กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง
แผนงานการตลาดจะสำเร็จได้ดีหรือไม่ ส่วนหนึ่งมาจากแคมเปญโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่มีรากฐานมาจากแนวคิดทางการตลาด เอเยนซี่โฆษณาที่ประสบความสำเร็จ จึงต้องมี 2 ส่วนผสมผสานกันคือ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการตลาดและแนวคิดสร้างสรรค์งานโฆษณา โดยเฉพาะงานครีเอทีฟ นับเป็นจุดขายสำคัญที่เอเยนซี่โฆษณาจำเป็นต้องมี แต่หลังจากภาวะเศรษฐกิจขอบเขา ผลงานการสร้างสรรค์งานโฆษณาก็ยิ่งยากมากขึ้น เพราะนักการตลาดส่วนใหญ่มุ่งหวังการขายมากกว่าความคิดที่แปลกใหม่ ตลอดจนปริมาณเงินของมีเดียน้อยลง ทำให้งานด้านครีเอทีฟไม่โดดเด่นเท่าที่ควร แม้แต่การประกวดผลงานโฆษณายอดเยี่ยมประจำปีก็ซบเซาตามไปด้วย
บริษัท สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด เอเยนซี่ไทย 100% ที่เคยได้รับรางวัลผลงานด้านครีเอทีฟมาจากหลายสถาบัน แม้ผลงานด้านครีเอทีฟจะไม่โดดเด่นมากนักในช่วงเศรษฐกิจซบเซา แต่หลังจากที่ปรับแนวทางบริหารและองค์กรภายในครั้งใหญ่ ทำให้ผลงานด้านครีเอทีฟเริ่มได้รับการกล่าวขวัญมากขึ้นตามลำดับ
นายวรินทร์ ธรรมตารีย์ ผู้อำนวยการบริหารอาวุโส ฝ่ายความคิดสร้างสรรค์ บริษัท สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาฝ่ายครีเอทีฟได้เริ่มอย่างจริงจังอีกครั้ง ประมาณกลางปี 2542 เป็นต้นมา โดยได้วิเคราะห์ข้อดีของเอเยนซี่ระดับ International หลาย ๆ แห่ง มาสรุปและพัฒนาใช้ให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กร ทั้งนี้ได้กำหนดแนวคิดรวบยอดของการสร้างสรรค์งานในปีนี้ว่า "Power Ranger" เป็นการผสมผสานกันระหว่างครีเอทีฟรุ่นใหม่ และ รุ่นเก่า เข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้แล้วยังได้มีการนำแนวคิด Mind Map หรือ "การพัฒนาความคิดไม่รู้จบ" มาใช้กับฝ่ายบริการลูกค้า และฝ่ายความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้สามารถพัฒนาสื่อสารการตลาด ให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
นายวรินทร์ กล่าวเสริมว่า จากการพัฒนาองค์กรมาเกือบ 1 ปี ตั้งแต่กลางปี 2542 จนถึงปัจจุบัน ฝ่ายงานครีเอทีฟได้สร้างผลงานด้านโฆษณาที่น่าสนใจเป็นที่รู้จักของคนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันดับ 1-2 ของตลาดให้เป็นที่รู้จักและชื่นชอบมากขึ้น อาทิ ไวตามิ้ลค์, ทเวลพลัส น้ำมันเครื่อง ปตท และเครื่องดื่ม เอ็ม 150 นับว่าเอเยนซี่โฆษณาได้เข้าไปมีบทบาทในการสร้างแนวทางของการตลาดและช่วยสร้างลักษณะเด่นของแคมเปญโฆษณาให้มีแบบฉบับของตัวเอง มีระบบแบบแผน ในงบประมาณที่เหมาะสม จนสามารถสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สินค้าเป็นที่รู้จักในตลาด นอกจากนี้ยังมีแคมเปญเชิงรุกของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มกระทิชาวเกาะรีเจนซี่,โตโยต้า,โนเกีย รวมทั้งแคมเปญของหน่วยราชการอีกหลายแห่ง ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นการเสริมให้แผนงานการตลาดของลูกค้าประสบความสำเร็จและรักษาความเป็นผู้นำในตลาดได้เป็นอย่างดี แนวทางเรื่องการพัฒนา