กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--กทม.
เมื่อวันที่ 17 ก.ค.44 เวลา 17.00 น. ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง นายมุดตาฝ้า หมันงะ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานปิดการสัมมนาระดมความคิดเห็น เพื่อกำหนดวิสัยทัศน์กรอบการพัฒนากรุงเทพมหานคร แผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2545-2549) ครั้งที่ 2 โดยมี ผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยข้าราชการกรุงเทพมหานครระดับปฏิบัติที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำแผนฯ ส.ก.,ส.ข.และหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ ประชาชน กว่า 1,000 คน
รองผู้ว่าราชการการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การระดมความคิดเห็นเพื่อกำหนดวิสัยทัศน์กรอบการพัฒนากรุงเทพมหานคร แผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2545-2549) ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งตามขั้นตอนการจัดทำแผนกำหนดให้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการและการสัมมนาระดมความคิดเห็นจากทุกฝ่าย รวม 5 ครั้ง โดยผลสรุปที่ได้ทั้งหมดจะนำไปพิจารณาจัดทำแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2545-2549) เพื่อทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองน่าอยู่ สำหรับการจัดทำแผนพัฒนากรุงเทพมหานครฯจะเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน เพราะประชาชนเป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่กับปัญหา จึงสามารถบอกได้ว่าปัญหาอะไรที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
นางณฐนนท กล่าวว่า การระดมความคิดเห็นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การจัดทำแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 6 มีความสมบูรณ์ เพราะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ตรงจุดมากที่สุดตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ต้องการให้เกิดการระดมความคิดเห็นในการจัดทำแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร โดยเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนากทม.ให้มากที่สุด สำหรับปัญหาหลัก ๆ ที่ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ระดมความคิดเห็นในวันนี้ เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาการจราจรและขนส่ง ปัญหาสาธารณูปโภค ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว ฯลฯ สำหรับผลการระดมความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้จะนำไปเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการสัมมนาครั้งที่ 3 ซึ่งจะมีการสัมมนาในต้นเดือนส.ค. 44 โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนา จำนวน 500 คน เพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์ต่อไป และผลที่ได้จากการสัมมนาระดมความคิดเห็นทั้ง 5 ครั้ง จะนำเข้าสู่การประชุมในระดับผู้บริหารของกทม.และคณะกรรมการพัฒนากรุงเทพมหานครซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากภาครัฐ และภาคเอกชน ก่อนที่จะมีการประกาศออกมาเป็นแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 6 (พ.ศ.2545-2549) ในเดือนตุลาคม 2544 ต่อไป
นายพงษ์ศักดิ์ เสมสันต์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กทม. เปิดเผยว่า ผลสรุปจากการระดมคิดเห็นของผู้เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมสัมมนาส่วนใหญ่ได้มีความคิดเห็นตรงกันในหลายเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตประจำวัน ได้แก่ เรื่องสาธารณูปโภค ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่ สาธารณะประโยชน์ เช่น ต้นไม้ ยังมีกิ่งไม้ระเสาไฟฟ้า สวนสาธารณะ ควรมีการจัดระเบียบให้น่าเข้าไปใช้บริการและพักผ่อนหย่อนใจ หาบเร่-แผงลอยตามบาทวิถี ไม่ควรตั้งวางเกะกะกีดขวางทางเท้า เป็นต้น ทั้งนี้ประชาชนในชุมชนได้แสดงความต้องการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ดังกล่าวด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นผู้สัมผัสและได้รับผลกระทบโดยตรงจากปัญหาต่าง ๆ ส่วนในเรื่องการให้บริการของกรุงเทพมหานครนั้น เห็นว่าบริการของสำนักงานเขต โรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข ฯลฯ ควรมีการให้การบริการที่รวดเร็ว มีการจัดเก็บเอกสารและแบบฟอร์มต่าง ๆ อย่างเป็นระบบโดยใช้คอมพิวเตอร์ สำหรับเรื่องที่ประชาชนมีความชื่นชมต่อกทม. ได้แก่ เรื่อง ONE STOP SERVICE ซึ่งประชาชนเห็นว่าทุกสำนักงานเขตควรจะมีการพัฒนาโดยนำระบบการให้บริการแบบ ONE STOP SERVICE มาใช้ เพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการให้บริการประชาชน--จบ--
-นห-