กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--ทีทีแอนด์ที
ทีทีแอนด์ทีรุกเปิดให้บริการ “ทีทีแอนด์ทีโชว์เบอร์” เพิ่มอีก 11 จังหวัดในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากเปิดเฟสแรก 9 จังหวัดไปแล้วเมื่อต้นปี พร้อมจัดโปรโมชั่นประหยัด 3 ต่อสำหรับลูกค้าผู้ขอใช้บริการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายอภิชาต ธรรมสโรช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทไทยเทเลโฟนแอนด์เทเลคอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ทีทีแอนด์ที ผู้วางระบบโครงข่ายและให้บริการโทรศัพท์ 1.5 ล้านเลขหมายในเขตภูมิภาค เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคมนี้ บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการ “ทีทีแอนด์ทีโชว์เบอร์” ซึ่งเป็นบริการแสดงเลขหมายเรียกเข้า เพิ่มเติมอีก 11 จังหวัดในเขตภาคเหนือและภาคใต้ อันได้แก่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พิจิตร นครสวรรค์ ภูเก็ต พังงา นครศรีธรรมราช ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส หลังจากที่ได้เปิดให้บริการเฟสแรก 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก สุราษฎร์ธานี สงขลา พัทลุง และสตูล ไปแล้ว เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
สำหรับบริการทีทีแอนด์ทีโชว์เบอร์นี้ เป็นบริการที่ทำให้โทรศัพท์บ้านสามารถแสดงเลขหมายเรียกเข้าได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถทราบเลขหมายของผู้ที่โทรศัพท์เข้ามาได้ก่อนที่จะรับสาย รวมทั้ง ในกรณีที่ไม่มีผู้รับสาย ตัวเครื่องก็จะบันทึกเลขหมายของผู้เรียกเอาไว้เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถโทรศัพท์กลับได้ในภายหลัง ซึ่งทีทีแอนด์ทีถือว่าเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานในประเทศรายแรกที่เปิดให้บริการดังกล่าว สำหรับลูกค้าของทีทีแอนด์ทีที่ต้องการใช้บริการนี้ จะต้องมีอุปกรณ์ปลายทางสำหรับเป็นตัวแสดงเลขหมายโทรเข้า ซึ่งมี 2 แบบด้วยกัน คือเครื่องทีทีแอนด์ทีโชว์เบอร์(CID Box) และแบบโทรศัพท์ทีทีแอนด์ทีโชว์เบอร์ (CID Phone)
“แบบเครื่องทีทีแอนด์ทีโชว์เบอร์จะเหมาะกับลูกค้าเก่าที่มีเครื่องโทรศัพท์อยู่แล้ว เพียงนำมาต่อกับหัวเครื่องโทรศัพท์ก็สามารถใช้ได้ ส่วนแบบโทรศัพท์ทีทีแอนด์ทีโชว์เบอร์ ซึ่งเป็นตัวเครื่องโทรศัพท์และมีหน้าจอแสดงหมายเลขเรียกเข้าอยู่ในตัวเครื่องอยู่แล้ว จะเหมาะกับผู้ใช้บริการที่ขอติดตั้งโทรศัพท์ใหม่ ซึ่งในช่วงนี้ บริษัทฯ ก็ได้จัดรายการพิเศษมอบความประหยัด 3 ต่อให้กับผู้ขอใช้บริการ ได้แก่ ไม่คิดค่าบริการแรกเข้า, ไม่คิดค่าบริการรายเดือนตลอดปี 2543 และจำหน่ายอุปกรณ์ ทีทีแอนด์ทีโชว์เบอร์ในราคาลดพิเศษ เพียง 599 บาทสำหรับเครื่องทีทีแอนด์ทีโชว์เบอร์ และ 1,299 บาทสำหรับโทรศัพท์ทีทีแอนด์ทีโชว์เบอร์ ซึ่งเราได้เปิดตัวบริการนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าในระดับที่น่าพอใจ เราจึงพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถรองรับการใช้บริการในหลายจังหวัดมากขึ้น จนถึงปัจจุบันนี้ บริษัทฯ สามารถเปิดให้บริการได้รวมแล้ว 20 จังหวัดในเขตภาคเหนือและภาคใต้ และบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายพื้นที่ให้บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป สำหรับลูกค้าผู้ที่สนใจใช้บริการดังกล่าวสามารถสอบถามและซื้ออุปกรณ์ได้ที่ศูนย์บริการทีทีแอนด์ทีในจังหวัดที่เปิดให้บริการ ดังกล่าวแล้วข้างต้น หรือโทรศัพท์มาที่ศูนย์บริการลูกค้าทีทีแอนด์ที หมายเลข 1103 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” นายอภิชาตกล่าวให้รายละเอียดเพิ่มเติม--จบ--
-สส-