กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน มาร์สเตลเลอร์
มูลหนี้ของทีพีไอในปี 2544 ลดลง 855 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การขายทรัพย์สินที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลักคืบหน้าไปมาก
บริษัท เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ส จำกัด (อีพีแอล) ในฐานะผู้บริหารแผนของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีไอ มีความยินดีที่ได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟู กิจการของทีพีไอได้เกือบครบทุกเป้าหมายที่กำหนดไว้ในปีแรก ซึ่งนับตั้งแต่ที่อีพีแอลได้รับอนุมัติจาก ศาลล้มละลายกลางให้เป็นผู้บริหารแผนของทีพีไอเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2543 จนถึง ณ ขณะนี้ อีพีแอลได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอมาครบ 1 ปีแล้ว
ในปี 2544 มูลหนี้โดยรวมของทีพีไอลดลง 855 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การชำระดอกเบี้ยสำหรับหนี้ชั้นที่ 1 ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ทีพีไอยังได้รับอนุมัติสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมจำนวน 79.67 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ และในปีเดียวกันนี้ อีพีแอลยังได้ แต่งตั้ง ดร.ทองฉัตร หงศ์ลดารมภ์ ให้เป็นผู้จัดการใหญ่ของทีพีไอ เพื่อดูแลและควบคุมการบริหารงานทั้งหมด ส่งผลให้ธุรกิจของทีพีไอมีสถานภาพที่มั่นคงและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สำหรับการขายทรัพย์สินที่มิใช่สินทรัพย์หลักมีความคืบหน้าอย่างมาก ซึ่งในแผนฟื้นฟูกิจการของทีพีไอได้กำหนดเป้าหมายการขายทรัพย์สินที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลักให้มีมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2544 จนถึงขณะนี้ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จในส่วนของการขายหนี้ระหว่างบริษัทที่ได้กู้ยืมจากทีพีไอ และหุ้นของบริษัทในเครือบางแห่งที่ทีพีไอถือครอง ส่วนการขายโรงไฟฟ้าทีพีไอแม้จะมีความคืบหน้าอย่างมากแต่ยังไม่สามารถสรุปการขายได้ทันก่อนสิ้นปี 2544
นอกจากนี้ การขายหุ้นสามัญจำนวนร้อยละ 49 ที่ทีพีไอถือครองในทีพีไอโพลีนยังเป็นองค์ประกอบสำคัญในการจำหน่ายสินทรัพย์ที่มิใช่สินทรัพย์หลักของทีพีไอ เพราะเดิมทีแผนการปรับโครงสร้างของทีพีไอโพลีน กำหนดจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2544 แต่ขณะนี้การปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวยังไม่ได้ข้อยุติ
มร.ปีเตอร์ โกธาร์ด ผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ส จำกัด กล่าวว่า "หากพิจารณาปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลกย่อมส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและกำลังซื้อของนักลงทุน โดยตรง ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากที่แผนการขายทรัพย์สินที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลักของทีพีไอจะเสร็จสิ้นได้ทันภายในปลายปี 2544 และหากเราต้องเร่งรีบปิดการขายเพื่อให้ทันกำหนดเวลาในภาวะเศรษฐกิจขาลงเช่นนี้ เราคิดว่าจะเป็นการทำงานที่ไม่รอบคอบเพราะราคาเสนอซื้อที่เข้ามาจะต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง นอกจากนี้ จากการศึกษาของนักวิเคราะห์ในวงการยังชี้ให้เห็นว่า อุตสาหกรรมปิโตรเคมีมีส่วนต่างผลกำไรต่ำสุดในรอบ 10 ปี"
ทั้งนี้ เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ส ได้เสนออย่างเป็นทางการแก่เจ้าหนี้ของทีพีไอเพื่อให้ลงมติเห็นชอบการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการของทีพีไอในส่วนของการจำหน่ายทรัพย์สินที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลัก ซึ่งคณะกรรมการเจ้าหนี้ได้สนับสนุนการแก้ไขแผนครั้งนี้อย่างเอกฉันท์ โดยเสนอให้มีการขยายระยะเวลาดำเนินการขายทรัพย์สินที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลักออกไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2545 โดยการประชุมเพื่อลงมติเห็นชอบการแก้ไขแผนกำหนดจะมีขึ้นในปลายเดือนมกราคม ศกหน้า
"แม้ว่าการจำหน่ายทรัพย์สินที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลักจะไม่เป็นไปตามแผน แต่เราก็สามารถดำเนินการได้ครบตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่มูลหนี้โดยรวมของทีพีไอได้ลดลงตามเป้าหมายที่กำหนด แม้ว่าจะมีปัญหาเศรษฐกิจและสภาวะตลาดโดยรวม" มร. โกธาร์ด กล่าวเพิ่มเติม
ณ สิ้นปี 2544 มูลหนี้รวมของทีพีไอคาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 2,870 ล้านเหรียญสหรัฐ จะสูงกว่าประมาณการในแผนซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2543 ว่าจะมีปริมาณเท่ากับ 2,760 ล้านเหรียญสหรัฐ เพียง ร้อยละ 3.9
"การที่มูลหนี้รวมลดลงทำให้ฐานะของทีพีไอแข็งแกร่งมากขึ้น ถ้าเราสามารถชำระดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ได้เช่นนี้ตลอดปี 2545 และมีการขายทรัพย์สินที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลักรายการที่มีมูลค่าสูงๆได้ เราจะสามารถลดมูลหนี้ลงได้เร็วกว่ากำหนด นอกจากนี้ แม้ว่าในขณะนี้ส่วนต่างกำไรในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีได้ลดลงอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี เรายังมีความหวังอีกว่าในปีหน้า สภาวะตลาดทั่วโลกจะมีการฟื้นตัวบ้าง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อธุรกิจโดยรวมของทีพีไอ"
เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ส เป็นผู้บริหารแผนของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) และเป็นบริษัทในเครือของ เฟอร์เรียร์ ฮอดจ์สัน ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำด้านการปรับโครงสร้างทางการเงิน และการฟื้นฟูกิจการ โดยมีการดำเนินงานในหลายประเทศในภูมิภาคออสเตรเลียและเอเชีย เฟอร์เรียร์ ฮอดจ์สัน ได้ก่อตั้งสำนักงานประจำประเทศไทยในเดือนมีนาคม 2541 พร้อมทั้งได้พัฒนาสถานะของบริษัทฯ จนได้รับการยอม
รับอย่างกว้างขวางและมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานจำนวน 60 คน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในหลากหลาย อุตสาหกรรม อาทิ การธนาคาร ปิโตรเคมี โทรคมนาคม โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ และขนส่ง ทั้งนี้ เฟอร์เรียร์ ฮอดจ์สัน ได้มีส่วนร่วมในการปรับโครงสร้างหนี้ต่างๆ ทั้งในฐานะ ตัวแทนของเจ้าหนี้ (รวมทั้งเจ้าหนี้ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์รายใหญ่) และผู้ถือหุ้นรวมมูลค่าหนี้มากกว่า 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ส จำกัด
เจมส์ / วราพร / สาธิดา เจษฎ์ เจษฎ์ปิยะวงศ์
โทร 0 2252-9871 โทร 0 2679 5400 ต่อ 306--จบ--
-อน-