มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และทบวงมหาวิทยาลัย ร่วมจัดงาน เลือกแนวทาง วางอนาคต กับ ตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา

พุธ ๐๖ ธันวาคม ๒๐๐๐ ๑๕:๒๓
กรุงเทพฯ--6 ธ.ค.--มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และทบวงมหาวิทยาลัย ร่วมจัดงาน เลือกแนวทาง วางอนาคต กับ ตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา โดยมีสถาบันระดับอุดมศึกษาเข้าร่วม กว่า 80 สถาบัน ในวันที่ 6 — 8 ธันวาคม 2543 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขนอาจารย์ชัยวัฒน์ ศีตะจิตต์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า ปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รับเป็นเจ้าภาพจัดงานในรูปแบบใหม่เพื่อสนองตรงความต้องการของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ด้วยชื่องาน ”เลือกแนวทาง วางอนาคต กับ ตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา” ในวันที่ 6 — 8 ธันวาคม 2543 เวลา 10.00 — 18.00 น. ณ อาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ และอาคารศูนย์เรียนรวม 3 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โดยมีการเผยแพร่ความรู้ ข้อมูล เกี่ยวกับหลักสูตรอุดมศึกษา ทั้งหลักสูตรภาคปกติ หลักสูตรพิเศษ และหลักสูตรภาษาอังกฤษที่เปิดสอนในสถาบันอุดมศึกษาทั้งรัฐและเอกชน ที่สังกัดและไม่สังกัดทบวงมหาวิทยาลัย ให้กับ นักเรียน อาจารย์แนะแนว ผู้ปกครอง และผู้สนใจทั่วไป ให้ได้รับความรู้ ความเข้าใจ ถึงการสอบคัดเลือกเอ็นทรานซ์ระบบใหม่ ความถนัดเฉพาะด้านของนักเรียน รวมทั้ง เป็นการส่งเสริมให้มีการศึกษาต่อในประเทศเพิ่มมากขึ้น และยังเป็นการประชาสัมพันธ์ให้นักศึกษาต่างชาติ เข้ามาศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทยมากขึ้นด้วย รูปแบบการจัดงาน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เส่วนแรก จัดบริเวณอาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ ตลอดทั้ง 3 วัน ซึ่งประกอบด้วย นิทรรศการแนะแนวหลักสูตรอุดมศึกษาของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่สังกัดทบวง ฯ และไม่สังกัดทบวง กว่า 80 สถาบัน เทคนิคการเลือกสาขาวิชา การเลือกอันดับ การคิดคะแนน GPA และ PR โดย อาจารย์และเจ้าหน้าที่ จะคอยให้คำแนะนำอย่างละเอียด พร้อมเอกสาร หลักสูตร แจกผู้ร่วมงานด้วย เส่วนที่ 2 จัดบริเวณ อาคารศูนย์เรียนรวม 3 (ศร.3) ในส่วนนี้ ประกอบด้วยการบรรยาย การอภิปราย แนะแนวการศึกษาในสาขาวิชาการกลุ่มต่าง ๆ รวม 9 กลุ่ม โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น ๆ โดยเฉพาะ วันพุธที่ 6 ธันวาคม 2543 มี กลุ่มวิชาสถาปัตยกรรม/วิจิตรศิลป์ กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ กลุ่มวิชาศึกษาศาสตร์ / ครุศาสตร์ และ การบรรยายพิเศษเรื่อง “ การสอบคัดเลือกเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา” โดย คุณวราภรณ์ สีหนาท ผู้อำนวยการสำนักทดสอบกลาง ทบวงมหาวิทยาลัย วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม 2543 มี กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์กายภาพประยุกต์และสิ่งแวดล้อม กลุ่มวิชาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี และ กลุ่มวิชาสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และศิลปาชีพ วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2543 มี กลุ่มวิชาอุตสาหกรรมเกษตร กลุ่มวิชาเศรษฐศาสตร์ / บริหารธุรกิจ และ กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร นอกจากนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ยังได้จัดให้มีร้านค้าจำหน่ายหนังสือ ใบสมัครของโครงการพิเศษต่าง ๆ เอกสาร วารสาร ที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ชมงานด้วย นักเรียน อาจารย์แนะแนว ผู้ปกครอง และผู้สนใจทั่วไป เข้าชมงาน เลือกแนวทาง วางอนาคต กับ ตลาดนัดหลักสูตรอุดมศึกษา ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมงาน ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ประสานกับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จัด รถบริการรับ — ส่ง ฟรี สำหรับผู้โดยสารรถไฟฟ้า บีทีเอส จากสถานีหมอชิต เข้ามาในบริเวณงาน ตั้งแต่เวลา 09.00 — 19.00 น. อีกด้วย เ รายละเอียดสอบถามที่ โทร 9428181-83 หรือ ^http://www.ku.ac.th-- จบ--
-สส-

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๐๗ ทีทีบี ครองธนาคารไทยคะแนนสูงสุดด้าน ESG ต่อเนื่องปีที่ 6 ตอกย้ำความสำเร็จบนเส้นทางสู่ การธนาคารเพื่อความยั่งยืน
๑๓:๔๐ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องหนุน กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย
๑๓:๒๕ หมอนรองกระดูกเสื่อม สาเหตุปวดร้าวลงขา
๑๒:๕๖ กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ มองเศรษฐกิจโลก 2025 ฟื้นตัว แม้มีปัจจัยเสี่ยง ชี้ตราสารหนี้และหุ้นยังคุ้มค่าท่ามกลางความผันผวน
๑๒:๒๗ Thailand Privilege Card จับมือ ASAVA ปรับโฉมยูนิฟอร์มด้านบริการ ภายใต้คอนเซปต์ GRACE สะท้อนอัตลักษณ์ไทยร่วมสมัยสู่สากล
๑๑:๐๔ เครือสหพัฒน์ จัดสัมมนาเสริมบทบาทคณะกรรมการ ESG เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
๑๑:๒๖ กสิกรไทยส่งบริการมัดใจตลาดเวียดนาม กวาด 2 รางวัลใหญ่ ระดับนานาชาติ สุดยอดบัตรเครดิตใหม่และสุดยอดธนาคารแห่งใหม่เพื่อเอสเอ็มอีออนไลน์
๑๑:๕๙ 'พฤกษา' ตอกย้ำผู้นำด้านอสังหาฯ ผนึกความเชี่ยวชาญด้านการอยู่อาศัย สู่การสร้างชุมชนสุขภาพดี มอบสิทธิพิเศษ และโครงการดูแลสุขภาพลูกบ้านตลอดปี
๑๑:๒๓ TFG ติดปีก! ปี 67 กำไรพุ่งแตะ 3,143.81 ลบ. เพิ่มขึ้น 486.93%
๑๑:๑๖ SO ตอบแทนผู้ถือหุ้นโดยจ่ายปันผล 85% ของกำไร หรือ 0.18 บาท/หุ้น กวาดกำไรปี 67 กว่า 153 ล้านบาท