กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
อวาย่า อิ๊งค์ (NYSE:AV)แถลงผลประกอบการประจำไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2544สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2544 ปรากฎว่าบริษัทมีรายได้สุทธิจากธุรกิจหลัก 78ล้านเหรียญสหรัฐหรือคิดเป็นกำไร 25 เซ็นต์ต่อหุ้นโดยใช้ฐานหุ้นที่มีการลดมูลค่าลงแล้ว ทั้งนี้ ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการและปรับโครงสร้างองค์กร
ขณะที่รายได้สุทธิของบริษัทในไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมามีมูลค่า37 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 13เซ็นต์ต่อหุ้นซึ่งใช้ฐานหุ้นที่มีการลดมูลค่าลงแล้ว สำหรับรายได้จากธุรกิจหลักของบริษัทมีมูลค่า 1,852ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 หรือ 21ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 1,831ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา
มร. ดอน ปีเตอร์สันประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด บริษัทอวาย่าอิ๊งค์ กล่าวว่า “แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐอเมริกาจะชะลอตัวลง แต่อวาย่ายังคงมุ่งเจาะตลาดระดับเอ็นเตอร์ไพรส์ และดำเนินการตามแผนขยายรายได้สุทธิและรายได้รวมให้สูงขึ้น"พร้อมทั้งเสริมว่า "ในไตรมาสที่สองนี้ รายได้สุทธิและรายได้รวมทั้งหมดของอวาย่ามีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาโดยรายได้จากธุรกิจเครือข่ายบริการหลากหลายประเภทธุรกิจโซลูชั่นการต่อเชื่อม ระบบส่งข้อความ บริการและยอดขายนอกสหรัฐอเมริกามีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างชัดเจน ยอดจำหน่ายอุปกรณ์พอร์ตไอพีเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า จาก18,000 เครื่องในไตรมาสที่ผ่านมาเป็น 36,000เครื่องในไตรมาสนี้ ขณะที่ระบบเครือข่ายเสียงก็มียอดขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ เรายังเพิ่มการลงทุนในธุรกิจต่างๆที่มีอัตราการเติบโตสูง ทั้งยังขยายการลงทุนทางด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงเข้าซื้อเทคโนโลยีสำคัญๆ ของวีพีเน็ตและควินตัส"
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 สิ้นสุด ณวันที่ 31 มีนาคม 2544 ของอวาย่า ปรากฎว่าบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 64 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 25เซ็นต์ต่อหุ้นที่มีการลดมูลค่าลงแล้ว ทั้งนี้ ผลขาดทุนสุทธิดังกล่าวได้รวมค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นกิจการใหม่หลังจากแยกตัวออกจากบริษัท ลูเซ่นเทคโนโลยี่ส์ซึ่งมีมูลค่า 32 ล้านเหรียญหลังหักภาษี(หรือ 54 ล้านเหรียญก่อนหักภาษี)ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาที่อยู่ในระหว่างดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการบริษัทวีพีเน็ต เทคโนโลยี่ส์ อิงก์ เป็นมูลค่า 31ล้านเหรียญหลังหักภาษี (31 ล้านเหรียญก่อนหักภาษี) และค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างบริษัทเซเลสติก้าให้เป็นผู้ดำเนินการผลิตซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติ เป็นมูลค่า 79ล้านเหรียญหลังหักภาษี (หรือ 134 ล้านเหรียญก่อนหักภาษี) เทียบกับไตรมาสเดียวกับปีที่แล้ว อวาย่ามีผลกำไรสุทธิ66 ล้านเหรียญ หรือ 24เซ็นต์ต่อหุ้นที่ใช้ฐานหุ้นซึ่งลดมูลค่าลงแล้ว
