เอ็น.ซี.ซี. ผนึกดาต้าแมทนำร่องโครงการแสดงสินค้าออนไลน์ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจ ‘ไมซ์’

พุธ ๐๗ พฤศจิกายน ๒๐๐๑ ๑๑:๕๔
กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--ไอบีเอ็ม ประเทศไทย
เอ็น.ซี.ซี.ฯ ร่วมกับดาต้าแมทจัดทำโครงการแสดงสินค้าออนไลน์ เลือกใช้เทคโนโลยีเว็บสเฟียร์และดีบีทู ของไอบีเอ็ม หนุน NCC e-Xhibition เว็บไซต์แรกของไทยที่ดำเนินการโดยภาคเอกชนเพื่อการพัฒนาและสนับสนุนธุรกิจการจัดประชุม สัมมนา และแสดงสินค้าทั้งระดับชาติและนานาชาติ เสริมศักยภาพและตอกย้ำความเป็นผู้นำในภาคธุรกิจ MICE
NCC e-Xhibition — งานแสดงสินค้าออนไลน์
นางเพ็ญโสม ดามาพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เปิดเผยถึงทิศทางเชิงกลยุทธ์ของบริษัทฯ และการบริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อให้สามารถเติบโตและคงไว้ซึ่งความเป็นมืออาชีพภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจและการแข่งขันที่ผันแปร ด้วยการพัฒนาศักยภาพของระบบ MIS และ IT ให้มีระบบฐานข้อมูลที่ครบถ้วน แม่นยำ และรวดเร็ว เพื่อรองรับแผนงานธุรกิจให้กว้างขวางขึ้น โดยร่วมกับบริษัท ดาต้าแมท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้นำและมีความเชี่ยวชาญในด้าน e-InfrastructureService Provider ที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและบุคลากรที่มีความชำนาญด้านซอฟต์แวร์และทีมเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าที่จะให้บริการสร้างร้านและนำเสนอสินค้าบนเว็บไซต์ จัดทำโครงการ NCC e-Xhibition หรือ การแสดงสินค้าแบบออนไลน์ ซึ่งรวบรวมระบบฐานข้อมูลของสินค้าและบริการของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมแสดงในงาน (Exhibitor) เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้า อันเป็นการเพิ่มข้อได้เปรียบทางธุรกิจให้กับบริษัทฯ
นอกจากนี้ยังนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการขยายเครือข่ายทางธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันอยู่ทั้งธุรกิจโรงแรมรีสอร์ท, บริษัทนำเที่ยว, ธนาคาร และ สายการบิน เป็นต้น โดยในอนาคตบริษัทฯ จะมีการพัฒนาระบบจาก e-Xhibition ไปสู่ e-Commerce ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลดังกล่าวให้เป็นเว็บไซต์ที่สมบูรณ์ครบวงจรนับตั้งแต่การให้ข้อมูลร้านค้า ข้อมูลสินค้าและบริการ รวมไปถึงการสั่งซื้อสินค้าและชำระค่าสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตไปยังผู้ประกอบการโดยตรง
“ในระยะแรกของโครงการ NCC e-Xhibition จะมีการนำเสนอข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดงาน, การจองพื้นที่ในการแสดงสินค้า, กำหนดการของกิจกรรมต่าง ๆ, รายชื่อผู้ประกอบการทั้งหมดที่เข้าร่วมงาน, ข้อมูลสินค้าและบริการ, การลงทะเบียนเข้าร่วมงาน, ข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรม-ที่พัก จากนั้นเมื่อมีการทดลองใช้ระบบนี้ไประยะหนึ่งและข้อกำหนดด้านกฎหมายเกี่ยวกับ e-Commerce แล้วเสร็จ เราก็จะพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการทำธุรกรรมต่าง ๆ ที่ครอบคลุมมากขึ้น” นางเพ็ญโสม กล่าว
นางเพ็ญโสม กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ NCC e-Xhibition นี้ นอกจากจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการเป็นผู้นำในธุรกิจ MICE (Meeting Incentive Convention และ Exhibition) ของบริษัทฯ ในฐานะผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และศูนย์การประชุมอื่น ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ เพราะในยุคโลกาภิวัฒน์องค์กรใดที่มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อรองรับและสนับสนุนการดำเนินงานของธุรกิจก็จะทำให้การดำเนินงานนั้นมีความรวดเร็วและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น
“Www.thaibestbuys.com ” เว็บไซต์ของงาน Thailand Bestbuys 2001 — โครงการนำร่อง NCC e-Xhibition
