้อมติดตั้งกุญแจล็อคป้องกันการโจรกรรมได้ เพิ่มความสะดวกสบายในการยึดสัมภาระบนหลังคาด้วยขายึดบนหลังคา
อีกระดับความสบายภายในห้องโดยสาร
ให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ด้วยมิติห้องโดยสารกว้างขวางทุกสัดส่วนดีไซน์อย่างลงตัว ในมุมมองที่เรียบง่ายแต่ให้สัมผัสที่หรูหรา พื้นที่ภายในห้องโดยสารสามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด พื้นที่ช่วงขาเบาะหน้าแถวที่ 1 และ 2 กว้างขวางนั่งสบายไม่อึดอัด เบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 สามารถพับเก็บเพื่อบรรทุกสัมภาระในการเดินทาง ทุกองค์ประกอบภายในได้รับการออกแบบอย่างลงตัว แผงหน้าปัดและคอนโซลกลางออกแบบด้วยดีไซน์เฉพาะตัว ให้ความสะดวกในการใช้งานพร้อมตกแต่งด้วยชุดลายไม้สวยหรู (รุ่น GLS) พวงมาลัยแบบ 4 ก้านหุ้มด้วยหนังแท้ (รุ่น GLS) ปรับระดับสูง-ต่ำ จับถนัดกระชับมือ เพิ่มความสวยงามสะดวกสบายกับเบรกมือระหว่างเบาะนั่งแบบรถเก๋ง หรูหราด้วยเบาะนั่งทรงสปอร์ตออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์พร้อมผ้าหุ้มเบาะลายใหม่แบบทูโทน แผงข้างประตูออกแบบใหม่ ขึ้นรูปชิ้นเดียวพร้อมติดตั้งวัสดุซับลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารทำให้ สตราดา จี-แวกอน เงียบกว่าด้วยระดับเสียงเพียง 66.5 เดซิเบล ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. และ 70.9 เดซิเบล ที่ 120 กม./ชม. (เป็นการทดสอบภายใน) ปุ่มปรับและสวิตซ์ควบคุมต่างๆ ถูกจัดวางอย่างลงตัว เพิ่มความสะดวกสบายด้วยการติดตั้งมาตรวัดบนคอนโซลหน้า (Triple meter) ซึ่งประกอบไปด้วยมาตรวัดระดับความลาดเอียง อุณหภูมิภายนอก และกำลังแบตเตอรี่ เพื่อการใช้งานแบบออฟโรดอย่างแท้จริง นอกจานนี้ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อาทิ เสาอากาศควบคุมด้วยไฟฟ้า ด้านหลังติดตั้งปลั๊กไฟขนาด 12 โวลท์ กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน นาฬิกาแบบดิจิตอล และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกมากมาย
ขุมพลังแรงจัดเครื่องยนต์ 4M40 2800 ซีซี ดีเซล
เทคโนโลยีใหม่ในมิตซูบิชิแอล 200 สตราดา และมิตซูบิชิ สตราดา แกรนด์ดิส
- ให้กำลังสูงสุด 71 กิโลวัตต์ (kW) ที่ 4,000 รอบต่อนาที
- ให้แรงบิดสูงสุด 198 นิวตัน (N-m)ที่ 2,000 รอบต่อนาที
- ระบบไดเร็ค แอคทีฟ โอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DIRECT ACTIVE OVERHEAD CAMSHIFT) ช่วยให้การปิด-เปิด วาล์วโดยตรงรวดเร็วและแม่นยำ ตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างทันใจ ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ และสูบเสียกำลังงาน
