กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--อิมแพ็ค
อิมแพ็คตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางจัดงานนิทรรศการ ออกบูธจำหน่ายสินค้า เพื่อเปิดช่องทางใหม่ให้ผู้ค้ารายย่อย เสนอตัวจัดงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนดึงผู้ผลิตแสดงสินค้าจัดเวทีพบผู้บริโภค ควบคู่กับแผนดึงงานจัดแสดงสินค้าระดับนานาชาติ ปลายปีนี้ประเดิมคว้างานใหญ่โชว์ศักยภาพอย่าง "WICE 2001" และเดินหน้าพัฒนาอิมแพ็คซิตี้ ผุดศูนย์กีฬาและความบันเทิงเสริมความยิ่งใหญ่
นายอนันต์ กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า เพื่อเพิ่มช่องทางใหม่ในการกระจายสินค้าให้กับผู้ค้ารายย่อย และเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งเป็นภาคการผลิตสำคัญที่เป็นรากฐานของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้มีความแข็งแกร่ง โดยอิมแพ็คได้เสนอตัวเป็นผู้จัดงานแสดงสินค้า (organizer) ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน นอกเหนือจากการพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับงานแสดงสินค้าแต่เพียงอย่างเดียว
"ที่ผ่านมากลุ่มผู้เข้าชมงานเริ่มรู้จักการจัดแสดงสินค้าต่าง ๆ เช่น งานมหกรรมเกษตร 2000 งานเอสเอ็มอีแฟร์ งานเมดอินไทยแลนด์ และงานบางกอกเจมส์ เป็นต้น จากเมืองทองธานี เนื่องจากอิมแพ็คได้ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานแสดงสินค้า เพราะฉะนั้นคาดว่าจะมีคนจำนวนมากเข้าชมงานที่จัดขึ้นในอิมแพ็ค และการเป็นศูนย์กลางการพบปะระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย จะทำให้ต้นทุนการจัดแสดงสินค้าถูกลง เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตได้พบกับผู้ซื้อโดยตรง ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอย ผู้ซื้อได้สินค้าที่มีคุณภาพ ราคาถูก และสดใหม่ ขณะเดียวกันยังเป็นการเสนอทางเลือกในการเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าให้กับผู้ผลิตรายย่อยได้อีกทางหนึ่งด้วย"โดยอิมแพ็คได้พัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อรองรับนโยบายดังกล่าวโดยได้เปิดใช้พื้นที่ศูนย์การประชุม (IMPACT CONVENTION CENTER ) ซึ่งเป็นพื้นที่สร้างใหม่ขนาด 50,000 ตารางเมตร ทำให้อิมแพ็คมีพื้นที่เพื่อรองรับกิจกรรมต่าง ๆ รวมกับพื้นที่เดิม คือ อาคารแสดงสินค้า (IMPACT EXHIBITION HALL) อาคารอเนกประสงค์ (ARENA) สามารถจุคนได้ 12,000 คน และพื้นที่กลางแจ้ง (OUTDOOR EXHIBITION)
รวมกันถึง 144,000 ตารางเมตร ซึ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ทำให้นอกจากจะรับงานแสดงสินค้าและงานกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ภายในประเทศได้แล้วยังมีศักยภาพรองรับงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ระดับนานาชาติได้ด้วย
โดยขณะนี้ได้มีการจองพื้นที่ในอิมแพ็คเพื่อจัดแสดงงานต่าง ๆ เต็มถึงปี 2544 โดยเฉพาะในช่วงปลายปี 2543 มีการแสดงงานใหญ่ถึง 3 งาน คือ
1. งานมหกรรมสินค้าไทย (Products of Thailand) และงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2543 จัดระหว่างวันที่ 17-26 พฤศจิกายน 2543 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
2. งานสภาหอการค้าแฟร์ ครั้งที่ 1 จัดระหว่างวันที่ 1-11 ธันวาคม 2543 โดยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทย ซึ่งจัดพร้อมกับ มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 17
3. งาน "แสดงนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์นานาชาติ" (WICE 2001) โดยร่วมมือกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ จัดงานระดับนานาชาติแสดงเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา โดยใช้พื้นที่จำนวนมากในการจัดแสดง ทั้งในร่มบริเวณ Hall 1-4 (Main Hall) และ ICC Hall เพื่อจัดแสดงนิทรรศการทางทรัพย์สินทางปัญญา บูธสาธิตการประดิษฐ์ บูธสินค้าและผลงานสร้างสรรค์ การจัดอบรม สัมมนานายอนันต์ กล่าวว่า บริษัทฯ ยังมีนโยบายจะพัฒนาอิมแพ็คให้เป็น IMPACT CITY คือพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมเพื่อให้ชุมชนในเมืองทองธานีมีความเป็นเมืองอย่างสมบูรณ์แบบ โดยได้พัฒนาพื้นที่รอบบริเวณศูนย์แสดงสินค้านานาชาติ อิมแพ็ค ในเมืองทองธานีพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ โดยพัฒนาศูนย์การค้าและความบันเทิงครบวงจร (ENTERTAINMENT CENTER) ภายในศูนย์จะประกอบด้วย ร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต โรงภาพยนตร์ และโบว์ลิ่ง ส่วนศูนย์กีฬาครบวงจร (SPORT CENTER) จะประกอบด้วย อินดอร์สเตเดียม สนามไดร์ฟกอล์ฟ สนามฟุตบอล สนามเทนนิส สนามกีฬากลางแจ้ง และสระว่ายน้ำ--จบ--
-สส-
- พ.ย. ๒๕๖๗ ครอบครัวกาญจนพาสน์มอบเงินจากงานบำเพ็ญกุศลศพของ นายอนันต์ กาญจนพาสน์ ร่วมสมทบทุนให้แก่ศิริราชมูลนิธิ โรงพยาบาลศิริราช
- พ.ย. ๗๙๓๐ บางกอกแลนด์ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.09 บาท ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 46 เพิ่มขึ้น 12.5 % จากปีที่แล้ว
- พ.ย. ๒๕๖๗ บางกอกแลนด์จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท เพิ่มขึ้น 14.3 % จากปีก่อน