กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงพาณิชย์พร้อมปรับกลยุทธ์ สร้างแบรนด์เนมกู้ชื่อสินค้าไทย หวังขยายฐานส่งออกเพิ่ม และจัดตั้ง ศูนย์กระจายสินค้า เพื่อตัดคนกลางในยุโรปตะวันตกนายคณิสสร นาวานุเคราะห์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแนวทางขยายการส่งออกสินค้าไทยไปยัง ประเทศโปแลนด์ว่า หากพิจารณาการแข่งขัน ของสินค้าไทยในตลาดโปแลนด์ กับสินค้าที่ส่งออกจากประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศจีนแล้ว เห็นได้ชัดว่าปัจจุบันสินค้าไทยประสบปัญหา การแข่งขันกับจีน และเวียดนามมากที่สุด ส่วน อินโดนีเซียจัดเป็นคู่แข่งที่สำคัญในอนาคต หากไทยยังไม่มีการปรับตัว ทั้งนี้ไทยจะเสียเปรียบในด้านราคา แต่ก็เป็นที่ ยอมรับในด้านคุณภาพ และการส่งมอบสินค้า ที่มีความแน่นอนกว่าจีนและเวียดนาม ซึ่งในระยะต่อไป เมื่อชาวโปแลนด์ มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น น่าจะต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูงขึ้น สินค้าไทยจึงน่าจะมีโอกาส ส่งขายในโปแลนด์ได้มาก ขึ้น อย่างไรก็ตามสินค้าไทยในปัจจุบัน ยังไม่สามารถรุกเข้าตลาดลูกค้าฐานะดีในโปแลนด์ได้ เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้ พอใจที่จะซื้อสินค้าที่มีแบรนด์เนมของยุโรปและอเมริกามากกว่า
นายคณิสสร กล่าวต่อว่าไทยควรจะมีการสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าให้มากขึ้น เพราะปัจจุบันความเป็นสินค้าไทยเป็นที่ รู้จักเฉพาะผู้นำเข้าแต่ผู้บริโภคยังรู้จักน้อยมาก ชาวโปแลนด์จะสับสนระหว่างสินค้าไทยกับสินค้าไต้หวัน ดังนั้นการ ประชาสัมพันธ์ความเป็นสินค้าไทยให้ตลาดโปแลนด์รู้จัก น่าจะช่วยให้สินค้าไทย มีจุดขายของตนเองชัดเจนขึ้น ซึ่งควร เริ่มจากสินค้าประเภทอาหาร เพราะคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค โดยส่งเสริมสินค้าไทยในซุปเปอร์มาร์เก็ตและ ไฮเปอร์มาร์เก็ต เนื่องจากผู้บริโภคโปแลนด์เปลี่ยนพฤติกรรม หันมาซื้อสินค้าในสถานที่ดังกล่าวมากขึ้น
นอกจากนี้ผู้ประกอบการส่งออก ควรไปจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า ในโปแลนด์หรือเยอรมัน เนื่องจากผู้นำเข้าโปแลนด์ ขาดเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ และโปแลนด์กับไทยก็มีระยะทางการขนส่งไกล อีกทั้งการทำการค้ายังต้อง ผ่านทางยุโรปตะวันตก ทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้น หากผู้ส่งออกไทยมีศูนย์กระจายสินค้าของตนเอง จะช่วยให้สามารถ ตัดคนกลางในยุโรปตะวันตกได้ และสามารถเสนอราคาขาย ที่แข่งขันได้ดีขึ้น รวมทั้งการส่งมอบสินค้าก็เร็วขึ้นด้วย--จบ--
-สส-
- พ.ย. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: แด๊ดดี้ โด ร่วมงาน Rainbow Fair 2009
- พ.ย. ๓๗๕๙ เชิญร่วมงานสัมมนา “Social Network: e-Commerce สายพันธุ์ใหม่ 2009”
- พ.ย. ๒๕๖๗ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าหวังใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ลุยต่อ “อี-คอมเมิร์ซ ออนไลน์ รุ่น 3” เร่งสร้างผู้ประกอบการอี-คอมเมิร์ซรายใหม่ คาดอีก 3 ปีมีจำนวนเพิ่มเป็น 12,000 ราย