ด้าน นางสาวศุภวรรณ สมบูรณ์กิจชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะแรกของโครงการ NCC e-Xhibition จะรองรับและสนับสนุนธุรกิจของฝ่ายจัดนิทรรศการ, ทีมรับจัดงาน และสร้างกิจกรรมด้านการแสดงสินค้า (PEO : Professional Exhibition Organizer) ในการนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการของผู้ประกอบการผ่านเว็บไซต์ตลอดระยะเวลาที่จัดงานแสดงสินค้า โดยผู้เยี่ยมชมงานจะได้รับทราบข้อมูลของสินค้า/ร้านค้าก่อนวันจัดงาน การลงทะเบียนเข้าร่วมงาน รวมไปถึงการติดต่อกับผู้ประกอบการหลังจากวันจัดงานแสดงสินค้า ในระยะที่ 2 จะมีการพัฒนาระบบฐานข้อมูลในส่วนขององค์กรหรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุม สัมมนา และงานแสดงสินค้าทั้งภายในและต่างประเทศ เช่น โรงแรม บริษัทนำเที่ยว ธนาคาร ที่สามารถได้ประโยชน์ต่อจากโครงการนี้โดยการเชื่อมโยงเครือข่ายให้สามารถทำรายการต่าง ๆ ระหว่างกันได้ เช่น การจองห้องพัก การจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน การจำหน่ายโปรแกรมท่องเที่ยว รวมทั้งการชำระเงินค่าสินค้าและบริการ ทั้งนี้ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มที่ใช้อินเตอร์เน็ต รวมถึงกลุ่มลูกค้าจากต่างประเทศและเป็นการนำไปสู่การทำธุรกรรมในรูปแบบ e —Commerce เพื่อเป็นการสร้างรายได้ในอนาคตและที่สำคัญโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อองค์กร หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดนิทรรศการทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับสื่ออื่น ๆ
“สำหรับงานแสดงสินค้าที่ถือว่าเป็นโครงการนำร่องที่เข้าสู่ NCC e-Xhibition คือ งานไทยแลนด์เบสบายต์ 2001 (Thailand Bestbuys 2001) งานแสดงของขวัญและสินค้าในรูปลักษณ์ใหม่ครั้งยิ่งใหญ่ที่รวบรวมสินค้าหลากหลายประเภท คุณภาพส่งออกระดับหนึ่งของไทยมาจำหน่ายบนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร โดยมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน — 9 ธันวาคม 2544 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยใช้ชื่อเว็บไซต์ www.thaibestbuys.com ซึ่งผู้ประกอบการและผู้สนใจทั่วไปสามารถเข้าชมรายละเอียดของเว็บไซต์ของการจัดงานนี้ได้ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน เป็นต้น ไป สำหรับในปี 2545 จะมีงานประชุม สัมมนา และแสดงสินค้าที่จัดโดย บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ประมาณ 10 งาน เข้าร่วมโครงการ NCC e-Xhibition และมีจำนวนผู้เข้าแสดงประมาณ 2,500 ราย
ดาต้าแมทพร้อมรุก NCC e-Xhibition
นายมนู อรดีดลเชษฐ์ ประธารกรรมการบริหาร บริษัท ดาต้าแมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนขอบเขตความรับผิดชอบของดาต้าแมท ในการร่วมจัดทำโครงการ NCC e-Xhibition ดาต้าแมทจะเป็นผู้ดำเนินการสร้างเว็บไซต์ออนไลน์นำเสนอข้อมูลสินค้าและบริการของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ตลอดจนการติดต่อประสานงานและให้คำปรึกษาด้านการขายและการสั่งซื้อสินค้าบนเว็บไซต์
ในการจัดทำเว็บไซต์ในโครงการนี้ ดาต้าแมทมีความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคลากร โดยจะเน้นใช้เทคโนโลยี e —Infrastructure ซึ่งบริษัทฯ มีบุคลากรที่มีความชำนาญด้านซอฟต์แวร์ และมีทีมงานที่พร้อมที่จะให้บริการและให้คำปรึกษาแก่เจ้าของร้านค้าในด้านการสร้างร้านและการนำเสนอสินค้าบนเว็บไซต์ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ความชำนาญด้านคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต เนื่องจากทางดาต้าแมทจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการในการบันทึกข้อมูลสินค้าลงบนเว็บไซต์ และในกรณีที่เจ้าของร้านไม่สะดวกในการตรวจสอบอีเมล์ที่เป็นการสอบถามข้อมูลสินค้าและร้านค้าจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ทางด้านดาต้าแมทจะมีเจ้าหน้าที่ Help desk และ Call Center เป็นผู้ประสานงานให้แก่เจ้าของร้านค้านั้นๆ ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยร่นระยะเวลาในการพัฒนาระบบ NCC e-Xhibition จาก 10 — 12 เดือน ให้เหลือเพียง 2 เดือน อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายของโครงการอย่างมาก และยังมีจุดเด่น คือ เป็นโครงการที่ให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างครบวงจร