อวาย่ามีรายได้รวมในไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2544มูลค่า 1,852 ล้านเหรียญเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งมูลค่า 1,945 ล้านเหรียญ
ผลประกอบการของธุรกิจหลักในช่วงหกเดือนแรกของปีงบประมาณ2544 ในช่วงหกเดือนแรกของปีงบประมาณ 2544อวาย่ามีรายได้สุทธิจากธุรกิจหลักเป็นมูลค่า 129ล้านเหรียญ หรือ 41เซ็นต์ต่อหุ้นซึ่งใช้ฐานหุ้นที่ลดมูลค่าลงแล้ว ทั้งนี้ ไม่หักค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นกิจการใหม่หลังจากแยกตัวออกจากบริษัทลูเซ่น เทคโนโลยี่ส์และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการบริษัทวีพีเน็ตและค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างบริษัทเซเลสติก้าให้เป็นผู้ดำเนินการผลิตอุปกรณ์บางส่วน ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติ โดยเพิ่มขึ้น 25ล้านเหรียญ หรือร้อยละ 24จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 104ล้านเหรียญ หรือ 37เซ็นต์ต่อหุ้นที่ใช้ฐานหุ้นซึ่งลดมูลค่าลงแล้ว
รายได้จากธุรกิจหลักในช่วงหกเดือนแรกของปีงบประมาณ 2544มีมูลค่า 3,637 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 หรือ 79ล้านเหรียญจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 3,558ล้านเหรียญ
ผลประกอบการในช่วงหกเดือนแรกของปีงบประมาณ 2544เมื่อรวมค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นกิจการใหม่หลังจากแยกตัวออกจากบริษัทลูเซ่น เทคโนโลยี่ส์และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการบริษัทวีพีเน็ต และค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างบริษัท เซเลสติก้า ให้เป็นผู้ดำเนินการผลิตซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาอนุมัติ อวาย่ามีผลขาดทุนสุทธิในช่วงหกเดือนแรกของปีงบประมาณ2544 คิดเป็นมูลค่า 48 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 21เซ็นต์ต่อหุ้นซึ่งใช้ฐานหุ้นที่ลดมูลค่าลงแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดขาดทุนสุทธิ135 ล้านเหรียญ หรือ 48เซ็นต์ต่อหุ้นซึ่งใช้ฐานที่ลดมูลค่าแล้ว
ในช่วงหกเดือนแรกของปีงบประมาณ 2544รายได้ของอวาย่าที่ปรากฏในรายงานทางการเงินมี มูลค่า3,637 ล้านเหรียญ ลดลง158 ล้านเหรียญ หรือร้อยละ 4.2เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ที่รายงานไว้ในช่วงหกเดือนแรกของปีที่ผ่านมาซึ่งมีมูลค่า 3,795 ล้านเหรียญ
มร. แกรี่ แมคไกวร์ ประธานบริหารฝ่ายการเงิน บริษัทอวาย่า อิ๊งค์ กล่าวว่า“ผลการดำเนินงานของอวาย่าในไตรมาสนี้ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงประโยชน์ที่เกิดจากการปรับโครงสร้างขององค์กรได้อย่างชัดเจน"และเสริมว่า "ในไตรมาสแรกของปีนี้ เรามีค่าใช้จ่ายลดลง100 ล้านเหรียญ และในไตรมาสนี้เรายังคงมีค่าใช้จ่ายลดลงอย่างต่อเนื่องแต่มีผลกำไรรวมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้อวาย่ามีรายได้ทั้งหมดเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาโดยมีรายได้จากธุรกิจเครือข่ายหลากหลายประเภทสูงขึ้นร้อยละ72.4รายได้จากธุรกิจโซลูชั่นการต่อเชื่อมเพิ่มขึ้นร้อยละ21.9 และรายได้จากระบบรับ-ส่งข้อความเพิ่มขึ้นร้อยละ17.9 รายได้จากบริการสูงขึ้นร้อยละ 8.8และยอดขายนอกประเทศสหรัฐอเมริกาสูงขึ้นร้อยละ 7.4
มร. แมคไกวร์กล่าวว่า "ที่ผ่านมา เราได้ตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2544รายได้จากธุรกิจหลักของบริษัทจะมีอัตราการเติบโตในระดับที่สูงกว่าร้อยละ5 และรายได้สุทธิจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ"และเสริมว่า"แต่เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกามีการชะลอตัวลงเราจึงปรับเปลี่ยนเป้าหมายการเติบโตให้อยู่ที่ระดับร้อยละ2-5ในขณะที่เป้าหมายการเติบโตของรายได้สุทธิยังคงอยู่ในระดับที่กำหนดไว้เดิม"