- ระบบไซเลนท์ ชาฟท์ (SILENT SHAFT) หรือเพลาถ่วงดุลย์ลดการสั่นสะเทือน และเสียงดังจากเครื่องยนต์ช่วยให้เครื่องเดินเงียบกว่าแม้ในขณะที่รอบสูง พร้อมเพิ่มอายุการใช้งานที่ยาวนาน
- ระบบออยล์ คูลเลอร์ (OIL COOLER) ติดตั้งอยู่ข้างเครื่องยนต์ ช่วยระบายความร้อนน้ำมันเครื่องยนต์ด้วยน้ำ
- ระบบออยล์ เจ็ท สเปรย์ (OIL JET SPRAY) ทำหน้าที่ฉีดจ่ายละอองน้ำมันหล่อลื่นไปที่ผนังกระบอกสูบและชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่มีการเสียดสี เพื่อช่วยระบายความร้อนของลูกสูบ และชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์
- ระบบ EGR (EXHAUST GAS RECIRCULATION) คือการนำไอเสียกลับมาใช้เผาไหม้อีกครั้ง ลดมลภาวะ เพิ่มความประหยัด
- ระบบห้องเผาไหม้ช่วย (SWIRL CHAMBER) เผาไหม้หมดจรดลดการสึกหรอ ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์เงียบกว่า
ช่วงล่างแข็งแกร่งทนทรหด
ด้านหน้า ใช้ระบบปีกนก 2 ชั้น (DOUBLE WISHBONE) ช่วยให้หน้ายางสัมผัสผิวถนนอย่างเต็มที่ สร้างความนุ่มสบายในการขับขี่ พร้อมคานเหล็กปิด (TORSION BAR) ทนทรหดแข็งแกร่งสไตล์ออฟโรด ด้านหลัง เสริมด้วยสปริงแบบแผ่นหรือแหนบ (LEAF SPRING) อย่างหนาออกแบบใหม่ให้เหมาะกับ สตราดาจี-แวกอน โดยเฉพาะให้ความนิ่มนวลตั้งแต่ใช้งานปกติจนถึงจนถึงงานลุยบนเส้นทางสมบุกสมบัน โช็คอัพไขว้ช่วยให้การทรงตัวดี และมีจุดยึดของแหนบขนาดใหญ่อยู่ในตำแหน่งที่ช่วยในการเข้าโค้งและเกาะถนน พร้อมเหล็กกันโคลงหน้า-หลังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนอย่างดีเยี่ยม
ระบบเบรกมั่นใจ
ระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสค์เบรกขนาดใหญ่พร้อมช่องระบายความร้อนทำให้หยุดรถได้มั่นใจแม้ใช้ความเร็วสูง ด้านหลังแบบดรัมเบรกพร้อมระบบ LSPV (LOAD SENSING PROPORTIONING VALVE) ปรับระดับแรงดันน้ำมันเบรก พร้อมหม้อลมเบรกแบบ 2 ชั้น ช่วยผ่อนแรงในการเบรก เพิ่มความปลอดภัยสูงสุดด้วยระบบเบรก ABS แบบ 3 แชลเนล 4 เซ็นเซอร์ ควบคุมทั้งล้อหน้า-และล้อหลัง ช่วยป้องกันล้อล็อคตายในขณะเบรกอย่างกระทันหัน ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่นของระบบล็อคหน้าล้อหน้าอัตโนมัติ M-SOF ต้นแบบตัวจริงของระบบ SHIFT ON THE FLY ที่เปลี่ยนระดับระบบขับเคลื่อนจาก 2 ล้อเป็น 4 ล้อ หรือ 4 ล้อ เป็น 2 ล้อ โดยไม่ต้องหยุดรถเมื่อใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.
