กสิกรไทยจับมือคีนันร่วมพัฒนาเอสเอ็มอีของไทย

กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกสิกรไทยร่วมมือกับสถาบันคีนันแห่งเอเซีย (KENAN INSTITUTE ASIA) เพิ่มศักยภาพเอสเอ็มอีของไทย โดยให้คำปรึกษาเพื่อพัฒนาลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพลูกค้าธนาคาร ตั้งเป้าให้บริการได้ 10 รายต่อเดือน
นายธงชัย เจริญสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคาร กสิกรไทยมีนโยบายที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs)ของไทย โดยนอกจากจะสนับสนุนด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เอ็มแอลอาร์-1% ถึงเอ็มแอลอาร์+2% แล้ว ธนาคารยังมีนโยบายที่จะพัฒนาเอสเอ็มอีไทยให้มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้ได้มาตรฐานสากล สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้
ธนาคารฯ จึงได้ร่วมกับสถาบันคีนันแห่งเอเซีย ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณกุศลภายใต้การสนับสนุนขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USIAD) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเอสเอ็มอีมากที่สุดแห่งหนึ่ง เปิดบริการให้คำปรึกษาด้านวิชาการ การแก้ปัญหาและพัฒนาการดำเนินธุรกิจให้แก่ลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคาร ทั้งนี้ธนาคารจะพิจารณาและให้คำแนะนำแก่ลูกค้าขอเข้ารับคำปรึกษาจากสถาบันคีนันแห่งเอเซียโดยสมัครใจประมาณ 10 รายต่อเดือน โดยเสียค่าใช้จ่ายในอัตราต่ำ
นายธงชัยกล่าวว่า ความร่วมมือให้คำปรึกษาแก่เอสเอ็มอีครั้งนี้ นอกจากจะช่วยพัฒนาคุณภาพลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารให้แข็งแกร่ง มีศักยภาพในการแข่งขันแล้ว ความสามารถในการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอีที่สูงขึ้น ยังจะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนด้วย
สำหรับ 10 เดือนแรกปีนี้ธนาคารกสิกรไทย ได้อนุมัติสินเชื่อเอสเอ็มอีไปแล้ว 17,000 ล้านบาท แยกเป็นสินเชื่อ TFB SMEs 8,000 ล้านบาท และสินเชื่อตั๋วสัญญาใช้เงินขายลดให้ธนาคารแห่งประเทศไทย 9,000 ล้านบาท
ดร.สายสวรรค์ วัฒนพานิช ผู้จัดการศูนย์แนะนำธุรกิจเพื่อกิจการขนาดกลางและขนาดเล็ก สถาบันคีนันแห่งเอเซีย เปิดเผยว่า สถาบันคีนันแห่งเอเซีย เป็นสถาบันที่มุ่งพัฒนาเอสเอ็มของไทย โดยการให้บริการแก่ลูกค้าสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารกสิกรไทยนั้น ทางศูนย์แนะนำธุรกิจฯจะให้บริการให้คำปรึกษาในการวิเคราะห์ปัญหา คำแนะนำและเสนอแนะความช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหาที่ให้ผลในเชิงปฏิบัติ ครอบคลุมในด้านการตลาด บัญชีการเงิน ด้านปฏิบัติการการควบคุมและเพิ่มผลผลิต ด้านการจัดการ ด้านเทคโนโลยี สารสนเทศและด้านทรัพยากรมนุษย์
ทั้งนี้ศูนย์แนะนำธุรกิจ จะมีที่ปรึกษาประจำศูนย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ 20 คน เป็นชาวอเมริกัน 10 คนและคนไทย 10 คน นอกจากนั้นยังสามารถประสานงานกับเครือข่ายองค์กรที่มีผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ผู้ชำนาญการเฉพาะด้านอีกกว่า 20,000 คน ทั้งในประเทศไทยและจากสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ข้อมูลและคำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่เอสเอ็มอีของไทย--จบ--
-อน-