กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--อย.
อย.เตือนผู้ประกอบการถุงมือยางทางการแพทย์ แม้ได้รับใบอนุญาตจาก อย. แล้ว แต่หากมีการย้ายหรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ผลิต ต้องแจ้งขออนุญาตให้ถูกต้อง มิฉะนั้นจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
น.พ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ถุงมือยางทางาการแพทย์ในปัจจุบันได้แก่ ถุงมือยางสำหรับการตรวจโรค และถุงมือยางสำหรับการศัลยกรรมนั้น จัดเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ตามพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2531 ที่ผู้ผลิตและนำเข้าต้องได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอารหารและยา (อย.) ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยในการขอรับใบอนุญาตนั้นนอกเหนือจากการพิจารณาเอกสารรายละเอียดที่เกี่ยวกับถุงมือยางที่ขออนุญาตแล้ว อย.จะมีการตรวจสถานที่ประกอบการว่ามีความเหมาะสมและมีเครื่องจักรในการผลิตตรงตามแบบแปลนแผนผังที่ขอหรือไม่ หากมีความเหมาะสมและมีการจัดสถานที่ตรงตามแบบแปลนแผนผังที่ได้ยื่นขอ ก็จะออกใบอนุญาตสำหรับถุงมือยางทางการแพทย์นั้น ซึ่งถุงมือยางทางการแพทย์ส่วนใหญ่จะป็นการผลิตเพื่อการส่งออกซึ่งทำให้มีการขยายตัวของตลาดอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จึงอาจทำให้ผู้ผลิตมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุง และแก้ไขสถานที่ผลิตเพื่อให้สามารถรองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในการย้ายหรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ผลิตจะต้องได้รับการประเมินความเหมาะสมและรับอนุญาตจาก อย. ก่อน ดังนั้น อย. จึงขอความร่วมมือมายังผู้ประกอบการถุงมือยางทางการแพทย์ที่มีการย้าย หรือเปลี่ยนแปลงสถานที่ผลิต ให้แจ้งขออนุญาตต่อ อย. ก่อน ที่จะทำการใดๆ หากละเลยเพิกเฉยจะมีโทษตามกฎหมาย มาตร 64 คือต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
จึงขอให้ผู้ประกอบการถุงมือยางทางการแพทย์ดังกล่าวปฏิบัติให้ถูกต้อง หากมีข้อสงสัยประการใดขอให้สอบถามได้ที่ กองควบคุมเครื่องมือแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหากรและยา กระทรวงสาธารณสุข โทรศัพท์ 590-7284 ได้ทุกวันในเวลาราชการ น.พ.ศิริวัฒน์ กล่าวในที่สุด--จบ--
-อน-