ภัทรลิสซิ่งออกหุ้นกู้ยอดจองทะลุ 3 เท่า

กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
ตลาดตราสารหนี้หอมหวน หลังแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากดำดิ่ง ล่าสุดยอดจองซื้อหุ้นกู้ภัทรลิสซิ่งทะลุวงเงินที่จะออก 3 เท่า คาดปีหน้ายอดออกตราสารหนี้รัฐ-เอกชนมีสูงกว่า 8 แสนล้านบาท
วันที่ 4 ธ.ค. ที่ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ ได้มีพิธีลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2547 ระหว่างนายเกริกชัย ศิริภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด และนายทวิช ธนะชานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย
หุ้นกู้บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด(มหาชน) ครั้งที่ 3 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2547 เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่มีหลักประกัน ไม่ด้อยสิทธิ และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่าที่เสนอขาย 400 ล้าน บาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.00 % ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน วันออกหุ้นกู้ 6 ธันวาคม 2544 ครบกำหนดไถ่ถอน 6 ธันวาคม พ.ศ.2547 โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากทริส ในระดับ BBB มีธนาคารดีบีเอส ไทยทนุ เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และธนาคารกสิกรไทย เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้
นายทวิช ธนะชานันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า หุ้นกู้บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2547 ได้เปิดให้จองเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา และมีนักลงสถาบันจองซื้อสูงกว่าจำนวนที่จะออกถึง 3 เท่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการลงทุนในหุ้นกู้ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนอยู่ ในช่วงที่ภาวะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้ประมาณการว่า ในปี 2545 จะมีหน่วยงานรัฐและเอกชนออกตราสารหนี้ทั้งรีไฟแนนซ์หนี้เก่าและออกใหม่ประมาณถึง 750,000-800,000 ล้านบาท แบ่งเป็น การออกพันธบัตรรีไฟแนนซ์ของรัฐบาล กองทุนฟื้นฟูฯ และรัฐวิสาหกิจประมาณ 488,400 ล้านบาท และการระดมเงินใหม่ของรัฐบาลเพื่อชดเชยการ ขาดดุลงบประมาณ 200,000 ล้านบาท ประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาล 120,000 ล้านบาท และตั๋วเงินคลัง 80,000 ล้านบาท ส่วนภาคเอกชนคาดว่า จะมีการออกหุ้นกู้เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้เก่าประมาณ 34,000 ล้านบาท และออกหุ้นกู้ใหม่อีกประมาณ 46,000-100,000 ล้านบาท
สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ภาคเอกชนในปี พ.ศ 2544 มีประมาณ 87,000 ล้านบาท โดยกลุ่มสื่อสารเป็นผู้ระดมทุนประมาณ 48 %ของตลาด หรือประมาณ 42,000 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มกระดาษและสิ่งพิมพ์ประมาณ 13 เปอร์เซ็นต์ หรือ 12,000 ล้านบาท ส่วนมูลค่าตลาดรวมตราสารหนี้ ( ณ ต.ค 2544) ที่จดทะเบียนในศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้มีประมาณ 1.47 ล้านล้านบาท เป็นตราสารหนี้ที่ออกโดยภาครัฐประมาณ 84 เปอร์เซ์นต์ ที่เหลือเป็นตราสารหนี้ภาคเอกชน 16 เปอร์เซ์นต์
ประมาณการการออกตราสารหนี้ในปี 2545
ผู้ออก Re-finance (ล้านบาท) ออกใหม่ (ล้านบาท)
รัฐบาล 100,400 200,000
กองทุนฟื้นฟู 320,000 N/A
รัฐวิสาหกิจ 68,000* N/A
เอกชน 34,000* 46,000-100,000
รวม 522,400 246,000-300,000
* ตัวเลขตราสารหนี้ที่จะครบอายุในปี 2545 จาก TBDC-- จบ--
-นห-