กสิกรไทยแจ้งผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 43 กำไร 1,256 ล้านบาท

ศุกร์ ๒๐ ตุลาคม ๒๐๐๐ ๐๙:๕๗
กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
นายบัณฑูร ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของธนาคารก่อนสอบทานใน 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) ปี 2543 ว่า ธนาคารมีสินทรัพย์จำนวน 763,143.3 ล้านบาท เงินให้สินเชื่อ 454,055 ล้านบาท เงินฝาก 638,196.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,256.4 ล้านบาท เทียบกับปีที่แล้วที่ขาดทุน 27,243.2 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้น 0.53 บาท เทียบกับปีก่อนหน้าที่ขาดทุนต่อหุ้น 15.32 บาท
อย่างไรก็ตามเฉพาะผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย.43) ธนาคารมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 1,268.2 ล้านบาท เทียบกับปีที่แล้วที่ขาดทุน 7,864.7 ล้านบาท และขาดทุนต่อหุ้น 0.54 บาท เทียบกับปีก่อนหน้าที่ขาดทุนต่อหุ้น 4.42 บาท ทั้งนี้ในไตรมาส 3 ธนาคารมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ที่เป็นรายการสำคัญดังนี้
1. ธนาคารได้ตีราคาที่ดินและอาคารที่ทำการทั้งหมดของธนาคาร ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 32 เรื่องที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ซึ่งกำหนดให้ต้องประเมินราคาที่ดินและอาคารอย่างสม่ำเสมอทุก 3-5 ปี ในการประเมินครั้งนี้ ธนาคารมีส่วนเกินทุนจากการตีราคาที่ดินและอาคารจำนวน 9,514.2 ล้านบาท ซึ่งแสดงในส่วนของผู้ถือหุ้น และมีขาดทุนจากการตีราคาที่ดินและอาคารจำนวน 794.9 ล้านบาท ซึ่งแสดงเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน
2.ธนาคารมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงขึ้น เนื่องจากได้รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 600 ล้านบาทซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในโครงการยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของธนาคารในระยะยาว ทั้งที่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพงานภายในและการให้บริการลูกค้า โครงการเหล่านี้รวมถึงโครงการรวมศูนย์งานปฏิบัติการ โครงการปรับกระบวนการงานเครดิต โครงการพัฒนาระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า และโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
3.ธนาคารต้องรับรู้ผลขาดทุนของบริษัทบริหารสินทรัพย์ทั้งสองแห่งของธนาคารจำนวน 1,362.9 ล้านบาททันทีตามวิธีส่วนได้เสีย ผลขาดทุนดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ทั้งสองแห่งได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจากการที่มูลค่าของหลักประกันและคุณภาพของสินเชื่อลดลง อย่างไร ก็ตามหากธนาคารมิได้จัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ทั้งสองแห่ง และยังคงเงินให้สินเชื่อไว้กับธนาคาร
ธนาคารสามารถใช้สำรองส่วนเกินที่มีอยู่รองรับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ที่เพิ่มขึ้นของบริษัทบริหารสินทรัพย์ทั้งสองแห่งได้อย่างเพียงพอโดยธนาคารไม่ ต้องมีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ณ วันที่ 30 กันยายน 2543 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารซึ่งคำนวณจากงบการเงินของธนาคาร โดยได้รวมสินทรัพย์เสี่ยงของบริษัทบริหารสินทรัพย์ธนบุรีและบริษัทบริหารสินทรัพย์จันทบุรี เป็นดังนี้
อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง
เงินกองทุนชั้นที่ 1* 7.07
เงินกองทุนชั้นที่ 2 4.66
เงินกองทุนทั้งสิ้น 11.73
* รวมขาดทุนของไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2543--จบ--
-อน-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO