กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--กทม.
ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง วันนี้ (29 พ.ค. 43) เวลา 09.30 น. นายพิชัย รัตตกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเพื่อความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครั้งที่ 2 โดยมี ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายถิรชัย วุฒิธรรม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมือง/ตำบล นายกเทศมนตรีนคร ประธาน อบจ. ประธานอบต. คณะกรรมการ สทท. ประธานสมาชิกสภาเขต องค์กรภาคเอกชน และคณะกรรมการกระจายอำนาจฯ รวมจำนวน 650 คน ร่วมประชุม เพื่อระดมความคิดเห็น เผยแพร่ และติดตามความคืบหน้าการกระจายอำนาจ พร้อมจัดตั้ง “สมาคมองค์กรปกครองท้องถิ่นแห่งประเทศไทย”
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะเห็นการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปสู่ท้องถิ่นทั่วหน้าสำฤทธิ์ผลเร็ววัน เพราะมีความเชื่อเช่นเดียวกันว่า ปัญหาของสังคมทุกด้านองค์กรปกครองท้องถิ่นที่ใกล้ชิดประชาชน จะสามารถแก้ไขปัญหาให้สำเร็จลุล่วงได้ดีที่สุด ทั้งนี้การเตรียมความพร้อมแผนการถ่ายโอนอำนาจให้ท้องถิ่นตามรัฐธรรมนูญ ขณะนี้มีกฎหมายและกรอบการดำเนินงานกำหนดไว้ชัดเจนแล้ว โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ ซึ่งรัฐต้องจัดสรรภาษีและอากร เงินอุดหนุน และรายได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้น คิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้ของรัฐบาล ดังนี้ ในช่วงระยะเวลาไม่เกินปี 2544 เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 20 % และในช่วงระยะเวลาไม่เกินปี 2549 เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 35 % ดังนั้นท้องถิ่นจึงต้องมีทรัพยากรบริหารจัดการท้องถิ่นที่มีความเข้มแข็ง กระบวนการรองรับการกระจายอำนาจต้องยืดหยุ่น ผ่านกระบวนการเรียนรู้ของท้องถิ่น ตนขอชื่นชมการรวมตัวกันครั้งนี้ที่มีเจตนามุ่งมั่นที่จะเตรียมความพร้อมในการรองรับการถ่ายโอนและการกระจายอำนาจจากส่วนกลางสู่ท้องถิ่นเพื่อเป้าหมายที่ตั้ง ไว้ประสบผลสำเร็จอันจะนำไปสู่ “ท้องถิ่นเข้มแข็ง” ต่อไป
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กรุงเทพมหานคร และองค์กรปกครองท้องถิ่น ได้แก่ เทศบาล อบจ. อบต. เมืองพัทยา องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรนักศึกษา สถาบันนักศึกษา และสื่อมวลชน ได้ร่วมประชุมระดมความคิดเห็น เผยแพร่ และติดตามความคืบหน้าการกระจายอำนาจ พร้อมจัดตั้ง “สมาคมองค์กรปกครองท้องถิ่นแห่งประเทศไทย” และจัดทำแผนกระจายอำนาจฉบับองค์กรท้องถิ่น เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพขององค์กรท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งการประชุมครั้งนี้ได้มีการประกาศสัตยาบรรณความร่วมมือระหว่างองค์กรท้องถิ่น เพื่อรองรับการกระจายอำนาจของรัฐบาลไปยังท้องถิ่นด้วย นอกจากนี้ยังนับเป็นครั้งแรกที่ เครือข่ายองค์กรประชาชน กลุ่มประชาสังคม องค์กรนักศึกษา และองค์กรสื่อมวลชน เข้าร่วมประชุมกับองค์กรท้องถิ่นด้วย ซึ่งต่อไปองค์กรปกครองท้องถิ่นจะได้ร่วมมือกับภาคประชาชนและสื่อมวลชนอย่างใกล้ชิดและเป็นขบวนการ เพื่อความเข้มแข็งของท้องถิ่นอันจะะนำมาซึ่งประโยชน์ของประชาชนต่อไป
สำหรับวัตถุประสงค์ที่ต้องมีการหารือร่วมกันระหว่างองค์กรปกครองท้องถิ่น เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นเป็นภารกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งรัฐบาลก็ได้ให้ความสำคัญโดยกำหนดไว้ว่า ในปี 2544 งบฯของแผ่นดินไม่ต่ำกว่า 20 % จะต้องกระจายไปสู่ท้องถิ่น รวมทั้งรัฐบาลได้กำหนดให้มีคณะกรรมการกระจายอำนาจฯ ขึ้น ดังนั้นการประชุมในครั้งนี้จึงเป็นการแสดงเจตนารมย์ ในการช่วยคณะกรรมการกระจายอำนาจฯ เพื่อให้การกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปสู่ท้องถิ่น เกิดเป็นรูปธรรมเร็วขึ้น อีกทั้งเป็นการแสดงจุดยืนขององค์กรปกครองท้องถิ่น ถึงความพร้อมในการรับผิดชอบงานต่างๆ ที่จะเพิ่มขึ้น ทั้งในเรื่องของการศึกษา การสาธารณสุข การบริการประชาชน เป็นต้น และงบฯที่รัฐจะกระจายไปสู่ท้องถิ่นในปีหน้า ท้องถิ่นต้องมีความพร้อมในเรื่องการจัดรูปองค์กรภายใน เพื่อให้เกิดการตรวจสอบ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของประชาชน นอกจากนี้ในการประชุมวันนี้ยังได้มีการหารือในเรื่องของงานบริหารบุคคล ซึ่งองค์กรปกครองท้องถิ่น ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องความเป็นอิสระในการปกครอง หรือบริหารงานบุคคล เพราะถ้าท้องถิ่นไม่มีอิสระแล้ว จะปกครองหรือบริหารท้องถิ่นได้ยาก--จบ--
-อน-