มั่นใจ . . . และปลอดภัยสูงสุด ด้วยโครงสร้างนิรภัยรอบคัน
ตัวถังออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ ด้านหน้าและหลังเป็นส่วนยุบตัวเพื่อลดแรงกระแทก เสริมความแข็งแรงบริเวณห้องโดยสาร เพื่อรองรับแรงกระแทกและป้องกันผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เสาหน้ารถ ("A" PILLAR) ออกแบบให้แข็งแรงเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น แข็งแกร่งด้วยแชสซีส์แบบขั้นบันได (LADDER FRAME) ที่แข็งแรงทนทรหดเช่นเดียวกับมิตซูบิชิปาเจโร ช่วยลดการโยกคลอนขณะบรรทุกหนัก ห้องโดยสารล้อมรอบด้วยโครงสร้างตัวถังเหล็กกล้านิรภัยแบบ M-SAFE สามารถปกป้องห้องโดยสารจากแรงปะทะทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อมคานเหล็กคู่นิรภัยด้านข้างที่ติดตั้งในประตูทุกบาน ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานเดียวกับรถมิตซูบิชิ แอล 200 สตราดาที่ใช้ในการแข่งขันบนเส้นทางหฤโหดกว่าหนึ่งหมื่นกิโลเมตรใน แรลลี่ปารีส-ดาการ์ 2001
เพลิดเพลินการขับขี่ที่แสนสะดวกสบาย
ดุลยภาพใหม่ของการขับขี่ ที่ต้องการความสะดวกสบายสูงสุดอีกระดับสำหรับรถกระบะ คือการพัฒนาระบบเกียร์อัตโนมัติ ของมิตซูบิชิ จี-แวกอน โฟร์วีลไดร์ฟ โดยเฉพาะ มั่นใจได้ในเรื่องความคล่องตัวและทนทาน ด้วยมิตซูบิชิ สตราดา จี-แวกอน โฟร์วีลไดร์ฟ เกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์ 2,800 ซีซี 4 สปีด พร้อมโอเวอร์ไดร์ฟ ควบคุมการส่งกำลังด้วย ทอร์ค คอนเวอร์ทเตอร์ (TORQUE CONVERTER) ให้แรงฉุดลากและอัตราเร่งเต็มกำลังต่อเนื่อง สามารถตอบรับการขับขี่ที่แสนสบายอย่างแท้จริง เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัว ลดความเหนื่อยล้ากับการเดินทาง ทางเลือกของผู้ที่ต้องการความสบายไปกับการเดินทางที่คุ้มค่า
ผ่านมาตรฐานสารมลพิษจากเครื่องยนต์ระดับที่ 5 มอก. 1875-2542
มิตซูบิชิ จี-แวกอน โฟร์วีลไดร์ฟ ใช้ระบบฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบโรเตอร์ให้การฉีดจ่ายน้ำมันที่แม่นยำช่วยให้ประสิทธิภาพการเผาไหม้หมดจดเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ ลดปริมาณมลพิษจากไอเสียเครื่องยนต์ติดตั้งชุดกรองไอเสีย (CATALYTIC CONVERTER) พร้อมติดตั้งชุดควบคุม EGR ใหม่ ซึ่งจะนำไอเสียออกจากเครื่องยนต์ส่งกลับไปยังห้องเผาไหม้อีกครั้ง ช่วยลดปริมาณมลพิษอนุภาค (PARTICULATE) และลดไนโตรเจนออกไซค์(NOX) ได้อย่างมีประสิทธิภาพจนสามารถผ่านมาตรฐานควบคุมสารมลพิษจากเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กระดับ 5 มอก.1875-2542 หรือยูโร สเต็ป 2 อย่างเต็มภาคภูมิ
สีสันโทนเดียว(รุ่น GLX)
- CHROMATIC SILVER / บรอนซ์เงิน
อีกหนึ่งทางเลือกแห่งความหรูหราสไตล์ออฟโรด (รุ่น GLS)
- ANDAMAN BLUE- CHROMATIC SILVER / น้ำเงิน-บรอนซ์เงิน
- ROSE RED-CHROMATIC SILVER / แดง-บรอนซ์
- PYRESS BLACK- CHROMATIC SILVER / ดำ-บรอนซ์
- SILVER WHITE- CHROMATIC SILVER / ขาวมุก-บรอนซ์
สัมผัสสตราดาจี-แวกอน อย่างมีสไตล์
รุ่น
ราคา
2.8 GLX 5MT
955,000
2.8 GLS 5MT
1,040,000
2.8 GLS 4AT
1,095,000
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ปกครอง ทองรักษ์
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมมพันธ์
ข้อมูลเพิ่มเติม ฝ่ายประชาสัมพันธ์ (แตน,อุ้ย,โจ,นุ้ย,ซิม) โทรศัพท์ 0-2908-8000 ต่อ 8390-5--จบ--
-อน-