กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--สบพ.
สบพ. มั่นใจ พันธบัตรสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน ไปได้สวย เดินหน้า Road Show นักลงทุนรายย่อย หรือประชาชนทั่วไป 30 กันยายน นี้ ที่ปรึกษาทางการเงินย้ำ อัตราความเสี่ยงมีน้อยมาก
นายศิวะนันท์ ณ นคร ผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) (สบพ. ) เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 กันยายน 2548 นี้ ระหว่างเวลา 10.00 - 12.00 น. ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สบพ.ร่วมกับสถาบันการเงิน จะทำการจัด Road Show เพื่อ สรุปข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพันธบัตรสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) ให้แก่นักลงทุนรายย่อย หรือประชาชนทั่วไป ได้เข้ารับฟังได้ฟรี ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เพราะพันธบัตรมีอายุที่ค่อนข้างสั้นซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเนื่องจากยังไม่มีตราสารใดที่มีอายุพันธบัตรเพียง 1-3 ปี และมีคุณภาพสูงเท่าพันธบัตรของ สบพ. และเชื่อว่าจากการประกาศอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ (29 กย.2548) จะทำให้กลุ่มนักลงทุนและประชาชนทั่วไปเข้าจองพันธบัตรอย่างล้นหลาม
นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า “การที่ บริษัท ทริส เรทติ้ง จำกัด หรือ TRIS ได้จัดอันดับพันธบัตรของสถาบันฯ ในระดับ AA- นี้ ผมว่าอันดับความน่าเชื่อถือนั้นค่อนข้างสูง หากเปรียบกับพันธบัตรรัฐบาล เนื่องจาก TRIS ได้พิจารณาถึงโครงสร้างฐานะการเงินของสบพ.แล้วว่ามีความน่าเชื่อถือดังนั้นการซื้อพันธบัตรสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) ในครั้งนี้ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกับนักลงทุน”
ด้านนายวราห์ สุจริตกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด กล่าวว่า “พันธบัตรของสถาบันฯ ได้รับการจัดอันดับความเสี่ยงจาก TRIS ที่ระดับ AA- หมายความว่าเป็นตราสารที่มีความเสี่ยงในระดับต่ำ ซึ่งตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตเดียวกันคือ หุ้นกู้ของการบินไทย จึงมั่นใจผู้ที่ซื้อพันธบัตรสบพ.จะได้รับการคืนหนี้ที่ค่อนข้างแน่นอน เทียบเคียงกับพันธบัตรรัฐบาล”
อย่างไรก็ตามการจองซื้อพันธบัตรล็อตแรกจำนวน 22,000 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็นพันธบัตรอายุ 1 ปี วงเงิน 8,800 ล้านบาท อายุ 2 ปี วงเงิน 8,800 ล้านบาท และ 3 ปี วงเงิน 4,400 ล้านบาท โดยจะเปิดให้สถาบันการเงินและประชาชนทั่วไปจองซื้ออย่างละครึ่ง สำหรับการเปิดจองนั้น จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 10-12 ตุลาคม 2548 และจำหน่ายพันธบัตรในวันที่ 13 ตุลาคม 2548 ซึ่งรูปแบบการจองนั้นขึ้นอยู่กับการบริหารงานของแต่ละธนาคารผู้จัดจำหน่ายทั้ง 3 แห่ง คือ ธนาคารทหารไทย ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารนครหลวงไทย ว่ามีมาตรการในการจัดการอย่างไร ซึ่งนักลงทุนรายย่อยสามารถสอบถามได้จากธนาคารดังกล่าวทั้ง 3 แห่ง ทุกสาขาทั่วประเทศ”--จบ--