กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)
ฟิทช์-กรุงเทพฯ-ลอนดอน 22 สิงหาคม 2544: บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาวที่ A(tha) และแนวโน้มมีเสถียรภาพ แก่หุ้นกู้บริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2544 ซึ่งค้ำประกันหนี้โดย บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ.2547 และ หุ้นกู้บริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2544 ซึ่งค้ำประกันหนี้โดย บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ครบกำหนดไถ่ถอน พ.ศ. 2549 ซึ่งมีมูลค่าไม่เกินชุดละ 5.0 พันล้านบาท หรือประมาณ 110 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวน 87.3% ในบริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) ในความเห็นของฟิทช์ อันดับเครดิตของหุ้นกู้มีประกันของบริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน)สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือของตัวบริษัทเอง ฟิทช์เห็นว่าการค้ำประกันหุ้นกู้ของบริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) นั้นไม่สามารถเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ได้ ฟิทช์เชื่อว่าอันดับเครดิตของ บริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) อยู่สูงกว่าบริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หนึ่งอันดับ ในครึ่งปีแรกของปี2544 บริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย ต่อดอกเบี้ยจ่าย (EBITDA/Interest) ที่ 9.8 เท่า และมีสัดส่วนหนี้สุทธิต่อ EBITDA ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (Net Debt/LTM EBITDA) ที่ 1.5 เท่า ส่วนผลประกอบการของบริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ในครึ่งปีแรกของปี2544 มีสัดส่วน EBITDA/Interest ที่ 2.4 เท่า และมี Net Debt/LTM EBITDA ที่ 5.2 เท่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในการออกหุ้นกู้นี้ บริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) จะนำไปใช้ในการจ่ายคืนเงินกู้ธนาคารและเงินกู้จากบริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนรวมประมาณ 6.0-6.5 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะสำรองไว้สำหรับการขยายกิจการ ในเดือน มิถุนายน 2544 ฟิทช์ได้จัดอันดับเครดิตให้กับบริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) โดยจัดอันดับเครดิตหนี้ระยะยาวที่ระดับ A(tha) และระยะสั้นที่ระดับ F1(tha)
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ สะท้อนถึงความเป็นผู้นำของบริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) ในอุตสาหกรรมการผลิตเยื่อกระดาษ กระดาษและบรรจุภัณฑ์ของประเทศไทย บริษัทมีข้อได้เปรียบจากการเป็นผู้ผลิตแบบครบวงจร ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดต้นทุนการผลิตและความผันผวนของกำไรเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ผลิตอื่นที่ทำในลักษณะไม่ครบวงจร สินค้าและบริการที่มีคุณภาพประกอบกับความคล่องตัวในการผลิต ทำให้บริษัทสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดในประเทศสูงสุดทั้งในด้านกระดาษอุตสาหกรรม กระดาษพิมพ์เขียน และบรรจุภัณฑ์ บริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตกระดาษอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่สุดในแถบเอเชียแปซิฟิค และ เป็นผู้ผลิตกระดาษคราฟท์ใหญ่เป็นอันดับที่สามในเอเชีย
นอกจากนี้ อันดับเครดิตของหุ้นกู้ยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัท เยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) ผลประกอบการที่ดีในปี 2543 และ ในครึ่งปีแรกของ ปี2544 ได้ช่วยเสริมสร้างสถานะทางด้านการเงินของบริษัทและบริษัทย่อยให้แข็งแกร่งขึ้นจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 และ ปี 2541 ในครึ่งปีแรกของปี2544 บริษัทและบริษัทย่อยมียอดขายรวมในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาที่ 27.9 พันล้านบาท หรือประมาณ 614 ล้านเหรียญสหรัฐ และมี LTM EBITDA ที่ 8.2 พันล้านบาท หรือประมาณ 180 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ฟิทช์เห็นว่าการเจริญเติบโตของผลประกอบการในปี 2544 จะถูกจำกัดโดย ราคากระดาษที่อ่อนตัวลง การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และกำลังการผลิตในประเทศของกระดาษที่ยังคงมีเกินความต้องการ บริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน)กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการขยายกำลังการผลิตในส่วนของเยื่อกระดาษ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณไม่เกิน 140 ล้านเหรียญสหรัฐ เงินลงทุนส่วนหนึ่งจะนำมาจากการออกหุ้นกู้นี้ ภาระหนี้ใหม่ที่เกิดจากการออกหุ้นกู้ในส่วนที่สำรองไว้สำหรับการขยายกิจการจะส่งผลให้ภาระหนี้และดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ฟิทช์เห็นว่าสถานะทางด้านการเงินของบริษัทหลังจากการขยายกำลังการผลิต จะยังคงสามารถยืนอยู่ในอันดับเครดิตในระดับปัจจุบันได้
กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัท จะถูกนำไปชำระหนี้ทั้งหนี้ธนาคารและเงินกู้ยืมจากบริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นลำดับแรก กระแสเงินสดส่วนที่เหลือจะถูกนำไปใช้ในโครงการลงทุน และจ่ายเงินปันผลคืนแก่ผู้ถือหุ้น จากทีมผู้บริหารมืออาชีพและความมุ่งมั่นที่จะสร้างธรรมาภิบาลของบริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทเยื่อกระดาษสยาม จำกัด (มหาชน) รวมถึงการคุ้มครองประโยชน์ของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย สืบเนื่องมาจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของทั้งสองบริษัท ฟิทช์เชื่อว่า ความโปร่งใสของรายการระหว่างกันของทั้งสองบริษัทจะอยู่ในระดับที่เป็นที่ยอมรับ บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) มีผู้ถือหุ้นหลักคือ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
สามารถขอรับรายงานฉบับสมบูรณ์ ที่ www.fitchratings.com หรือ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ติดต่อ Vincent Milton, กรรมการผู้จัดการ + 662 655 4759อรวรรณ การุณกรสกุล, CFA, กรรมการ, Corporates + 662 655 4760ภิมลภา สิมะโรจน์, ผู้ช่วยกรรมการ, Corporates + 662 655 4761วสันต์ ผลเจริญ, นักวิเคราะห์, Corporates +662 655 4763
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่า 'AAA' ในระดับการจัดอันดับเครดิตแบบสากล (International Ratings) อันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับอันดับเครดิตแบบสากล เนื่องจากอันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ "AAA" และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น "AAA(tha)" ในกรณีของประเทศไทย--จบ--
-สส-
- ๑๕ พ.ย. EXIM BANK โชว์สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง คงอันดับเครดิตสูงสุดในประเทศ ระดับ AAA(tha) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ BBB+ เท่ากับประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12
- ๑๕ พ.ย. SME D Bank ปลื้ม 'ฟิทช์ เรทติ้งส์" คงอันดับเครดิตสูงสุดในประเทศ ระดับ AAA(tha) สะท้อนสถานะมั่นคง มีบทบาทสำคัญช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างโอกาสให้เอสเอ็มอีไทย
- ๑๕ พ.ย. ฟิทช์คงอันดับเครดิต บริษัท ลีสซิ่งไอซีบีซี (ไทย) จำกัด ที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