บุคลากรของสปาฯดำเนินการต่อเนื่องภายในมาโดยตลอด ทั้งนี้ในปี 2543 นี้ บริษัทได้เตรียมพร้อมในการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของครีเอทีพให้มากขึ้น เพื่อรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น โดยในส่วนของบุคลากร ได้เพิ่มเติมในส่วนของการรับพนักงานที่มีประสบการณ์ อาทิ นายไกรศร ลีลาชัยพิสิฐ เข้ามาเสริมเป็นครีเอทีฟ ไดเร็คเตอร์และนายชัชวาล หุตะภิญโญ เป็นผู้ช่วย พร้อมกับแต่งตั้ง นายอโณทัย ตรีอนุสรณ์ และนส.รุ่งพร มีศิลป์ เป็นครีเอทีฟกรุ๊ปเฮด ในขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาคนภายในให้มีศักยภาพรองรับงานที่เพิ่มขึ้นทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งขณะนี้บริษัทได้ขยายงานที่เป็น Rogional ออกไปในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก ทำให้งานด้านครีเอทีฟของสปาฯขยายตัวมากขึ้น นายวรินทร์ ได้ให้แนวคิดการสร้างคนรุ่นใหม่ เพื่อเสริมวงการโฆษณาว่า ครีเอทีฟรุ่นใหม่จะต้องเป็นบุคคล 3 ประเภท คือ ประการแรก ต้องเป็นคนเก่ง หมายถึงเป็นบุคคลที่มีความสนใจพื้นฐานในสิ่งรอบตัว มีความรอบรู้ และหากยังไม่รอบรู้ก็ต้องเรียนรู้ที่จะฝึกฝนให้มากขึ้น เพราะบุคลากรด้านครีเอทีฟต้องเป็นผู้สร้าง Trend หรือเป็นผู้นำความคิดใหม่ให้สังคมในสิ่งที่ดีได้ ประการที่สอง เป็นคนดี หมายถึงเป็นผู้มีจรรยาบรรณ และรู้ว่าควรใช้การโฆษณาหรือแนวความคิดสร้างสรรค์ เพื่อผู้บริโภคและสินค้าอย่างไรให้เหมาะสม สอดคล้องกัน ตลอดจนสามารถทำงานกันอย่างเป็น Team work และมีความอดทนสูง ประการสุดท้าย คือ คนไทย หมายถึงต้องมีจรรยาบรรณการสร้างสรรค์ งานที่ผู้บริโภคชาวไทยและสินค้ายอมรับ โดยจะต้องสอดคล้องกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทยในสังคมอีกด้วย ประการสำคัญหากเป็นพนักงานของสปาฯ จะต้องมีความภาคภูมิใจและมีทัศนคติที่ดีในตัวองค์กรที่เป็นเอเยนซี่ไทยแท้ชั้นนำ 1 ใน 5 ของประเทศอีกด้วย
นายวรินทร์ กล่าวเสริมว่า หลักการพัฒนาบุคลากรด้านวิชาชีพโฆษณาดังกล่าว เป็นแผนงานระยะยาว 3 ปี ซึ่งจะต้องสร้างคนเดิมให้แข็งแกร่งและเติมคนใหม่ให้รองรับปริมาณงานที่เหมาะสม นอกจากนี้ บริษัท ยังมีหลักสูตรที่เน้นการพัฒนาบุคลากรให้มีมาตรฐานในการอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้อีกด้วย เรียกว่า "Social Training" เป็นหลักสูตรเสริมนอกเหนือจากการทำงานปกติ อาทิ การสร้างบุคลิกภาพด้วยการแต่งกาย โดยดีไซเนอร์ชื่อดังของประเทศ, การเรียนรู้ด้านอาหารตะวันตก, การสนทนาภาษาอังกฤษประจำวัน, การสร้างสรรค์งานอดิเรก, การตั้งชมรม Spa Music Club ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำสมาชิก Fitness Club ให้กับพนักงานทุกคนโดยไม่คิดมูลค่า เพื่อให้พนักงานสามารถออกกำลังกายเพื่อสุขภาพทั้งก่อนและหลังมาทำงานได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นแนวทางการพัฒนาสมัยใหม่ที่สร้างให้พนักงานเกิดความกระตือรือล้นและมีความสนใจในสิ่งรอบตัวอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาบุคลากรทุกด้านในระยะยาว นายวรินทร์กล่าวในตอนท้าย--จบ--
-อน-