กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--ทูเดย์อินไทยแลนด์
นายดลชัย บุณยะรัตเวช ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เดนท์สุ ยังก์ แอนด์ รูบิแคม แบรนด์คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (DY&R) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2544 เป็นต้นไป บริษัทจะปรับโครงสร้างการบริหารงานใหม่ โดยแบ่งออกเป็น 5 แบรนด์ทีม แต่ละแบรนด์ทีมประกอบด้วย ผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟ, ผู้อำนวยการฝ่ายดูแลลูกค้า และผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนซื้อสื่อ โดยแต่ละแบรนด์ทีมจะมีระบบการบริหารงานด้วยตัวเอง หรือบิสซิเนส ยูนิต (Business Unit) ซึ่งจะต้องทำงานตั้งแต่การหาลูกค้า บริหารลูกค้า รวมถึงการบริหารงานด้านการเงินให้มีผลประกอบการมีกำไรด้วย
โครงสร้างใหม่ดังกล่าวนี้จะช่วยให้ระบบการบริหารต่างๆ กระชับและคล่องตัวขึ้น ที่สำคัญจะทำให้ทีมงานของบริษัทเข้าใจถึงแบรนด์ของสินค้าอย่างลึกซึ้งมากขึ้น
นอกจากทิศทางการทำงานของเอเยนซี่ในอนาคตจะต้องมีความเป็นบิสซิเนส ยูนิตเล็กๆ ในองค์กรใหญ่ดังกล่าวแล้ว การแบ่งงานแบบนี้ยังจะเป็นการสร้างคนใหม่ๆ ให้เกิดความเข้าใจในธุรกิจเพิ่มขึ้นด้วย และนอกจากบริษัทจะตั้งเป้าให้แต่ละทีมทำงานไม่ให้ขาดทุนแล้วยังตั้งเป้าให้ทำงานให้ได้รับรางวัลด้วย เพื่อที่จะเป็นสิ่งที่ช่วยการันตีในเรื่องคุณภาพ โดยทั้งระบบนี้ตนจะคนเป็นคนดูงานขั้นสุดท้ายอีกครั้งหนึ่ง
"ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปี 2544 บริษัทจะมีกรรมการผู้จัดการใหม่เข้ามาช่วยดูแลงานทั้งหมด โดยกรรมการผู้จัดการคนใหม่นี้บริษัทได้เน้นบุคคลที่มีความรู้ความชำนาญด้านการตลาด เพื่อจะได้เข้ามาเสริมฐานด้านการตลาดให้แข็งแกร่งขึ้นไปอีก" นายดลชัยกล่าวและว่า
ขณะเดียวกัน ยังมีแผนที่จะเสริมฐานรายได้ให้เพิ่มขึ้น ด้วยการจัดตั้งบริษัทเครือข่ายเพิ่มอีก 1 บริษัท เพื่อรองรับงานของลูกค้าที่ดีวาย แอนด์ อาร์ ไม่สามารถรับงานได้ เนื่องจากเป็นแคทิกอรี่ที่ซ้ำกับสินค้าที่มีอยู่แล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า โดยใช้ชื่อว่าบริษัท inspYRe จำกัด ซึ่งจะเป็นการแบ่งแยกการทำงานที่เป็นเอกเทศต่างหากจากดีวายแอนด์อาร์ โดยที่ดีวาย แอนด์ อาร์ เป็นผู้สนับสนุนในเรื่องการเงินและโนว์ฮาวต่างๆ
นายดลชัยกล่าวถึงผลประกอบการในปีนี้ว่า เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือ มีรายได้รวมประมาณ 2,000 ล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 2,200 ล้านบาท และขณะนี้บริษัทเริ่มมีลูกค้าใหม่ที่จะเข้ามาใช้บริการในปีหน้าแล้วหลายราย หรือคิดเป็นยอดขายประมาณ 200 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการใช้เงินของพิซซ่า คอมปะนี และชิคเก้นทรีต ประมาณ 100 ล้านบาท ที่เหลือเป็นองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย, คาสตรอล, อะไหล่ฮอนด้า, ทูน่าซีเล็ค, ศูนย์อาหาร THE FIFTH DIMENTION และอยู่ระหว่างการดำเนินการอีกส่วนหนึ่ง
"ปีหน้าโฆษณาทุกแห่งจะทำงานยากขึ้น เนื่องจากเจ้าของสินค้าส่วนใหญ่จะหวังผลด้านการตลาดที่สูงขึ้น ในขณะที่งบประมาณยังใช้เท่าเดิม อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีเป้าหมายว่าจะสามารถเป็น "The Best Agency of Thailand" ให้ได้ภายในปีหน้า โดยจะมุ่งเน้นที่ทำงานอย่างมีคุณภาพและมีความสุข รวมถึงให้ความสำคัญกับการเทรนนิ่งบุคลากรและทำวิจัยพฤติกรรมกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายที่มีต่อสินค้าแบรนด์ต่างๆ เป็นสำคัญ" นายดลชัยกล่าว--จบ--
-สส-