ธนาคารกรุงเทพเซ็นสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับกลุ่มสามมิตรมอเตอร์

กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--ธนาคารกรุงเทพ
เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2543 ธนาคารกรุงเทพได้เป็นแกนนำกลุ่มเจ้าหนี้ ลงนามในสัญญาเพื่อปรับโครงสร้าง หนี้รวม 2,500 ล้านบาท กับกลุ่มสามมิตรมอเตอร์ โดยพิธีลงนามครั้งนี้จัดขึ้นที่ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ถนนสีลม
ความสำเร็จของการปรับโครงสร้างหนี้ในครั้งนี้เป็นผลมาจากการวางแผนและประสานงานกันระหว่างธนาคารกรุงเทพ สถาบันการเงินเจ้าหนี้อีก 15 ราย กล่าวคือ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยธนาคาร ธนาคารเอเชีย บริษัท บางแคปปิตอล อัลไลแอนซ์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย บริษัทบริหารสินทรัพย์จันทบุรี กองทุนรวามเอเชียรีคอฟเวอรี่ 2 กองทุนรวมไทยสตราทิจิคแอสเซ็ท บงล.เอ.ไอ.จี.ไฟแนนซ์(ประเทศไทย) บง.สินอุตสาหกรรม ธนาคารสแตนดาร์ด ชาเตอร์ นครธน กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน ธนาคารทหารไทย บงล.เอส.จี.สินเอเชีย และกลุ่มสามมิตรมอเตอร์
ก่อนหน้าที่จะมีการลงนามในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง ( MOU) ไปแล้วเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2543
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า “ ธนาคารกรุงเทพและ กลุ่มเจ้าหนี้ ได้มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกหนี้ต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางปี 2541 เพื่อช่วยให้กลุ่ม สามมิตรมอเตอร์ สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจมาได้ และกลุ่มเจ้าหนี้มั่นใจ ว่าการปรับปรุงโครง สร้างหนี้ ครั้งนี้จะทำให้ กลุ่มสามมิตรมอเตอร์ สามารถ ดำเนิน ธุรกิจ ได้สำเร็จตามแผน และชำระหนี้ได้ ตามเงื่อนไขในสัญญาใหม่ "
นอกเหนือจากการปรับโครงสร้างหนี้เดิมแล้ว ธนาคารกรุงเทพ โดยความเห็นชอบของกลุ่มเจ้าหนี้ได้อนุมัติ สินเชื่อใหม่เพื่อให้กลุ่มสามมิตรมอเตอร์ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนอีก 400 ล้านบาท โดยสัญญาปรับปรุงโครง สร้างหนี้ใหม่นี้ได้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้เงินกู้ออกไปเป็น 10 ปี ในอัตราดอกเบี้ย MLR
กลุ่มสามมิตรมอเตอร์ดำเนินธุรกิจประกอบและดัดแปลงตัวถังรถยนต์ รวมทั้งผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วน ยานยนต์ สำหรับตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น จีน ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา โดยกลุ่ม บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นถึงปีละประมาณ 3,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า
“ ธนาคารรู้สึกยินดีกับกลุ่มสามมิตรมอเตอร์ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ที่การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพราะจะทำให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจและจ้างงานต่อไปได้ ซึ่งจะเป็น ประโยชน์กับเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ทั้งนี้เป็นผลจากนโยบายของธนาคารในการปรับโครงสร้าง หนี้โดยยึดหลักการในการหาแนวทางที่สร้างสรรค์ ยั่งยืน และยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย ” นายชาติศิริ กล่าวสรุป--จบ--
-อน-