“โครงการ NCC e-Xhibition เป็นโครงการที่สอดคล้องกับทิศทางในการดำเนินธุรกิจของดาต้าแมท ซึ่งมุ่งเน้นในการเป็นผู้ให้บริการด้าน e — Business โดยความร่วมมือระหว่างเอ็น.ซี.ซี.ฯ และดาต้าแมทในครั้งนี้มีข้อได้เปรียบ คือ เอ็น.ซี.ซี.ฯ มีประสบการณ์และความสามารถซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันว่าเป็นผู้นำในการจัดประชุม สัมมนาและแสดงสินค้าทั้งระดับชาติและนานาชาติ จึงเป็นการส่งเสริมความน่าสนใจของโครงการ NCC e-Xhibition เป็นอย่างดี ประกอบกับเอ็น.ซี.ซี.ฯ มีฐานข้อมูลลูกค้าที่พร้อมจะเข้าร่วมโครงการ NCC e —Xhibition ไม่ต่ำกว่า 2,500 รายต่อปี ในขณะที่ดาต้าแมทมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและบุคลากรที่พร้อมจะให้ความร่วมมือสำหรับโครงการนี้อย่างเต็มกำลัง” นายมนูกล่าว
NCC e-Xhibition รองรับด้วยสุดยอดซอฟต์แวร์ระดับโลกจากไอบีเอ็ม นางเจษฎา ไกรสิงขร ผู้จัดการฝ่ายการตลาดซอฟต์แวร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ไอบีเอ็มมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนเทคโนโลยีซอฟต์แวร์เว็บสเพียร์และซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล ดีบีทู ร่วมกับบริษัท เอ็น ซี ซีฯ และบริษัทคู่ค้ารายสำคัญ บริษัท ดาต้าแมท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในการทำธุรกรรมด้าน
-Infrastructure applications สำหรับโครงการ NCC e-Xhibition System Integration เป็นโครงการที่ ไอบีเอ็ม สนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อเป็นโครงการต้นแบบในประเทศไทย เราภูมิใจที่เทคโนโลยีเว็บสเฟียร์ของไอบีเอ็มได้รับการยอมรับจากลูกค้ากว่า 35,000 รายทั่วโลก โดย 90% เป็นสถาบันการเงินชั้นนำแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา 15 บริษัทยักษ์ใหญ่ 15 แห่งของบริษัทในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท และ 7 ใน 8 บริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาเลือกใช้ ซอฟต์แวร์เว็บสเฟียร์ ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต หรือมิดเดิ้ลแวร์ ที่ช่วยบริษัทต่างๆ ในการพัฒนา ใช้งาน และเชื่อมแอพพลิเคชัน e-Business ยุคใหม่ เช่น แอพพลิเคชันสำหรับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างธุรกิจ (B2B) ซอฟต์แวร์ WebSphere มีสถาปัตยกรรมที่ลูกค้าสามารถนำไปใช้ในโครงสร้างของธุรกิจ e-Commerce แบบ end-to-end ได้ โดยรองรับแอพพลิเคชันในการทำอีบิสิเนสในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่การเผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์แบบเบื้องต้นจนถึงการทำธุรกรรมระหว่างองค์กร และยังช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงวิธีบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า คู่ค้า และพนักงานให้ดีขึ้นอีกด้วย
WebSphere เป็นแพลตฟอร์มแรกที่มีทั้ง J2EE, Web Services, XML, Linux และ Open Source และล่าสุด eBay ซึ่งเป็นเว็บท่าในการประมูลออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของโลกได้เลือกใช้เว็บสเฟียร์เป็นซอฟต์แวร์พื้นฐานในการสนับสนุนธุรกิจหลักที่ต้องการเสถียรภาพตลอด 24 ชั่วโมง DB2Universal Database เป็นฐานข้อมูลแรกทีสนับสนุนมัลติมีเดีย สามารถตอบสนองความต้องการของบริษัททุกขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ DB2 Universal Database มีคุณสมบัติสำคัญ ๆ เช่น Business Intelligence, Content Management, Enterprise Information Portals และ การทำอีบิสิเนส (e-~Business) ด้วยประสิทธิภาพชั้นนำและความน่าเชื่อถือของฐานข้อมูล DB2 Universal Database พร้อมด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตจะช่วยให้เข้าสู่ข้อมูลได้ง่ายขึ้น 24x7 ได้อย่างมั่นใจ ปัจจุบันมีผู้ใช้ DB2 มากกว่า 60 ล้านคนจากบริษัทกว่า 300,000บริษัททั่วโลกษัท For more information, please contact:
IBM Thailand Co., Ltd.
Chujit Wattanalumlerd
Tel: 0-2273-4306 email: [email protected]
Krisana Sinprasert
Tel: 0-2273-4639 email: [email protected] จบ--
-อน-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