กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง
ยังคงจำกันได้เมื่อ 4 ปีก่อนที่ความเกรียงไกรของนักชกไทยมวยสากลสมัครเล่น ควงกำปั้นเหรียญทองโอลิมปิคมาเป็นสมบัติให้คนไทยทั้งชาติได้ชื่นชมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นฝีมือของนักมวยไทยนาม สมรักษ์ คำสิงห์ กับเพื่อนๆ โดยการนำทีมของพลเอกเชษฐา ฐานะจาโร นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ที่มีการเตรียมทีมมาเป็นระยะเวลานาน พร้อมกับได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากบริษัท โอสถสภา ที่วางแผนช่วยเหลือทั้งด้านการเงิน,การวางแผนเตรียมทีม และการประชาสัมพันธ์โฆษณาให้คนไทยตื่นตัว
ในปีนี้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิค 2000 ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย บริษัท โอสถสภา จำกัด ยังคงเดินหน้าสร้างแคมเปญวีรบุรุษเหรียญทองโอลิมปิค ให้กับขาวไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะในครั้งนี้เป็นการเริ่มเข้ายุคศักราชปี 2000 สมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จึงได้ตั้งเป้าที่จะได้เหรียญทองเพิ่มเติมจากเดิมตั้งเป้าไว้ 1 เหรียญทอง เป็น 2 เหรียญทอง จากนักชกไทยที่เข้าสู่รอบสุดท้ายของมวยสากลสมัครเล่นถึง 9 คน ซึ่งก็นำทีมโดย สมรักษ์ คำสิงห์ อีกเช่นเดิม ซึ่งอยากทำสถิติเป็นนักชกมวยไทยสากลสมัครเล่นคนแรกในประวัติศาสตร์เช่นกัน ที่คว้าชัยโอลิมปิค 2 ครั้งติดต่อกัน
บริษัทโอสถสภา จึงได้ริเริ่มดำเนินโครงการ "เพื่อชาติไทย สู้ด้วยใจเกินร้อย" โดยเริ่มทำแคมเปญสนับสนุนทีมนักชกมวยสากลสมัครเล่นของไทยอย่างจริงจัง ตั้งแต่เดือนเมษายน 2543 ที่ผ่านมา จนกระทั่งถึงช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค โดยมีเครื่องดื่ม "เอ็ม-150" เป็นแม่งานหลักที่ให้การสนับสนุน โดยจากประสบการณ์การทำงานสร้างแคมเปญรณรงค์ให้คนไทยส่งแรงใจไปเชียร์นักกีฬาไทยที่แอตแลนต้า ทางผลิตภัณฑ์เอ็ม-150 และเอเยนซี่โฆษณา คือ สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด ได้นำข้อมูลในอดีตมาเป็นจุดวิเคราะห์วางแผนสร้างแคมเปญของโอลิมปิค ซิดนีย์ อย่างละเอียด โดยภายใต้แคมเปญนี้จะประกอบด้วยโฆษณาทางโทรทัศน์ 2-4 เรื่อง สื่อหนังสือพิมพ์,โปสเตอร์ติดร้านค้า,เสื้อยืด,ป้ายผ้า, สปอตวิทยุ,เพลงใจเกินร้อย,ฯลฯ โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดที่ปูพรมอย่างหนักคือชุด "9 วีรบุรุษ" ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการที่จะสื่อให้ชาวไทยทุกคน ได้เห็นและตระหนักถึงความมานะบากบั่นในการฝึกซ้อมของนักชกไทยมวยสากลสมัครเล่นทั้ง 9 ซึ่งได้แก่ โชติพัฒน์ วงษ์ประเทศ/สุบรรณ์ พันโนน/พงษ์ศักดิ์ เหรียญทวนทอง/วิจารณ์ พลฤทธิ์/พรชัย ทองบุราณ/ภาคภูมิ แจ้งโพธิ์นาค/พงษ์สิทธิ์ เวียงวิเศษ/สมชาย ฉิมรักษ์ และสมรักษ์ คำสิงห์ พร้อมกันนี้ยังเชิญชวนให้ชาวไทยทุกคนช่วยกันส่งแรงใจเชียร์นักกีฬา และเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการสร้างเกียรติประวัติให้แก่ชาติไทยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทีมงานเอเยนซี่ คือ สปา แอตเวอร์ไทซิ่ง ได้ยกกองไปถ่ายทำถึงแคมป์เก็บตัวนักมวยทั้งที่เขาใหญ่และที่ซิดนีย์ พร้อมได้วางแผนเพิ่มเติมร่วมกับผลิตภัณฑ์ เอ็ม-150 ซึ่งเตรียมงานได้อย่างดีว่า ในจำนวนนักมวยทั้ง 9 คน ทีมงานจะถ่ายทำเจาะแต่ละคนไว้ล่วงหน้าว่าได้เหรียญทอง,เหรียญเงิน,เหรียญทองแดง เป็นการเตรียมพร้อมล่วงหน้า และเมื่อถึงเวลาและตรวจสอบแน่ชัดว่านักมวยคนนั้นได้เหรียญอะไร ก็จะมีทีมงานของสปาฯ ประสานงานกับสถานีโทรทัศน์ เพื่อส่งเทปม้วนล่าสุดให้ออกอากาศทันที ผลก็คือ เมื่อวิจารณ์ พลฤทธิ์ ชกชิงเหรียญทอง ในเวลา 9.00 น. เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม หลังจากทราบผลไม่ถึง 2 ช.ม. สถานีโทรทัศน์ไอทีวี และช่อง 7 สี ก็ออกอากาศสปอตโฆษณาชุด "วิจารณ์ เหรียญทอง" ในช่วงข่าวภาคเที่ยงทันทีนับเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่ออกอากาศได้เร็วที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกของวงการโฆษณาเมืองไทย ซึ่งการทำงานดังกล่าวได้สร้างความแปลกใจให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ต้องขอบคุณสถานีโทรทัศน์ทั้ง 2ช่อง ที่ได้ให้ความร่วมมือสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับแคมเปญโอลิมปิคของไทยเช่นกัน
สำหรับแคมเปญ "วีรบุรุษเหรียญทองโอลิมปิค เอ็ม-150" จะยังไม่จบเพียงเท่านี้ขณะนี้กำลังเตรียมดำเนินการต่อเนื่อง ซึ่งคงจะสร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมได้อีกเช่นกัน คงต้องติดตามชมในเวลาอันใกล้นี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
บจก. สปา แอดเวอร์ไทซิ่ง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คุณเขมทัตต์
โทร.259-0310-5 ต่อ 127--จบ--
-อน-