กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ททท.
การท่องเที่ยวโคราชไม่ซบเซาอย่างที่คิดนักท่องเที่ยวแห่สะท้านลมหนาวอำเภอปากช่องส่งท้ายฤดูฝนไม่ตระหนกเรื่องคลังแสงเพราะไกลแหล่งท่องเที่ยวลิบโลก ททท. เร่งบูมเข้าใหญ่ปากช่องช่วยขายธรรมชาติให้คนเมืองจัดกิจกรรมเสริมโชว์ความปลอดภัย
นางสาวเอื้อมพร จิรกาลวิศัลย์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 เผยว่า จากเหตุการณ์คลังแสง ทบ.ระเบิดที่อำเภอปากช่องนั้น ททท. ได้ตรวจสอบไปยังโรงแรม รีสอร์ท สนามกอล์ฟ และร้านอาหาร ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงแล้วพบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นวันธรรมดามีผู้ใช้บริการน้อยมากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเดินทางมาพักผ่อนและใช้บริการในช่วงวันหยุดและสถานประกอบการที่เกี่ยวกับการท่าองเที่ยวเกือบทั้งหมดอยู่ห่างไกลเขตอันตรายธุรกิจท่องเที่ยวจึงได้รับผลการะทบน้อยมาก
ทางด้านนางสาวปริญญานัฐ วิเลิศ นักท่องเที่ยวที่พักอยู่บริเวณเชิงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 กิโลเมตร ได้กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังจะออกไปเดินป่าบนอุทยานฯ และตนไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์คลังแสงระเบิดเพราะไม่ได้ยินเสียงหรือรู้สึกสั่นสะเทือน แต่อย่างใดเมื่อตนทราบก็ไม่ได้ย้ายหรือเดินทางกลับเพราะมั่นใจว่าเขาใหญ่อยู่นอกเขตอันตรายมาก
นางสาวเอื้อมพร ผอ.ททท.ฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตนอยากจะขอให้สื่อมวลชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยว่า ถนนมิตรภาพสายเลี่ยงเมืองเป็นเส้นทางการคมนาคมหลักมายังอุทยานแห่งช่าติเขาใหญ่และเส้นทางที่จะเดินทางเข้ามายังจังหวัดนครราชสีมา อยู่ห่างไกลจากที่เกิดเกตุราว 10 กิโลเมตร จึงไม่มีผลต่อผู้เดินทางในแถบนี้ ประกอบกับในช่วงนี้อากาศบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เริ่มเย็นลงหากเป็นช่วงเช้าจะมีหมอกเรี่ยๆ ตามยอกหญ้าทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
"เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นคู่แข่งทางการท่องเที่ยวเสนอข่าวหน้าหนึ่งทำให้เกิดความตื่นตระหนกเกินความเป็นจริงกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ททท.จะได้ดำเนินการทางการตลาดและประชาสัมพันธ์จัดกิจกรรมท่องเที่ยวขึ้นเป็นระยะๆ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวทั่วไปดังคำกล่าวที่ว่า THE SHOW MUST GO ON แม้จะเกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตระหนกกับนักท่องเที่ยวหลายอย่างทั้งที่เป็นเรื่องภายในและนอกประเทศแต่ ททท. ก็มีความมั่นใจในศักยภาพของภาคอีสานว่ากำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ" นางสาวเอื้อมพรฯ กล่าวในที่สุด--จบ--
-นห-