กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--กทม.
ดร.ธารินทร์ สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ซึ่งเป็นกฎหมายการศึกษาฉบับแรกของประเทศไทยจะมีอายุครบรอบ 1 ปีของการมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ส.ค.43 สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ทบวงมหาวิทยาลัย สำนักบริหารการศึกษาท้องถิ่น กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ จัดงาน “หนึ่งปีหลัง พรบ. การศึกษาแห่งชาติ” ในระหว่างวันที่ 19-20 ส.ค.43 ทั้งนี้เพื่อเผยแพร่ผลงานเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษา รวมทั้งเป็นการสร้างเจตคติที่ดีต่อการปฏิรูปการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม และเพื่อเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพื่อเป็นแนวทางการปฏิรูปการศึกษาในอนาคต สำหรับรูปแบบของงานแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ 1. การรายงานผลการศึกษา การดำเนินงานปฏิรูปการศึกษาภาพรวมในรอบ 1 ปี โดยจัดทำเป็น MULTI — VISION และเป็นเอกสารเผยแพร่ 2. การประชุมสัมมนาทางวิชาการโดยเชิญ นักเรียน นักศึกษา พ่อแม่ ครู นักวิชาการ รวมทั้งประชาชนทั่วไปเข้ามามีส่วนร่วม ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางปฏิรูปการศึกษาในประเด็นต่าง ๆ 3. การแสดงนิทรรศการเพื่อรายงานสรุป และประมวลภาพกิจกรรมสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินงานปฏิรูปการศึกษาของหน่วยงานทางการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ทั้งนี้กำหนดจัดงาน 5 แห่งทั่วประเทศ คือ พิษณุโลก ขอนแก่น ชลบุรี ยะลา และกรุงเทพมหานคร ซึ่งในกรุงเทพมหานครกำหนดจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันเสาร์ที่ 19 ส.ค.43 เวลา 08.30-16.30 น. และวันอาทิตย์ที่ 20 ส.ค.43 เวลา 08.30-13.30 น. ดร.ธารินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา สำนักการศึกษาได้ดำเนินการหลายอย่างอันเป็นการตอบสนองพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ อาทิ การประเมินมาตรฐานโรงเรียนกรุงเทพมหานคร ตามมาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา, การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในฐานะที่เป็นหน่วยงานการปกครองท้องถิ่น, การอบรมพัฒนาศักยภาพของข้าราชการครูกรุงเทพมหานคร เพื่อรับกับระบบการเรียน แบบยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (LEARNER CENTER), การดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมในการจัดการศึกษา (PRIVATIZATION) การเพิ่มศักยภาพ และพัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษา, การร่างระเบียบกรุงเทพมหานคร เรื่องการคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน เป็นต้น ในส่วนรายละเอียดของทุก ๆ เรื่องสามารถดูได้จากนิทรรศการในงาน นอกจากนั้นสำนักการศึกษายังได้จำลองรูปแบบการจัดการเรียนการสอนในรูปของ “คลีนิคการเรียนรู้” 6 ห้องเรียน คือ “ภาษาไทยงามหรู เชิดชูวิทยาศาสตร์ ประกาศคุณค่าดนตรี สื่อการเรียนการสอนดี มีความสุขในการเรียน พากเพียรเก็บเงิน FOLJO ” จึงขอเชิญคณะครู นักการศึกษา ประชาชน นักเรียนและผู้สนใจทั่วไปเข้าชมนิทรรศการ และชมห้องเรียนจำลอง “คลีนิคการเรียนรู้” ซึ่งดำเนินการโดยสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว--จบ--
-นศ-