ความคืบหน้าการดำเนินการ โครงการร่วมความปลอดภัยด้านอาหารครบวงจร

จันทร์ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๐๐๑ ๑๐:๐๓
นนทบุรี--12 พ.ย.--อย.
7 หน่วยงานหลักจับมือเดินเครื่องระบบความปลอดภัยด้านอาหาร ทำโครงการร่วม ความปลอดภัยด้านอาหารครบวงจร เน้นแก้ไขปัญหาเรื่องด่วนและประสานความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง ตลอดห่วงโซ่อาหาร โดยมีคณะกรรมการแห่งชาติด้านอาหารติดตามกำกับ ทั้งนี้ เพื่อสร้างระบบความปลอดภัยด้านอาหารที่มีประสิทธิภาพ
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ความปลอดภัยด้านอาหารเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่รัฐบาลให้ความสนใจ และเร่งดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้บริโภคอาหารที่มีความปลอดภัย ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาความปลอดภัยของอาหารจะต้องมีการประสานความร่วมมือกันทุกหน่วยงานที่กำกับดูแลในแต่ละขั้นตอน ตลอดห่วงโซ่อาหาร เพื่อให้สามารถดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างครบวงจร หากหน่วยงานใดในห่วงโซ่ขาดการดำเนินการก็จะทำให้ไม่สามารถมั่นใจในความปลอดภัยของอาหารได้
จากเหตุผลความเป็นมาดังกล่าว จึงเป็นที่มาของการประชุมเรื่องระบบความปลอดภัยด้านอาหารแห่งชาติเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2544 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้จับมือกับหน่วยงานหลักที่เกี่ยวกับอาหาร คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์และกรุงเทพมหานคร เปิดเวทีระดมสมองพัฒนาแผนแม่บทระบบความปลอดภัยด้านอาหารแห่งชาติผลการประชุมได้มีการกำหนดเรื่องที่เป็นปัญหาเร่งด่วนดึงมาทำเป็นโครงการร่วม ความปลอดภัยด้านอาหารครบวงจร และเน้นให้ทุกหน่วยมีการวางแผนทำงานร่วมกันในเรื่องเดียวกันนั้นอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง ครบวงจร ไม่มีช่องว่างระหว่างรอยต่อ ทั้งนี้จะไม่มีหน่วยงานใดเป็นเจ้าของเรื่องแต่เพียงหน่วยเดียว โดยมอบให้งานหนึ่งเป็นผู้ประสานงานหลัก หรือ Project Manager ทำหน้าที่ประสานการทำงานของทุกหน่วยงานในโครงการนั้น และรวบรวมผล รายงานผลเป็นภาพรวมของประเทศนำเสนอคณะอนุกรรมการความปลอดภัยด้านอาหารแห่งชาติ ซึ่งจะนำเสนอคณะกรรมการแห่งชาติด้านอาหารต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อไปว่า การประชุมคณะกรรมการแห่งชาติด้านอาหารในวันนี้ เป็นการนำเสนอแผนงานโครงการร่วม โดยผู้ประสานงานหลักทั้ง 7 โครงการ ซึ่งคณะกรรมการได้ให้ข้อเสนอแนะปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการทำงานร่วมกันในการดำเนินการสร้างระบบความปลอดภัยให้กับอาหารอย่างครบวงจร ซึ่งประโยชน์ที่ได้จะเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างแน่นอนต่อจากนั้นหน่วยงานรับผิดชอบหลักทั้ง 7 โครงการจะต้องรายงานความคืบหน้าต่อคณะกรรมการแห่งชาติด้านอาหารทุกๆ ระยะ 4 เดือน--จบ--
-สส-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๓๘ ไมเนอร์ โฮเทลส์ ตั้งเป้าขยายพอร์ตโรงแรมทะลุ 850 แห่ง ภายในปี 2570
๑๖:๐๐ นฤมิตไพรด์ ปักหมุด! กลางกรุงฯ จัด-จดสมรสเท่าเทียม ชวนชาว LGBTQIAN สะบัดธงสีรุ้งร่วมสร้างประวัติศาสตร์จดทะเบียนสมรส
๑๖:๒๕ The new E-Class จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ คว้ารางวัล Best Performer โดย Euro NCAP ขึ้นแท่นรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดประจำปี
๑๖:๔๑ สตีเบล เอลทรอน เปิดตัว เครื่องแลกเปลี่ยนอากาศรุ่น VLR 70 S ชูนวัตกรรม 3 in 1 กรองฝุ่น PM 2.5 เติมอากาศบริสุทธิ์ พร้อมประหยัดไฟฟ้า
๑๖:๐๐ สธ.พร้อมส่งเสริมสุขภาพ LGBTQ มอบกรมอนามัย สร้างเกราะความรู้สุขภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
๑๖:๐๐ ม.พะเยา จัดการประชุมวิชาการระดับชาติพะเยาวิจัย ครั้งที่ ๑๔ บทบาทมหาวิทยาลัยกับการพัฒนานักจัดการเชิงพื้นที่
๑๕:๓๙ Healthy Children โปรแกรมตรวจสุขภาพเด็ก
๑๕:๕๖ Samsung Galaxy S25 Ultra เปิดตัว Corning(R) Gorilla(R) Armor 2 ครั้งแรกในอุตสาหกรรม กับกระจกเซรามิกป้องกันการสะท้อนแสงสำหรับอุปกรณ์
๑๖:๑๖ จบปัญหาไทรอยด์แบบเหนือชั้น !! รพ.พระรามเก้า จัดเต็ม! โปรโมชันผ่าตัดรักษาต่อมไทรอยด์แบบครบวงจร
๑๕:๓๓ เปลี่ยนเหมืองร้างมาทำประมงควบคู่กับการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์และระบบกักเก็บพลังงาน จากทรินาโซลาร์