กรุงเทพฯ--6 ก.ค.--ปชป.
เมื่อเวลา 16.00 น. มีการประชุม ส.ส.ของพรรคฯ โดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง โดยมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลง ว่า เป็นการประชุมเมื่อคณะรัฐมนตรีได้ประชุมเสร็จแล้วได้รีบกลับมาประชุมที่พรรคฯ ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าสถานการณ์การเมืองก็ค่อนข้างที่มีความเร่งรัดมากเป็นพิเศษ วันนี้ที่ประชุมได้หยิบยกเรื่องที่ประชุมมาหลายเรื่อง เรื่องซึ่งสำคัญที่จะแถลงให้ฟังในวันนี้ ในเรื่องแรกเป็นที่เกี่ยวข้องกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีการแจ้งวาระระเบียบประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ประชุมได้พิจารณากฏหมายที่ประชาชนเสนอเข้ามาที่พรรคเองมีความเป็นห่วงอยู่ เช่น กฎหมายซึ่งเสนอโดยประชาชนลงชื่อกัน 5 หมื่นชื่อ คือพระบัญญัติป่าชุมชน จะมีปัญหาเนื่องจากยังไม่มีข้อบังคับ ในทางปฏิบัติพรรคฯจึงเห็นว่าควรจะให้โอกาสกับประชาชนซึ่งได้เสนอกฎหมายดังกล่าวนั้น ได้มีโอกาสไปชี้แจงในกรรมาธิการด้วย เพราะว่าจะไม่มีช่องทางในการเข้าไปชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎร
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นสมาชิกได้มีการซักถามถึงเรื่องแผนนิติบัญญัติ ซึ่งในสัปดาห์ที่แล้วทางพรรคร่วมรัฐบาลได้มีการประชุมกัน และได้มีการพูดถึงเรื่องของแผนนิติบัญญัติ โดยสมาชิกในพรรคนั้นได้เสนอความเห็นด้วยที่รัฐบาลควรจะต้องมีแผนนิติบัญญัติให้ชัดเจนว่า กฎหมายใดที่เป็นกฎหมายซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ และจัดลำดับความสำคัญเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งที่ประชุมพรรคฯมีมติขอให้ทางกรรมการประสานงานของพรรคได้แจ้งมติของพรรคฯไปยังกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลว่าขอให้เร่งทำแผนนิติบัญญัติและทางที่ดีควรจะสอบถาม พรรคการเมืองที่อยู่ในสภาขณะนี้ว่ามีกฎหมายใดที่จะสนับสนุนเป็นพิเศษ เป็นนโยบายของพรรคที่ควรจะเสนอบ้างและควรจะมีกรอบประเด็นที่ชัดเจนเสนอต่อสาธารณะชนเพื่อให้รับทราบว่า นี่เป็นแผนนิติบัญญัติ ฝ่ายรัฐบาลต้องการที่จะเสนอในสภาผู้แทนราษฎร หลังจากนั้นก็ได้ทำการซักถามกันถึงเรื่องของประเด็นการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ซึ่งในที่ประชุมในวันนี้นั้น มีรัฐมนตรีได้แจ้งให้ทราบว่าทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติอย่างไร ซึ่งที่ประชุมพรรครับทราบว่ามติที่ประชุมในวันนี้ได้ขอให้สมาชิกที่มีความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางฝ่ายกฎหมายของพรรค ได้ติดตามการทำงานของคณะทำงานเพื่อที่จะไปยกร่างของรัฐบาลซึ่งมี ท่านอาจารย์มีชัย เป็นประธานนี้อย่างใกล้ชิด และ ถ้ามีประเด็นใดคืบหน้าก็จะนำมาหารือกันในที่ประชุมของพรรคประชาธิปัตย์ โดยในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์นั้น เราได้มีหลักการอยู่ว่าการแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งนั้น ควรจะเป็นเรื่องที่กรรมการการเลือกตั้งในฐานะผู้ใช้ เป็นผู้เสนอ แต่ควรจะมีความเห็นของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะไประดมความคิดกันในการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ให้เกิดความสุจริตและความเที่ยงธรรม แต่ว่าพรรคการเมืองไม่ควรที่จะไปเสนอประเด็นใด ในขณะนี้ เนื่องจาก เขาจะมองพรรคการเมืองประสงค์ที่จะหาประโยชน์ การแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ประชาธิปัตย์เองก็จะมีจุดยืนเช่นนั้นในขณะนี้ ส่วนเมื่อเสนอเข้าสู่สภาแล้ว จะมีการตั้งกรรมาธิการเพื่อติดตามประเด็นต่อไป
ในส่วนที่เป็นวาระอื่น ๆ และวาระที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์สถานการณ์บ้านเมืองนั้น ได้มีสมาชิกร่วมแสดงคามคิดเห็นค่อนข้างมากเป็นพิเศษ เนื่องจากในวันนี้ท่านหัวหน้าพรรค และแกนนำของพรรคหลายท่านได้อยู่ในที่ประชุม โดยรวมของความคิดเห็นของเพื่อนสมาชิก คือ แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องพื้นที่เลือกตั้งเนื่องจากในขณะนี้ พื้นที่เลือกตั้งนั้นได้มีการแข่งขันกันค่อนข้างที่จะรุนแรงมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการใช้จ่ายเงินเป็นปัจจัยในการเลือกตั้งค่อนข้างที่จะมาก ในหลายพื้นที่มีการเสนอประโยชน์ให้ ไม่ว่าจะเป็นให้กับผู้นำท้องถิ่น นักการเมืองท้องถิ่น ตลอดจนองค์กรชาวบ้านต่าง ๆ ถึงขนาดบางที่นั้นเรียกว่ามีการวางมัดจำซื้อเสียงเอาไว้ล่วงหน้า ในที่ประชุมนั้นสมาชิกหลายท่านก็ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวข้องกับเรื่องพรรคการเมืองบางพรรค ขณะนี้ซึ่งเป็นที่รู้ว่าเป็นพรรคที่ค่อนข้างจ่ายเงินมากนั้น ถึงขนาดขึ้นเข้าไปดูแลสื่อ บางส่วนด้วย ไม่ว่าจะเป็นสื่อที่เกี่ยวข้องกับภาคของโทรทัศน์ หรือสื่อในส่วนที่เป็นนักเขียนอยู่บางท่านนี้ก็เป็นที่ทราบกัน ทำให้การทำหน้าที่ของ ส.ส ในแต่ละท่านแต่ละพื้นที่นั้นไม่ง่ายนักในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส.ส.ในพรรคหลายคนก็ถูกพรรคการเมืองดังกล่าวนี้ มาเสนอเงื่อนไขให้ย้ายไปอยู่พรรคการเมืองของเขา ในเรื่องของผลประโยชน์ตอบแทนดังที่พรรคเราได้เคยให้ข้อมูลกับสาธารณะชนมาโดยตลอด สมาชิกจึงมีความวิตกกังวลค่อนข้างมาก ในที่สุดก็ได้มีสมาชิกได้ซักถามถึงวาระที่รัฐบาล โดยเฉพาะถามท่านนายกฯว่า จะยุบสภาเมื่อใดเพื่อที่จะเป็นกรอบการทำงานที่ได้ชัดเจนในแต่ละพื้นที่ ขอให้ท่านนายกฯได้ ให้กำลังใจ รวมทั้งให้แนวทางในการทำงานในแต่ละพื้นที่ด้วย ในส่วนเรื่องยุบสภานั้น ท่านนายกฯก็ได้บอกกับพวกเราในที่ประชุมว่า ความกดดันเรื่องยุบสภานั้น ก็ต้องถือว่าเป็นเกมการเมือง ซึ่งตอนนี้ก็มีการประสานกันทำตลอดเวลา ไม่ว่าจะโดยพรรคการเมืองอย่างความหวังใหม่ ซึ่งลาออกเป็นส่วนใหญ่ในขณะนี้ ซึ่งในส่วนนี้ ส.