ประเทศไทย ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดการประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ในปี 2001

พุธ ๒๐ มิถุนายน ๒๐๐๑ ๑๓:๔๔
กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--ททท.
รองนายกรัฐมนตรี (นายปองพล อดิเรกสาร) เป็นประธานในพิธีเปิดตัวแนะนำโครงการ The Place to Meet-amazing THAILAND ณ ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2544 ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ทิก้า) และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมการจัดประชุม สัมมนา การจัดงานแสดงสินค้าหรือนิทรรศการนานาชาติ และการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล เรียกโดยย่อว่า MICE (Meeting Incentive Convention and Exhibition) อาศัยศักยภาพของประเทศไทยในหลายๆ ด้าน เช่น ความพร้อมของศูนย์ประชุมขนาดใหญ่หลายแห่งทั้งในกรุงเทพและเมืองหลักการท่องเที่ยว ซึ่งต่างมีประสบการณ์ในการจัดประชุมสำคัญๆ และสามารถรองรับการประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ ซึ่งต่างมีประสบการณ์ในการจัดประชุมสำคัญๆ และสามารถรองรับการประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ การเพิ่มและปรับปรุงการบริการด้านโรงแรมที่พักในระดับมาตรฐาน กว่า 4,800 แห่ง จำนวนห้องพักประมาณ 280,000 ห้องที่รองรับนักท่องเที่ยวและกลุ่มผู้เข้าร่วมประชุมได้เป็นอย่างดี รวมถึงการพัฒนาให้เป็นคอนเวนชั่น โฮเต็ล ที่มีการจัดการทันสมัย ตลอดจนการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานในระบบคมนาคมทางบก และทางอากาศ เพิ่มการบริการเที่ยวบิน เส้นทางการบินและสามารถรองรับสายการบินระหว่างประเทศไทยกว่า 80 สายการบิน ฯลฯ
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อดึงกิจกรรมไมซ์เข้าประเทศไทยนั้น ประกอบด้วยการร่วมงานส่งเสริมการขายและโร้ดโชว์ในต่างประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย สวิสเซอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ฮ่องกง ไทเป มะนิลา สิงค์โปร์ และมาเลเซีย เพื่อประชาสัมพันธ์ โครงการ The :lace to Meet-amzing THAILAND พร้อมจัดข้อเสนอพิเศษโดยความร่วมมือจากผู้ประกอบการภาคเอกชนสาขาต่างๆ เช่น หอการค้าไทย สมาคมโรงแรมไทย สมาคมมัคคุเทศก์ อาชีพแห่งประเทศไทย สายการบิน บริษัทนำเที่ยว ในการมอบสิทธิพิเศษ แก่ผู้ที่จะเข้ามาจัดการประชุมในไทย ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การจัดการต้อนรับตั้งแต่สนามบินไปยังสถานที่จัดงาน การเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงอาหารบางมื้อ การจัดการแสดงสำหรับพิธีเปิด การให้ของที่ระลึก การให้ฟรี และส่วนลดห้องพัก การขนส่ง ตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น
ทั้งนี้โครงการดังกล่าว จะรองรับตลาดเป้าหมาย ได้อย่างครอบคลุมในทุกภูมิภาคของทุกด้าน ได้แก่ ด้านการประชุม และอินเซนทีฟ ทีเอเชีย ยุโรป ออสเตรเลียและอเมริกา เป็นตลาดหลัก ด้านสัมมนา เน้นกลุ่มองค์กร สมาคมระหว่างประเทศ สำนักงานตัวแทนและสมาชิกที่มีที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย รวมกว่า 500 แห่ง ส่วนด้านนิทรรศการ ประกอบด้วยตลาดยุโรป อเมริกาและไทย สำหรับประโยชน์ที่ไทยจะได้รับคือ การนำมาซึ่งเงินตราต่างประเทศ เพราะผู้ที่เดินทางเข้ามาจัดประชุมจัดเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ มีการใช้จ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 2 เท่า จากสถิติในปี 2543 มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับด้านไมซ์ จำนวนประมาณ 280,000 คน เพิ่มจากปี 2542 ร้อยละ 18 ก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 16,000 ล้านบาท และในปี 2544-2545 คาดว่าจะมีการขยายตัวร้อยละ 20 ต่อปี ซึ่งประโยชน์ที่เห็นได้อย่างชัดเจนในการช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ยังแสดงภาพลักษณ์ของประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพและเป็นทั้งศูนย์กลางการประชุมนานาชาติในภูมิภาคเอเชียและอินโดจีนอีกด้วย--จบ--
-นห-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