Settrade.com พร้อมเปิดใช้ฟรี 3 เดือน

ศุกร์ ๒๐ ตุลาคม ๒๐๐๐ ๑๐:๐๑
กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายสมคิด จิรานันตรัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า วันที่ 18 ตุลาคม ตลาดหลักทรัพย์ จะเปิดให้บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกของระบบซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเตอร์เน็ตของบริษัท settrade.com ซึ่งตลาดหลักทรัพย์จัดตั้งขึ้นด้วยการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติได้เปิดทดลองใช้ระบบซื้อขาย โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมในระยะ 3 เดือนแรก และวันที่ 24 ตุลาคมจะเปิดแถลงเปิดตัวบริษัท settrade.com อย่างเป็นทางการ
"เพื่อเป็นการทดสอบระบบของตลาดหลักทรัพย์ และช่วงระยะ3 เดือนตลาดหลักทรัพย์จะเก็บข้อมูลทั้งด้านต้นทุนค่าธรรมเนียมและปัญหาต่างๆเพื่อนำมาสรุปและหารือกับสมาชิกอีกครั้งว่าจะกำหนดทิศทางนโยบายอย่างไร เพื่อให้แข่งขันกับคู่แข่งได้
สำหรับอัตราค่าธรรมเนียมเบื้องต้น บริษัทจะเก็บอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับบริษัทหลักทรัพย์ที่จะใช้ระบบของตลาดหลักทรัพย์เป็นระบบซื้อขายหลัก โดยให้เลือก 2 แนวทาง คือ 1.เก็บค่าธรรมเนียมอัตรา10%ของค่าคอมมิสชั่นต่อ 1 การซื้อขาย หรือ คิดเป็นอัตราตายตัว 8 หมื่นต่อเดือน
ส่วนบริษัทหลักทรัพย์รายอื่นที่มีระบบอินเตอร์เน็ตแล้วจะเข้ามาใช้บริการตลาดหลักทรัพย์จะมี 2 แนวทางเลือกเช่นกัน คือ 1.เก็บอัตรา 2 หมื่นบาทต่อเดือน หรือ ค่าธรรมเนียม 20% ต่อ 1 รายการซื้อขาย
ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมดังกล่าวทางบริษัทอาจพิจารณาปรับค่าธรรมเนียมใหม่หลังจากเปิดให้ซื้อขายแล้ว 3เดือน
บริษัท settrade.com ถือหุ้นโดยตลาดหลักทรัพย์ 70% และ30% ถือโดยบริษัทเน็ตไลฟ์ ประเทศเยอรมันโดยมีนายสุรัตน์ พลาลิขิต รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เป็นผู้รักษาการประธานคณะกรรมการบริษัทหลังจากนั้นจะสรรหาบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นผู้บริหารซึ่งอาจเป็นบุคคลในวงการอินเตอร์เน็ต
อนาคตบริษัทมีแผนที่จะหาพันธมิตรร่วมทุนโดยระยะต่อไปตลาดหลกทรัพย์อาจถือหุ้นในบริษัทน้อยลงและมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ขณะนี้มีบริษัทบางรายเข้ามาทำธุรกิจการให้บริการเป็นตัวกลางการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเตอร์เน็ตโดยมีการตัดราคาแข่งขันกับตลาดหลักทรัพย์ นายสมคิดเห็นว่า ระบบความปลอดภัยของบริษัทถือเป็นจุดแข็งที่จะสามารถดึงลูกค้าได้ เนื่องจากธุรกิจเหล่านั้นลงทุนในมูลค่าต่ำและไม่มีการบริการอย่างเต็มระบบ สำหรับระบบของบริษัทเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อสร้างระบบรองรับการซื้อขายโดยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 40 ล้านบาท เชื่อว่าจะถึงจุดคุ้มทุนใน 3 ปี ต่อมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 4-5 พันล้านบาทต่อวัน หากภาวะดีขึ้นอาจมีจุดคุ้มทุนเร็วกว่านั้น--จบ--
-สส-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