โครงการสำคัญนับตั้งแต่สิ้นสุดไตรมาสที่ผ่านมา อวาย่าได้ดำเนินโครงการสำคัญต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่มุ่งปรับโครงสร้างขององค์กรและเพิ่มรายได้ดังรายละเอียดต่อไปนี้
อวาย่าได้รับมอบหมายจากบริษัทนิวส์คอร์ปอเรชั่นให้เป็นผู้จัดหาโซลูชั่นเครือข่ายแบบครบวงจรมูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารทั่วองค์กร ซึ่งประกอบด้วยชุดโซลูชั่น ECLIPS : Enterprise Class IPSolutions ที่ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านไอพี(Voice Over Internet Protocol : VoIP)ระบบว็อยซ์สวิทชิ่ง และแอพพลิ-เคชั่นการส่งข้อความ อวาย่าได้รับมอบหมายให้ติดตั้งระบบเครือข่ายบริการหลากหลายประเภทในประเทศจีนและเม็กซิโกทั้งนี้ บริษัทนิสสัน เม็กซิกานาหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคละติน อเมริกา จะใช้โซลูชั่นระบบแลนของอวาย่าเชื่อมโยงผู้ใช้งาน 2,000คนในพื้นที่ 5แห่งเข้าด้วยกันผ่านโครงข่ายกิ๊กะบิตอีเทอร์เน็ตซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์กิ๊กะบิตสวิตช์ P550 และระบบเราติ้งสวิตช์ P 880 ของ อวาย่า นอกจากนี้ศูนย์ควบคุมไฟฟ้า ประเทศจีนจะใช้ระบบเร้าติ้งสวิตช์เคเจี้ยน P 880 ระบบเร้าติ้งสวิตช์ เคเจี้ยน P 330และระบบสื่อสารไร้สายของอวาย่าเพื่อเปลี่ยนจากระบบเอทีเอ็ม (asynchronous transfermode) เป็นกิ๊กะบิต อีเทอร์เน็ต
บริษัท อวาย่า แลบส์แนะนำผลิตภัณฑ์ LibsafeTM 2.0ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่สนับสนุนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ โดยสามารถนำมาใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย Libsafe™ 2.0มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยให้กับซอฟต์แวร์ที่มีปัญหาทางด้านการจัดวางรูปแบบของคำ(format string) และอื่นๆ รวมทั้งซอฟต์แวร์ที่ใช้บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
อวาย่าเข้าซื้อบริษัท วีพีเน็ต เทคโนโลยี่ส์ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบและอุปกรณ์เครือข่ายส่วนตัวเสมือนจริง VPN : virtual private network
การเข้าซื้อธุรกิจของบริษัท ควินตัส คอร์ปอเรชั่นช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอวาย่าในตลาดระบบบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า(customer relationship management : CRM) ทำให้อวาย่ามีซอฟต์แวร์หลากหลายประเภทที่ทำงานได้หลากหลายแพลทฟอร์ม
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
สิริพร ศุภรัชตการ / พรทิพย์ เลิศเวชกุลโทร. 252-9871/7อีเมล์: [email protected] จบ--
-อน-
- ธ.ค. ๒๕๖๗ กลุ่มทรู จัดแคมเปญ “Together Forever” เอาใจคู่รัก รับวันวาเลนไทน์ ชวนคู่หวานเปิดเบอร์ใหม่เสริมดวงความรัก จากทรูมูฟ เอช พร้อมรับฟรี บัตรภาพยนตร์True 4DX มูลค่า 1,200 บาท
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: กรมการค้าภายในเยี่ยมชมกิจการ “ร้านติดดาว” โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตร้านค้าปลีกของกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ประเทศไทยจัดงานประชุมนานาชาติเรื่องโรคเอดส์ ใช้ Live Streaming ถ่ายทอดสดการประชุมเป็นครั้งแรกแก่บุคลากรทางการแพทย์