ส. อิสาน ได้ฝากบอกในที่ประชุมพรรคว่า ชาวบ้านที่อิสานเขาบอกว่าพรรคความหวังใหม่นั้น เป็นรัฐบาลก็ลาออก เป็นฝ่ายค้านก็ลาออก เขาสงสัยว่าครั้งหน้าจะเป็นอะไร อันนี้เป็นส่วนหนึ่งที่มีการพูดกัน แต่ว่าสิ่งที่กดดันกันมากในขณะนี้ก็คือ ในส่วนของพรรคการเมืองอย่างไทยรักไทย ซึ่งอันนี้จะเป็นประเด็นในด้านการเมืองต่อ ท่านหัวหน้าก็ได้ตอบว่าเกมการเมืองเหล่านั้นจะไม่มีผลอะไร กับรัฐบาลเพราะว่า ขณะนี้ยังมีภาระกิจที่ต้องทำ แต่ท่านได้บอกว่าเราจะยุบทันทีเมื่อฝ่ายค้านไม่เหลือเลยในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตัวเลขที่ตรวจสอบในขณะนี้นั้น ฝ่ายค้านยังมีอยู่ถึง 57 คน แม้ว่าจะมีมติออกมาแต่ว่าการลาออกยังไม่มีผลชัดเจนจะมีผลก็ต่อเมื่อสมาชิกของกิจสังคมได้มายื่นใบลาออกจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งตรงนั้นมีการประเมินสถานการณ์การในพรรคกันอีกครั้งหนึ่ง แต่เท่าที่ตรวจสอบถ้าหากว่าไม่หักกิจสังคมออกไป จนกระทั่งถึงวันที่ 1 พ.ย. ก็ยังมี ส.ส.ฝ่ายค้านในสภาถึง 46 คน ก่อนหน้านี้จะมี 57 คน แต่ละคนก็จะมีตัวเลขของใบลาแตกต่างกันออกไป นั้นการยุบสภาก็จะยืนตามนั้นว่าเมื่อภาระกิจเสร็จสิ้นก็จะยุบ เว้นแต่ไม่มีฝ่ายค้านอยู่เลยก็จะยุบทันทีที่ไม่เหลือฝ่ายค้านอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนข้อวิตกกังวลเรื่องการเลือกตั้งนั้น ท่านหัวหน้าก็บอกว่าเป็นธรรมชาติของการเลือกตั้งที่ต้องมีการแข่งขันกัน แต่ในส่วนที่มีการใช้เงินกันเยอะนั้น ท่านหัวหน้าก็ย้ำชัดว่าประชาธิปัตย์ไม่มีเงินให้ แต่สิ่งที่พรรคจะให้คือความถูกต้อง ความมั่นคง และอนาคตของพรรค เพราะพรรคบางพรรคตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจอยู่ชั่วครั้งชั่วคราว เมื่อไม่ได้เป็นนายกฯก็ยุบพรรคไป แต่ประชาธิปัตย์ต้องอยู่อนาคตต้องอยู่ ก็ได้ย้ำให้สมาชิกได้มีกำลังใจและท่านหัวหน้าก็ได้เชื่อว่า คนในยุคข้อมูลข่าวสารเขารับฟังการชี้แจง และมีเหตุมีผลในการรับฟังคำชี้แจง แม้วว่าจะมีคำโจมตีจากหลายฝ่ายในขณะนี้ ก็ต้องขยันชี้แจง ต้องชี้แจงตลอดเวลาและสิ่งนี้ก็ขอให้สมาชิกทุกคนยึดถืออยู่ ส่วนในการทำงานในส่วนของพื้นที่ ขณะนี้ก็มีผู้รับผิดชอบและลงมือทำให้ทุกพื้นที่อยู่แล้วอันนี้ก็เป็นประชุมในส่วนของวันนี้
ในเรื่องสุดท้ายมีการพูดถึงเรื่อง ส.ส. บางคนในพรรค ซึ่งหัวหน้าพรรคไทยรักไทยไปประกาศตัวลงเมื่อวันเสาร์ที่แล้วว่าลงสมัครรับเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ของพรรคไทยรักไทย แต่สมาชิกดังกล่าวนั้น ขณะนี้ยังเป็น ส.ส.ประชาธิปัตย์ ซึ่งที่ประชุมได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นพูดและก็ได้มีแนวคิดเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของพรรคไทยรักไทย ถือเป็นความไร้มารยาททางการเมืองอย่างยิ่งเพราะประกาศตัวลงในขณะที่เขายังอยู่ ในพรรคการเมืองอีกพรรคหนึ่งยังไม่ลาออก นั้นในมติที่ประชุมก็ขอให้รองหน้าหน้าพรรคฯภาคเหนือได้สอบถามสมาชิกท่านนั้นว่า จะมีแนวทางในการดำเนินการทางการเมืองอย่างไร เพราะว่าเราก็เชื่อว่าเขาก็ยังอยู่กับพรรคแต่เมื่อประกาศตัวออกมาแล้วถ้าหากว่าไม่เป็นความจริงต้องปฏิเสธ ถ้าเป็นความจริงต้องพิจารณาตัวเองแล้วก็ต้องลาออกจากพรรคไป หรือพรรคฯให้โอกาสว่าในการทำงานในด้านการเมืองเช่นนี้ ต้องถือเป็นความไร้มารยาททางการเมืองอย่างยิ่ง ซึ่งต่อ ๆ ไปจะมีให้เห็นอีกและพรรคก็ต้องออกมาพูดจากับสาธารณะชนต่อไป อันนี้ก็เป็นประเด็นที่คุยกันวันนี้--จบ--
-ยก-